30 เมษายน 2554 08:37 น.
ผู้สัญจร
เธอคงถูกเขาฟันแล้วดันทิ้ง
ช้ำใจยิ่งจึงอยากประกาศไว้
ให้ชาวบ้านได้เห็นเป็นอย่างไร
ว่ามีใครเขาทิ้งหญิงอย่างเธอ
พวกชาวบ้านฮือฮาที่มาเห็น
เหมือนเธอเป็นปาหี่ที่เสนอ
ความบันเทิงแสนเลอะที่เจอะเจอ
ชมเรื่องเพ้อเธอครวญปั่นป่วนไป
อันความงามหญิงไทยในอดีต
ความประณีตบรรจงเคยคงไว้
งามเพียบพร้อมมารยาทสะอาดใน
จากดวงใจที่งามตามครรลอง
มีเรือนสามน้ำสี่ที่กำหนด
งามหมดจดบริสุทธิ์ดูผุดผ่อง
กริยาเยื้องย่างทุกอย่างมอง
ท่วงทำนองสะอาดไม่บาดตา...
หากโดนฟันหลายหนทนไม่ไหว
ถูกทิ้งไปหลายหนจนผวา
ขอแนะนำก่อนแย่แก้กรรมมา
แม่ชีจ๋าหนูถูกทำด้วยกรรมใด....
********
28 เมษายน 2554 23:13 น.
ผู้สัญจร
พ่อไม่อาจมีแม่ให้แก่เจ้า
แต่จะเฝ้าเจ้าอย่างไม่ห่างเหิน
ไม่ให้เจ้าเศร้าในดวงใจเกิน
พ่อพร้อมเดินจูงเจ้าทุกเช้าเย็น
แม้ไม่มีอ้อมแขนทดแทนแม่
เมื่อเจ้าแพ้แขนพ่อเจ้าพอเห็น
พร้อมจะกกกอดเกื้อเมื่อลำเค็ญ
พ่อยังเป็นพ่อเจ้าให้เข้าใจ
พ่ออาจทำหน้าที่ไม่ดีพร้อม
แต่พ่อยอมเพื่อเจ้าเข้าใจไหม
พ่อจะอยู่เคียงข้างไม่ห่างไกล
แม้ผู้ใดไม่อาจประกาศเทียม
พ่อไม่ได้หวังไกลให้ไขว่คว้า
เพียงเจ้ากล้าจะเดินเผชิญเหลี่ยม
ยืนหยัดด้วยดวงใจแม้ไหม้เกรียม
ใจพ่อเปี่ยมสุขล้นที่ทนรอ
พ่อสร้างสิ่งประเสริฐคือเกิดเจ้า
พ่อคอยเฝ้าตั้งจิตชีวิตขอ
ให้เจ้าอยู่ต่อไปให้เพียงพอ
ให้เจ้าทอถักสานวิมานตน
พ่อไม่อาจมีแม่ให้แก่เจ้า
แต่สัญญาจะเฝ้าเจ้าทุกหน
แม้วิญญาณใกล้สิ้นขอดิ้นรน
ดูเจ้าจนชีพดับไม่ลับเลือน...
----------
20 เมษายน 2554 22:31 น.
ผู้สัญจร
กาลครั้งหนึ่ง
ฉันทึ่ง ฉันขลาด วาดหวัง
มองหา บางสิ่ง จริงจัง
ลุกนั่ง ล้มกลิ้ง วิ่งวน
เสาะหา สิ่งใด ไม่รู้
วนอยู่ อย่างนี้ กี่หน
วิ่งตาม ด้วยความ อดทน
มืดมน หนทาง รางเลือน
กาลครั้งนั้น
ความฝัน ยังลอย คล้อยเคลื่อน
เฝ้าถาม ดวงใจ ใยเชือน
ชานเรือน เงียบเหงา เศร้าใจ
ถามดาว พราวฟ้า ว่าเหงา
ซึมเซา หนาวเหน็บ เจ็บไหม
เหมือนฉัน ตอนนั้น นั่นไง
ที่ใคร ทอดทิ้ง ยิ่งตรม
กาลครั้งนี้
วารี เวลา ยาขม
ดวงดาว กองไฟ สายลม
ดุจคม คมมีด กรีดมา
ฉันคิด ติดตาม ถามไถ่
แต่ไร้ สิ่งใด ให้หา
หรืออาจ เกิดจาก ชะตา
บัญชา ให้อยู่ ผู้เดียว
กาลครั้งหน้า
ใจล้า เลือนราง ทางเปลี่ยว
ต้นข้าว ที่รอ คอยเคียว
ยืนเหี่ยว แห้งตาย ปลายนา
เมื่อลม หายใจ ใกล้ดับ
จะนับ ถอยหลัง หวังว่า
หากใคร บังเอิญ เดินมา
เมตตา นำศพ กลบดิน
------------
13 เมษายน 2554 22:06 น.
ผู้สัญจร
เจ้ากบน้อยอยู่ในกะลาครอบ
เจ้าช่วยตอบปัญหาข้าสงสัย
เจ้าเห็นโลกทั้งโลกเป็นอย่างไร
ตอบได้ไหมเจ้ากบในกะลา
เจ้ากบน้อยมองหาผู้มาถาม
แล้วเอ่ยความตามจิต ข้าคิดว่า
โลกทั้งโลกมีใครผู้ใดมา
เทียบเทียมข้าสักครึ่งจึงไม่มี
ข้ากระโดดครั้งหนึ่งก็ถึงฟ้า
เสียงของข้ากังวานประสานถี่
กายของข้าโตใหญ่ในปฐพี
ในโลกนี้มีใครผู้ใดปาน
เจ้ากบน้อยในกะลาช่างน่าขัน
เจ้านึกฝันในกะลาน่าสงสาร
อยู่ในความมืดมนอนธการ
เพียงพบพานแต่ขอบกรอบกะลา
หากเจ้าเปิดกะลาขึ้นมาได้
ท้องฟ้าใสสว่างกระจ่างจ้า
เจ้าจะเห็นสัตว์ใหญ่ด้วยสายตา
จะรู้ว่าตัวเจ้าไม่เข้าใจ
เจ้าไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างใจคิด
เพราะเจ้าติดใต้ขอบที่ครอบไว้
หากเจ้ามีความกล้าพร้อมฝ่าไป
เจ้าจะได้นิยามแห่งความจริง
เจ้ากบน้อยออกจากกะลาครอบ
เห็นชาวนานั่งหมอบริมตลิ่ง
ข้างกะลาที่หงายหมายจะยิง
ก่อนจะนิ่งนอนแผ่ ไม่แก่ตาย
----------