10 ตุลาคม 2551 16:18 น.
ผู้งมงายในรัก
๏ หนาวลมเดือนตุลาฯ
หนาวน้ำตาพาตรมตรอม
วารเปลี่ยนอย่างแปลกปลอม
ปูทางเปิดเพื่อปิดปลาย
๏ ฤดูต่อฤดู
สาดลมซู่ทุกเส้นสาย
เลือดเนื้อทุกนางนาย
นึกสำนึกสำนึกเนา
๏ กระทำกระแสธาร
กระทำการดังก่อนเก่า
ซ้ำรอยและซ้ำเรา
จมด้วยเลือดด้วยความรัก
๏ จารชื่อว่าเพื่อชาติ
ประวัติศาสตร์เป็นศรีศักดิ์
ชาติพลีอย่างพร้อมพรัก
เพื่อผ่านพบไม่ผูกพัน
๏ ตุลาฯเดือนหนาวลม
เลือดเนื้อถมด้วยโทษทัณฑ์
ปิดป้องและปลุกปั้น
จริงก็เปลี่ยนเท็จก็ปลอม
๏ หนาวลมเดือนตุลาฯ
หนาวมายาเหมือนจำยอม
สำลักเสรีล้อม
ทุรนร่านวิญญาณเรา !.
..................................
20 มิถุนายน 2551 23:06 น.
ผู้งมงายในรัก
๏ ไม่มีหรอกเพื่อนเอ๋ยความเป็นกลาง
แต่ใช่แค่สองข้างอย่างสุดขั้ว
หากเขาเห็นสองข้างต่างเมามัว
ข้างหนึ่งยั่วข้างหนึ่งย่ำซ้ำเติมไทย
๏ เขามิได้วางเฉยเปิดเผยชัด
ไม่ร่วมซัดใช่ไม่สู้หรือผลักไส
เขาไม่เอาทุน sa-man ที่ jung-rai
และเขาไม่ร่วมไล่ผิดอย่างบิดเบือน
๏ ประชาธิปไตยคือเอาแต่ใจ ?
ชอบใครเชื่อใครในเมืองเถื่อน
เห็นด้วยคือพวกเราแบบเลือนเลือน
เห็นต่างไม่ใช่เพื่อนคือศัตรู ?
๏ เพื่อนเอ๋ยเราต่างมีความคิด
ถูกผิดจำแนกได้ใช่สุดกู่
โลกมิได้สุดขั้วสองข้างรู้
อีกหลายด้านยังมีอยู่อย่าย่ำยี
๏ ครรลองวิถีมีกระทำ
เห็นด้วยเห็นต่างนำโดยวิถี
กระบวนการตรวจสอบมรรคที่มี
ยุติธรรมนำชี้โดยกระบวน
๏ เพื่อนเอ๋ยไม่เลือกข้างใช่ขลาดกลัว
แต่สองข้างพร่ามัววิกฤติหวน
สติถามปัญญาตอบเพื่อทบทวน
พ่ายพังสมบรูณ์ถ้วนเพื่อชาติฤๅ ?.
.......................................
2 มิถุนายน 2551 15:02 น.
ผู้งมงายในรัก
๏ วิกฤติกลียุคไห้ เราเห็น
แบ่งฝ่ายแตกหักกระเซ็น แตกสิ้น
ร้อนไฟเร่าสิ้นเย็น กลียุค
เป็นอยู่รอด่าวดิ้น ดั่งใกล้อนธการ
๏ ขั้วหนึ่งหาญยุดยื้อ อำนาจ
อีกหนึ่งขั้วผูกขาด คิดสั้น
แบ่งขั้วแย่งเอาชาติ โดยชื่อ
โดยชอบไม่ชอบนั้น นึกอ้างลำพัง
๏ หวังใดมีอยู่ได้ อย่างไร
เมื่อหมดหวังร่ำไป อย่างนี้
หวังสุขสงบใคร ไม่คิด
กุมคร่าอำนาจชี้ นึกชี้สงบใด
๏ เสรีไทกล่าวอ้าง เสรี
โดยสิทธิอันพึงมี มิตรรู้
แล้วหน้าที่ใครยี -ย่ำเหยียบ
หรือหยาบฟาดฟันสู้ เซ่นไหว้เสรี
๏ ชีวิตถูกผิดรู้ โดยกระบวน
ประวัติศาสตร์ทบทวน สุดท้าย
เลือดต่อเลือดหากหวน ไห้ห่ม
ประวัติศาสตร์เลวร้าย เรื่องร้ายยืดยาว
๏ ใจชาวไทยรัดร้อย รวมกัน
อย่าแตกแยกฆ่าฟัน คว่ำฟ้า
สติเตือนสติรู้ทัน โดยสติ
ต่างฝ่ายต่างเร้นหล้า หลอกรู้ทันกันฯ
...........................................
27 พฤษภาคม 2551 19:23 น.
ผู้งมงายในรัก
๏ เวิ้งน้ำไล่น้ำทีละนิด
รุกคืบความคิดสนิทสนม
น้ำซึมรอยทรายแล้วจ่อมจม
ทับรอยอารมณ์ผลึกภวังค์
๏ ชื้นทรายดูดซับรับน้ำสาด
บางครั้งเกรี้ยวกราดกลืนความหวัง
บางคราช้าเฉื่อยดั่งชิงชัง
จากอีกฟ้าถึงอีกฝั่งไม่รั้งรอ
๏ เปลือกหอยเกลื่อนหาดกระจัดกระจาย
ริ้วน้ำซัดสายสำแดงส่อ-
ชีวิตอีกชีวิตน้ำตาคลอ
ไร้ชีวิตสืบต่อลมหายใจ
๏ ผืนทรายโอบซับรับสมดุล
ปลอบแมงกะพรุนด้วยหวั่นไหว
หย่อมขาวแมงกะพรุนสงบใน-
เวิ้งน้ำรุกไล่ผืนทรายชื้น
๏ แมงกะพรุนใหญ่น้อยแนบทรายอุ่น
พะเยิบพะยาบเย็นหยุ่นมิได้ฝืน
ชีวิตอีกชีวิตที่กลับคืน
อยู่กับผืนแผ่นน้ำและแผ่นทราย
๏ ระลอกคลื่นรุกน้ำทีละนิด
ตกผลึกความคิดและความหมาย
ชีวิตต่อชีวิตที่ตกตาย
ไม่มีอะไรเลวร้ายเป็นธรรมดาฯ
..............................................
อาทิตย์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑
หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
20 พฤษภาคม 2551 14:40 น.
ผู้งมงายในรัก
๏ ไม่ทรงแล้วยังทรุด
เพราะทรามฉุดให้โฉ่ฉาว
ยืดเยื้อต่อความยาว
ก็ยิ่งแย่โดยย่ำยี
๏ บ้านเมืองกลายมัวเมา
ด้วยคนเขลาเข้าข่มขี่
รักด่าไม่รักดี
ก็ยิ่งเดือดปลุกระดม
๏ เพื่อตนและเพื่อตัว
ยิ่งเมามัวยิ่งโสมม
ยิ่งเถื่อนก็ยิ่งถม
เพราะความถ่อยที่กระทำ
๏ เพื่อคนเพียงหนึ่งคน
ยอมจำนนให้ชี้นำ
ชาติเหยียบเอาเท้าย่ำ
ย่อมยับย่อยและยับเยิน
๏ ศรัทธาเสื่อมศรัทธา
เพราะชั่วช้าที่เชื้อเชิญ
ขัดขาและขัดเขิน
สิ้นคุณค่าศรัทธาคน
๏ เสื่อมโทรมเพราะต่ำทราม
นิยามตามเฉพาะตน
เหตุพร้อมจึงมีผล
เสื่อมเพราะผิดสันดาลพาลฯ
.........................................