22 กรกฎาคม 2545 11:50 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
ความรักของคนบางคนก็เริ่มต้นขึ้นได้ง่าย ๆ
ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆเพียงแต่อาศัยเวลาเรียนรู้กันนานหน่อย
จากความเป็นเพื่อนที่ค่อย ๆ สนิทกันมากขึ้น มากขึ้น
คุยกันได้ทุกเรื่อง วันละหลาย ๆ ชั่วโมง
เจอหน้าก็คุย กลับถึงบ้านก็โทรคุย
คุยๆๆๆ กันเข้าไป แบบว่าไม่เคยมีวันไหนที่ไม่มีอะไรคุยกัน
คุยไปคุยมาเราก็ชักเริ่มรู้สึกว่าไม่เคยคุยกับใครได้มากเท่านี้
มาก่อนในชีวิตแล้ว
"คนรัก"
ในแบบที่เราคิดก็คือคนที่เราจะคุยกับเขาไปได้ตลอดชีวิตอย่างนี้น่ะแหละ
เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่หนึ่งปีแล้ววันหนึ่งระหว่างที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน
เหมือนทุกวัน ก็บอกเขาไปทางโทรศัพท์ง่าย ๆ ว่าสงสัยจะ "รัก" เขาเข้าแล้วล่ะ
ปรากฏว่าใจตรงกันเพียงแต่เราแน่ใจก่อนเขา
ส่วนเขายังมัวแต่คิด ๆ เลยไม่ทันเรา โดนเราตัดหน้าบอกซะก่อน
แต่แล้วไม่รู้ทำไมรักกันหวานชื่นอยู่แค่ไม่กี่เดือน
อยู่ ๆ ก็เกิดหมดเรื่องคุยกันขึ้นมากะทันหัน มันแปลก ๆ
ไม่มีอะไรเหมือนเดิม เอาแต่ใจกันมากขึ้น
เรียกร้องกันมากขึ้น ต่างคนต่างไม่มีใครฟังใคร
พูดอะไรก็ผิดหูกันไปหมด
ยิ่งพยายามยิ่งเหมือนกลายเป็นคนแปลกหน้า
พอตัดสินใจว่าจะเลิกต่างคนก็ต่างเสียดายห่างกันได้ไม่กี่วันก็กลับมาคบกันอีก
เป็นยังงี้อยู่เป็นปี ๆเสียน้ำตาไปไม่รู้เท่าไรจนในที่สุดก็ตัดสินใจจบ
บอกเลิกเขาไป...บอกเหตุผลไปยาวเหยียดแล้วจบว่าอย่าโทรมาอีกเลย
เขาตอบกลับมาสั้น ๆ ว่าลาก่อน
ร้องไห้จนเหนื่อยแล้วก็จบกันไปแบบหายไปจากชีวิตกันและกันนานเป็นเดือน
จนวันหนึ่งก็รู้สึกว่าถึงแม้เราจะคบกันเป็นแฟนไม่ได้
ทำไมเราถึงจะต้องเสียเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งไปด้วยล่ะ
ในที่สุดเราสองคนก็กลับมาเป็นเพื่อนกัน
เป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิมหรือจะเรียกว่ามากกว่าเดิมก็น่าจะได้
คนบางคู่ก็แปลกดีนะพอเป็นเพื่อน
มันเหมือนมีช่องว่างดี ๆ ที่ทำให้เราต่างคนต่างได้หายใจ
ไม่เหมือนตอนเป็นแฟนที่กระทบกระทั่งกันซะจนต่างคนต่างเจ็บ
กลับมาเป็นเพื่อนกันคราวนี้ความรู้สึกดี ๆ
มันยิ่งดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
เพราะต่างก็ยอมรับแล้วว่าเราไม่มีทางกลับไปเป็นคนรักกันได้อีก
เราเลิกกันโดยที่ต่างคนต่างไม่ได้มีคนอื่น
พอกลับมาเป็นเพื่อนสนิท ก็คบกันอยู่หลายปีโดยไม่มีใคร
ในสายตาคนอื่นที่เฝ้ามองเราไม่มีใครเชื่อซักคนว่าเราเลิกกันแล้ว
ถามว่าตัดใจได้จริงเลยเหรอในตอนนั้นก็ตอบตรงๆ ว่าไม่หรอก
ทั้งที่รู้ว่าสำหรับเขาเราคือเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้นแล้วจริง ๆ
แต่พอได้ใกล้ชิดประหนึ่งเป็นคนรู้ใจกันอย่างนั้น
ในใจก็แอบหวังว่าจะมีซักวันหรือเปล่านะที่ต่างคนจะต่างกลับมารักกันอีก
แต่แล้วเขาก็ได้เจอคนที่เขารักและสามารถอยู่กับเขาได้จริง ๆ
แปลกดีเหมือนกันเพราะนึกว่าพอถึงวันนี้ตัวเองจะเจ็บจะทนไม่ได้
แต่พอถึงเวลาจริง ๆ กลับเฉย ๆ และมีความสุขไปกับเขาด้วย
คงเพราะ "ความรัก"ที่เคยมีมันเปลี่ยนเป็นความผูกพันไปโดยที่เราไม่รู้ตัวมั้ง
ถามว่ายังรักไหมก็ตอบได้อย่างไม่ลังเลอีกเหมือนกันว่า "รัก"
เขายังเป็นคนคนเดียวที่เรารู้สึกว่าคือคนที่จะคุยกันไปได้ตลอดชีวิต
และเขาเองก็รู้สึกกับเราอย่างนั้นเหมือนกัน
แต่ที่เป็นไปได้สำหรับเราสองคน
ก็คงแค่เป็นได้แค่ "เพื่อนรัก" เป็น
"คนพิเศษ"ของกันและกันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เท่านั้นเอง
16 กรกฎาคม 2545 18:55 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.... ทุกค่ายที่จาวตาลเคยไปมาจะมีงาน Inter Night
ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมระหว่างกัน
งานนี้ก็จัดเหมือนปาร์ตี้ทั่วไป แต่จะมีการแสดงของแต่ละประเทศ
และเราชาวค่ายก็จะทำอาหารของประเทศตัวเองมาทานร่วมกัน
.... เราคนไทย ๓ คนก็พยายามหาของที่มีอยู่ในโรงครัว
มาทำอาหารไทยแบบง่ายๆ และที่แน่นอนคือ ประหยัด....
ตกลงทำยำวุ้นเส้น (แบบตามมี...ตามเกิด)
ส่วนการแสดง....คนไทยก็รำอวยพรอ่อนหวาน โดยมี
พี่เอกเป็นคนบรรยายเป็นภาษาประกิตจาวตาลเป็นคนรำ....
พร้อมทั้งโปรยบุหงา....ปรากฏว่าการแสดงของเราได้รับการปรบมือ
แบบยาวนานนนนนน....และชาวค่ายคนอื่นๆ ก็รุมเก็บกลีบดอกไม้ที่โปรย
พี่เอกเลย บอกว่าจะเอาบุหงาใส่พานตั้งไว้ให้มาหยิบไปได้
(มามี้ซื้อบุหงาให้ไป ๒ ห่อใหญ่ค่ะ)
15 กรกฎาคม 2545 19:40 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.... หลังอาหารเย็น...ก็ถึงเวลาปลดปล่อย...
แหะๆๆ...ต้องไปห้องน้ำซะหน่อย ห้องน้ำใหม่สร้างยังไม่เสร็จเรียบร้อย
เพราะยังไม่ต่อน้ำ...ต้องไปใช้ห้องน้ำเก่า พอเจอห้องน้ำเก่าของแคมป์
โอวววววว...พระเจ้า...เป็นส้วมหลุมค่ะ.... เรียงกันหลายๆ หลุม
(ประมาณ ๑๐ หลุม) กั้นด้วยกำแพงเตี้ยๆ ไม่มีประตู
แค่ยืนอยู่ตรงทางเข้ามองเข้าไปก็เห็นหมด...ทำไงดีนี่...ฮือๆๆๆๆๆ
15 กรกฎาคม 2545 04:43 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
....ในจดหมายเหตุของเมืองจีนเมื่อ ๒,๒๐๐ ปีมาแล้ว
มีการกล่าวถึงชาวเคียร์กิสเซ่อ แสดงให้เห็นว่า ชาวเคียร์กิสทาน
มีวัฒนธรรม และภาษา เป็นของตนเองนานนับพันปี
แต่อาจะกระจัดกระจายกันอยู่
ชาวเคียร์กิสทานได้รวบรวมชนชาติมาอยู่ในท้องถิ่นของประเทศ
เคียร์กิสทานในปัจจุบัน
เมื่อราว ค.ศ. ๑๖๐๐ แต่สงบสุขได้ไม่นาน....(ราว ๑๐๐ ปี)
ก็โดนรุกรานโดยชาว Uiguren (ชาวมองโกลกลุ่มหนึ่ง)
ในยุคสมัยพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียมีการแผ่อำนาจถึงวลาดิวอสต๊อค
รัสเซียจับ เคียร์กิสทานรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของ แคว้น Turkistan (เมื่อปี ๑๘๗๖)
14 กรกฎาคม 2545 18:01 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.... วันวันพฤหัส ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๔๔ จาวตาลได้หนังสือ
จาก Soros Foundation ให้ไปร่วมสัมมนา เรื่อง
" The role of young volunteer in the promotion of
democracy human rights and sustainable development "
ที่ เมือง Bishkek ประเทศ Kyrgysztan มีคนไทยไป ๓ คน คือ
พี่เอก พี่อ้อ แล้วก็จาวตาล
ประเทศ Kyrgysztan เป็นประเทศเล็กที่แยกตัวออกมาจากรัสเซีย
และไม่มีสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศไทย การเดินทางต้องใช้
สายการบินของ ประเทศ Uzbekistan แล้วไปต่อ สายการบิน Kyrgysztan
อีกครั้ง โดยต้องไปขอวีซ่าเข้าประเทศที่ Uzbekista