20 มกราคม 2547 07:44 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.... โยกเยกเอยโยกเยก
ช่างสรรค์เสกกล่อมก่อนนอนหลับฝัน
กระต่ายน้อยนั่งรอพ้อดวงจันทร์
ด้วยใจหวั่นหวาดไหวในค่ำคืน
.... ซึมโศกบ้างบางทีสีของเศร้า
เป็นเพราะเราหรือเพราะเขาหรือใครอื่น
ทิ้งเถอะนะลุกขึ้นมากล้าหยัดยืน
ลืมวันคืนเปลืองเปล่าเรื่องราวคน
.... ย้อนรำลึกตรึกไปในสวนโมก
สุขหรือโศกทั้งมวลที่สวนหม่น
กลางมุ้งฟ้าหลังคาดาวร้าวใจตน
หลุดร้อนรนหมายโมกข์โลกนิทรา
.... ค่ำคืนนี้ฝันดีมีสาวสวย
รื่นระรวยแต่งองค์ทรงสง่า
แต่แล้วไยหายวับไปกับตา
เห็นคนบ้ามานั่งนิ่งพิงเสาไฟ
.... คือ..กวีคนไหน..ใครใครรู้
คือ..ฝีมือชั้นครู..แม้อยู่ไหน
ยินชื่อเสียงที่ร่ำลือระบือไกล
ขอน้อมนบปรบมือให้ด้วยใจจริง......
10 มกราคม 2547 15:30 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
....ความฝัน......
ทุกสิ่งสรรพ์บรรเจิดเลิศเลอค่า
คุ้งโค้งรุ้งสวยสดจรดนภา
มีเนินหญ้าเขียวชอุ่มนุ่มละไม
คนยากจนมีสุขพ้นทุกข์โศก
มองเห็นโลกเป็นโลกสว่างไสว
เพื่อนกระชับจับมือมั่นสัญญาใจ
ยามผิดพลั้งยังอภัยไม่แข่งกัน
มนุษย์ล้วนตระหนักใจในหน้าที่
ไม่แก่งแย่งชิงดีเหยียดสีสัน
ผิวดำเหลืองผิวขาวนี้พี่น้องกัน
ความสัมพันธ์เทียมเท่าเราคือคน
....ความจริง......
คือทุกสิ่งที่ทำให้ใจหมองหม่น
โน่นคนรวยแบ่งชั้นกั้นคนจน
ตรมทุกข์ทนต้องกินข้าวเคล้าน้ำตา
รุ้งลออของฉันนั้นอยู่ไหน
เนินหญ้าเคยเขียวใสเหมือนไฟพร่า
โลกกลับกลายคล้ายโลกแห่งมายา
ทั้งตัณหากามาบ้าวุ่นวาย
มนุษย์หนอมนุษย์สุดประเสริฐ
แต่ไยเกิดมัวเมาเขลาได้ง่าย
ใจหยาบกร้านโฉดฉลกลอุบาย
หลงงมงายฆ่ากันทิ้งยิ่งผักปลา
อยากหลับอยู่เรื่อยไปในความฝัน
ทุกสิ่งสรรพ์บรรเจิดเลิศเลอค่า
แต่ความจริงต้องตื่นฝืนลืมตา
เพื่อไขว่คว้าความฝันอันแสนไกล....