9 เมษายน 2545 14:38 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.....
ตระกร้ารูปหัวใจ
ใบใหญ่ใหญ่หยิบขึ้นมา
โลดแล่นไปราวฟ้า
เก็บดาราสารพัน
เก็จดาวระยิบยับ
วิบวิบวับจับใจนั่น
สอยเกี่ยวเหนี่ยวมาพลัน
จนดาวนั้นมีมากมาย
เก็บรุ้งสีหวานใส
ตัวอ้วนใหญ่ที่พราวพราย
มาร้อยดวงดาวราย
เป็นโมบายของความรัก
ติดไว้ริมชายคา
เขาผ่านมาคงประจักษ์
โมบายจะทายทัก
บอกว่ารักเขาหมดใจ
.....
13 มีนาคม 2545 07:12 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
ช่วงนี้ไม่ว่าง
ไกลห่างหน้าจอ
ไม่ได้คุยจ้อ
ต้องขออภัย
ไปเข้าอบรม
ฝึกบ่มจิตใจ
เรื่องเด็กใสใส
เด็กไทยต้องมี
##สิทธิเด็ก##ไง
สนใจไหมนี่
##UNICEF##คิดดี
หน่วยงานที่ให้ทุน
จัดสัมมนา
เงินตราเกื้อหนุน
ช่วยเหลือเจือจุน
ให้คุ้นกับงาน
สอนให้เข้าใจ
และไม่เกียจคร้าน
เพื่อไปประสาน
งานช่วยเหลือกัน
เป็นตัวแทนโรงเรียน
พากเพียรสร้างสรรค์
ช่วยเด็กสารพัน
ไม่หวั่นพรั่นใจ
โสเภณีเด็ก
เด็กที่ยากไร้
เด็กขาดร่มไทร (เด็กกำพร้า)
เด็กไกลเมืองกรุง (เด็กชนบท)
กลับมาทำงาน
ยุ่งเหยิงนังนุง
เช้าค่ำยันรุ่ง
หวังมุ่งทำดี
รายงานเสร็จแล้ว
ถึงแจวมานี่
อารมณ์ดี๊....ดี
พาทีกาพย์กานท์
เข้ามาเขียนกลอน
ออดอ้อนหว๊าน....หวาน
ห่างหายไปนาน
จะพาลลืมเลือน .....
5 มีนาคม 2545 09:07 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
หมอนของฉัน นั้นหรือ คือตักอุ่น
นุ่มละมุน ยามหนุนแนบ แอบไปฝัน
มืออวบอิ่ม นิ่มนัก คอยผลักดัน
ให้ก้าวไกล ไปตามฝัน ที่ฉันมี
เคยนั่งตัก ซบอกอ้อน ก่อนนิทรา
ว่าแม่จ๋า สอยจันทรา ให้ลูกนี้
วอนหยิบดาว พราวไสว ให้อีกที
ลูกจะร้อย สร้อยมณี นี้ด้วยดาว
แม่ลูบไล้ เอาใจ ละไมละมุน
สำเนียงคุ้น แม่บอกว่า เจ้าหน้าขาว
แล้วจุมพิต ชิดดวงตา จ้าวับวาว
นี่ไงดาว สองดวง ที่ร่วงมา
นอนเถอะหนอ ลอออ่อน นอนเถอะลูก
แม่พันผูก รักถนอม กล่อมเจ้าหนา
นกกาเหว่า ทิ้งลูกไว้ ให้แม่กา
เฝ้าฟูมฟัก รักษา ยิ่งกว่าตน
แม่เอื้อนออด สอดเสียง สำเนียงใส
มือแม่ไล้ โลมลูบ จูบหลายหน
เหมือนนางฟ้า มารำส่าย ร่ายเวทมนต์
เสียงแม่ดล ให้ลูกน้อย ผลอยหลับไป
มาบัดนี้ มือแม่ แม้เหี่ยวหมอง
ยังคงคอย ค่อยประคอง ลูกผ่องใส
มือพนม แม่ก้ม กล่าวอวยชัย
อวยพรให้ ลูกมีสุข ทุกวันวาร
28 กุมภาพันธ์ 2545 13:12 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
ผีเสื้อปีกบางและอ่อนเอย
แล้งอย่างนี้จะบินเลยไปไหนหนอ
หรือว่ามีใครเล่าที่เฝ้ารอ
จึงแกล้งคลอบินลอยระเริงลม
ดอกหญ้าดอกไม้ใหญ่ฟุบไปหมด
ที่เคยเขียวเคยสดก็แล้งล้ม
ใบบังยังผลัดใบไร้เงาร่ม
ร้อนระทมยิ่งเหลือ ผีเสื้อไพร
ห่วงปีกบางของเจ้าจะกรอบกร่อน
ห่วงผิวอ่อนของเจ้าจะเผาไหม้
แล้งนะแล้งแดดแรงจนเกินไป
เกินกว่าใจของเธอจะทานทน
มาพักตรงนี้ก่อนเถิดนะ
ก่อนที่จะรีบรั้นเร่งดั้นด้น
พักผ่อนให้สบายคลายกังวล
พอกมลมีแรงใจค่อยไปนะ
มาสิจะพัดพายให้คลายร้อน
นี่ไงหมอนอ่อนละมุนหนุนศีรษะ
โปรยละอองน้ำอบเย็นเป็นระยะ
จนกว่าผีเสื้อจะสบายใจ
แม้นหากจะจากลาแล้วละก็
ได้โปรดหนอขอย้ำจำเอาไว้
แม้นว่าเจ้าคนดีไม่มีใคร
พี่นี้ไง ห่วงใยเสมอมา
.....................................................................................
.... หวานนักหนา กลอนกานท์ ที่พานพบ
หวานเกินหลบ หลีกลี้ และหนีหน้า
หวานลึกซึ้ง ตรึงใจ แต่ไรมา
หวานอยากจร ย้อนกลับมา หาพี่ชาย
.... ผีเสื้อน้อย ฉวัดเฉวียน บินเวียนว่อน
ระเริงฟ้อน ร่อนปีกกราย คล้ายรำร่าย
เข้าแอบอิง พิงพฤกษา สีพร่าพราย
จุมพิตกาย กลีบมาลา ผกาพราว
.... แดดอุ่นใส ใจอิ่ม คิมหันต์จ๋า
กลิ่นมาลา โชยฉม ห่มห้วงหาว
แสงส่องต้อง เมฆา จ้าวับวาว
ประกายราว รุ้งสวรรค์ อัญมณี
.... นกน้อยน้อย ขับขาน เพลงหวานเสนาะ
ยิ่งไพเราะ สำเนียง เสียงไผ่สี
เหมือนดื่มทิพย์ จิบฝันไป ในราตรี
ปล่อยฤดี เริงร่า ฟากฟ้าไกล
.... เพลินบินชม พนมแนว แถวละหาน
เลาะลำธาร ผ่านชายป่า ชลาไหล
สัตตบุษย์ ผุดพ้นน้ำ อยู่รำไร
ลงซอนไซ้ ใจเรณู พบูงาม
.... ผีเสื้อน้อย คล้อยบิน เหิรถิ่นฟ้า
แสนอ่อนล้า ด้วยมาไกล ใจหวิวหวาม
หยุดผ่อนพัก ทักทาย ใคร่ถามความ
หวังติดตาม กลับคืนเหย้า คงเข้าใจ
.... อยากดั้นด้น ผจญภัย ในโลกกว้าง
จึงต้องร้าง ห่างบ้านมา ในป่าใหญ่
หลงกลิ่นฉม ดมผกา สุมาลัย
แต่ที่ใด ไม่สุขหวาน เหมือนบ้านเรา
.... คิดถึงหมอน อ่อนละมุน น่าหนุนนัก
นั้นคือตัก พี่คนดี ที่อยู่เหย้า
อีกเมื่อไร จะได้กลับ ไปนอนเนา
ฟังลำนำ เพลงเบาเบา ก่อนเข้านอน.....
27 กุมภาพันธ์ 2545 21:07 น.
ผีเสื้อปีกบางฯ
.... มองท้องนา ดินแยก แตกระแหง
ถึงหน้าแล้ง น้ำลด หมดความหมาย
ทั่วท้องทุ่ง สีน้ำตาล ลานหญ้าตาย
ฝูงวัวควาย ยืนผอมแห้ง แรงไม่มี
.... ในบึงใหญ่ ที่ใครใคร เก็บผักบุ้ง
เคยช้อนกุ้ง ช้อนปลา ปลามาหนี
น้ำแห้งขอด ตลอดคุ้ง ธารวารี
หน้าแล้งนี้ ต้องอดทน รอฝนมา
.... พวกหนุ่มสาว ละบ้านนา ทิ้งบ้านทุ่ง
ต่างก็มุ่ง เข้ากรุง แสวงหา
หวังเพียงได้ อิ่มท้อง พร้อมเงินตรา
ส่งกลับมา เลี้ยงแม่ใหญ่ กับไอ้แดง....