14 มกราคม 2547 14:36 น.
ผีขี้เมา
ทนเดินทางอย่างเดี่ยวแลเปลี่ยวเปล่า
มีแต่เหงาเคียงข้างมิห่างหาย
เกาะเก็บความอ้างว้างแนบข้างกาย
แม้ที่หมายไม่รู้ว่าอยู่ใด
ท่ามกลางม่านหมองมัวสลัวครึ้ม
ยากจะลืมความหลังฝังใจได้
แม้ชังชิงนิ่งฝืนกล้ำกลืนไป
จะผลักไสไล่จากนั้นยากเกิน
ถูกหยามค่าว่าต่ำไม่ล้ำเลิศ
จะชูเชิดชวนชิดจิตคงเขิน
สิ่งเคยหวังพังทลายไปยับเยิน
จึงจำเดินทางไกลที่ไร้ฝัน
คนเดินทางใช่ดีกว่าที่เห็น
ยังขื่นเข็ญประสาคนบ้ารั้น
ตราบวันนี้แม้ร้างจางสัมพันธ์
คงสักวันเมตตา..ฟ้าปรานี
9 มกราคม 2547 11:15 น.
ผีขี้เมา
ความภักดีมีให้ยิ่งใหญ่นัก
เฝ้าฟูมฟักถักทอก่อใยฝัน
หวังสร้างเสริมเติมไว้ในทุกวัน
เกลียวสัมพันธ์แนบแน่นไม่แคลนคลาย
อาจมีบ้างบางครั้งที่พลั้งเผลอ
เที่ยวฟุ้งเฟ้อตามทางเหมือนห่างหาย
ตามประสาคนเมาโปรดเข้าใจ
แต่มิใช่เปลี่ยนแปรรักแท้จริง
แม้คำพูดกล่าวขานขาดหวานล้ำ
ไม่ชื่นฉ่ำสำราญเบิกบานยิ่ง
ความรักมั่นแน่นหนาอย่าประวิง
มีมากยิ่งล้นค่ากว่าสิ่งไหน
ฝากหัวใจไว้แล้วอย่างแน่วแน่
จะเปลี่ยนแปรแม้สักนิดไม่คิดใฝ่
หากแม้นสิ้นเมตตาลงคราใด
ช่วยเอาไปยิงเป้าเผาจนตาย...
5 มกราคม 2547 10:14 น.
ผีขี้เมา
เพราะคารมหวานล้ำปานน้ำผึ้ง
จึงซาบซึ้งรสถ้อยคอยเสนอ
ปล่อยจิตใจไหลหลงพะวงเพ้อ
เหมือนละเมอลืมตัวไปชั่วคราว
กว่าจะรู้ก็สายเกินไปนัก
ว่าความรักจริงใจใช่แค่กล่าว
เหลือเพียงความไหวหวั่นกับฝันเงา
ยอมให้เขาตราหน้าว่าโง่งม
เจ็บหัวใจในนิยามความหลอกหลอน
ใครจะสอนความชื่นยามขื่นขม
หัวใจแยกแตกยับอับระบม
ต้องซานซมตามทางอย่างผู้แพ้
ไม่เหลือแล้วแววใสหัวใจนี้
ถูกย่ำยียับเยินจนเกินแก้
มันเหลือเดนเกินค่าใครมาแล
จะมีแต่รอวันฉันสิ้นลม....ฯ