19 มีนาคม 2547 07:34 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
จะขอเก็บ ดางดาว พราวทอฝัน
เก็บดวงจันทร์ ปั่นทอ คลอใยรัก
ให้นวลน้อง เอนกาย อ้ายหนุนตัก
ร้องบทเพลง ความรัก พักนิทรา
เย็นสายลม ชมหยอก บอกให้ตื่น
เล่นล้อคลื่น สั่งทราย สายธารา
แลเมฆหมอก บังจันทร์ ฝันเถิดหนา
คลุ้งควัญไฟ บังตา นภาเวียน
ผวาตื่น คืนดึก นึกละเมอ
ห่วงใยเธอ เสมอ ไม่แปรเปลี่ยน
จ้องจดปลาย ปากกา มาขีดเขียน
จิตวนเวียน เคียงข้าง สร้างภาพฝัน
สายหมอก ดอกไม้ ข้างริมทาง
สายน้ำพลาง รินไหล แดนราบสูง
ช่ำเย็นใส ให้ดอกไม้ ออกยามยูง
หอมอบอวล จรุง ฝูงพฤษไพร
สาวเจ้าลง เล่นน้ำ ค่ำเย็นยาม
ทิวไม้ทราม งามเด่น เห็นสดใส
แดดแซมสี เหมือนมี มนต์พงไพร
คลุ้งอบอวล กลิ่นไอ ไพรซ่อนเล้น
สายน้ำริน ฉ่ำไหล พฤษไพรสดสวย
แสงแดดแซม แซงลมห้วย สวยฉ่ำเย็น
อธิฐาน สาบาน ฟ้าคืนเพ็ญ
ให้จันทร์เจ้า เจ้าเห็น เป็นพยาน
คืนและวัน ผันเคลื่อน เลื่อนผ่านวัย
จะเก็บใจ ให้เธอ ให้เนิ่นนาน
จะปล่อยใจ โอบกอด และสอดสาน
อธิฐาน ความรัก ฝักเติบโต
เราจะทำทุกอย่างเพื่อความรักเฝ้าฟูมฟักความรักให้เติบโตจงรอคอย .....เวลา
19 มีนาคม 2527
ผลิใบสู่วัยกล้า
18 มีนาคม 2547 07:47 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
แม้ไม่มี สิทธิ มิฝันไฝ่
แต่ไม่ไร้ ซึ่งสิทธิ์ จะคิดถึง
ความรู้สึก มีต่อเธอ นั้นลึกซึ้ง
เธอคือหนึ่ง อุ่นไอ ในดวงใจ
รักของฉัน ไร้กฎเกณฑ์ ไร้เหตุผล
เกินกว่าค้น เสาะหา คำตอบได้
รู้แต่เพียง คิดถึงเธอ ในคราใด
อบอุ่นใน ดวงใจ ทุกทุกครา
เธอนั้นคือ ตัวแทน แห่งความดี
คือภาพฝัน สุทรีย์ ที่ล้ำค่า
เธอนั้นคือ ตัวแทน แห่งศรัทธา
คือวิญญา แห่งความ ยามปราณี
หญิงสาว ผู้มาจุด ประกายฝัน
ทุกคืนวัน มอบความ ปรารถนาดี
จะถนอม ช่อดอกไม้ คล้ายไมตรี
เป็นชีวี ชั่วนิจ จิตนิรันด์
เธอคือหนึ่งที่จุดประกายฝันให้กับคนอย่างฉันต้องหวันไหว
17 มีนาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
17 มีนาคม 2547 07:23 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ทิวสนงาม โอนอ่อน ผ่อนลู่ลม
เห่คลื่นดัง ระงม สมขับขาน
สาบกลิ่นไอ พัดพริ้ว ริ้วลมผ่าน
อันบุหงา แรกบาน สานสดใส
ชมนางนวล ยวลเย้า เฝ้าดูปลา
สุดสายตา ร่มรื่น คลื่นรำไร
เส้นขอบฟ้า รางเลือน เยือนร้างไกล
ทะเลใส ทรายขาว ราวคำฝัน
สนธยา อาทิตย์จับ ลับนภา
แว่วนกกา หาคอน นอนหลับฝัน
รออรุณ อุ่นไอ ไร้พระจันทร์
มอบคืนวัน ฟ้าใหม่ ในนภา
ชืนชุมฉ่ำ ธรรมชาติ ธาตุอุดม
อ้อนสายลม ชมดอก หมอกภูผา
ชมไข่มุก แว่วยิน ถิ่นอันดา
งามล้ำค่า หมื่นล้าน บ้านกลางน้ำ
ดินแดนแห่งอันดามัน ที่มีมนต์เลื่องลือมาช้านาน
16 มีนาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
16 มีนาคม 2547 07:20 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ลมพัดแรง ฝนเลย แลลับลา
หนาวผ่านมา ลาลับ นับจากจร
หนทาง ยาวไกล ซ้ำซอกซ้อน
ยังสัญจร รอนแรม ตอนต้นทาง
ท่ามกลางคืน หนาวเหน็บ แลว้าเหว่
คอยทุมเท วาดฝัน อันเลือนลาง
ห้วงราตรี ทรมาน ปานสรรสร้าง
เฝ้าถากถาง ทางชีวิต ลิขิตมา
ท้องหิวโหย ไร้แหล่ง แรงอาศัย
แผ่นพื้นดิน กว้างไกล ใช้พักกายา
นั่งแนบนิ่ง อิงแอบ แสบผวา
ข้างมุมศาล บ้านเทวา ล้าเรี่ยวแรง
แรงแสงเทียน ควันธูป ลูบลอยผ่าน
ร่างรนราน ผ่ายผอม งอมเรี่ยวแรง
หมุนซายขวา แลเหลียว เปลี่ยวสิ้นแสง
เลือดสีแดง เต้นรัว กลัวสิ้มลม
ร้องโวยวาย เจ้าตัวร้าย ชนชั้นต่ำ
การกระทำ สิ้นศรัทธา ว่าขื่นขม
เฝ้าทนทุกข์ ทุกข์ทน พ้นสุขสม
นั่งตรอมตรม ถอดถอน วอนเทวา
ชีวิตกับความเจ็บช้ำ ที่ได้รับมาโดยไม่มีสิทธิเลือก ต้องทนรับ ทนเจ็บ ทนปวดร้าวเสมือนว่าเป็นการสืบทอดอุดมการณ์ จนกว่าจะสิ้นลมหายใจสุดท้าย
15 มีนาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
15 มีนาคม 2547 07:08 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
หลงละเมอ พบพาน และดาวเดือน
คอยเป็นเพื่อน ปลอบใจ ให้คลายเหงา
เก็บความฝัน อบอุ่น ให้ใจเรา
เพื่อนยามเศร้า โอบกอด สอดคำฝัน
เพียงมายา หลอกหลอน สะท้อนจริง
ไม่ทอดทิ้ง เร่งเร้า เฝ้าเสกสันต์
ความรู้สึก เพลิดเพลิน เดินเคียงกัน
ดวงตะวัน พันดาว พราวสดใส
จะอยู่คู่ เคียงข้าง สร้างคำฝัน
สิ้นคืนวัน เลื่อนลอย คอยคิดถึง
จะฝากรัก ฝากลม ว่าคำนึง
ดังอนึ่ง บรรจบ พบดวงใจ
14 มีนาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า