4 มีนาคม 2547 07:32 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ดูดาวน้อย ลอยเด่น เต็มท้องฟ้า
ไกลสุดตา เป็นประกาย สุดปลายฝัน
งามยิ่งกว่า ถ้อยคำ พร่ำรำพัน
ดาวเท่านั้น มีค่า กว่าใดใด
ยิ่งมอง ยิ่งห่างไกล ไร้ความฝัน
ดาวดวงนั้น เปลี่ยนโลก ให้สดใส
ความรู้สึก ช่วงนั้น ฉันว่าไกล
เธอคือใคร สูงเกินไป จะไขว่คว้า
ทำอย่างไร ให้ตัว เทียมเท่าทัน
กี่ร้อยพัน วันเดือน เคลื่อนลับลา
เธอห่างไกล ไร้ทาง ขวางกั้นฟ้า
เก็บดวงตา ดวงใจ ไว้แค่ดิน
ขอแค่ทำ ให้ดาว มีความหมาย
ส่องพร่างพราย แสงสว่าง กลางชีวิน
เธอได้สอน ความรัก ให้ได้ยิน
สอนให้บิน แล้วจาก ฝากความหวัง
ดอกฟ้ากับหมาวัดก็เป็นตำนานสอนเราอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักเจ็บจำ
25 พฤศจิกายน 2546
ผลิใบสู่วัยกล้า
3 มีนาคม 2547 18:02 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ฉันไม่มี ดาวเดือน เหมือนใครใคร
ฉันไม่มี ใดใด มาให้กัน
ฉันไม่มี มากมาย หลายร้อยพัน
ฉันไม่มี ความฝัน มาให้เธอ
ฉันไม่มี อะไร เป็นพิเศษ
ฉันไม่มี เวทมนต์ ให้พร่ำเพ้อ
ฉันไม่มี สิ่งใด มาปรนเปรอ
ฉันไม่มี นะเออ เธอว่าไง
ฉันไม่มี แก้วแหวน ที่ล้ำค่า
ฉันไม่มี อนาคต ที่สดใส
ฉันไม่มี หนทาง ที่กว้างไกล
ฉันไม่มี อะไร ให้เจอะเจอ
มีแต่ใจ ร้อยเรียง เพียงเท่านั้น
มีแต่วัน เวลา มาให้เธอ
มีแต่คำ พูดจริง มั่นเสมอ
มีชีวิต พร่ำเพ้อ ไปวันวัน
ฉันจะทำ เพื่อเธอ ถึงที่สุด
จะไม่หยุด โอบกอด สอดคำฝัน
ฉันจะมี รอยยิ้ม ให้แก่กัน
ฉันจะมี คำมั่น และสัญญา
นี่คือคำสัญญาจากผู้ชายที่มั่นคงและจริงใจ อยากจะโอบกอดเธอด้วยสองมือเปล่า
25 พฤศจิกายน 2546
ผลิใบสู่วัยกล้า
23 มกราคม 2547 14:59 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ร่องรอยทาง รอยทุกข์ รอยอาทร
รอยย้อกย้อน สายนี้ ที่เคยผ่าน
สายน้ำฝน รินรด เมื่อวันวาน
คำแหว้วหวาน ซาบซึ้ง จึงมลาย
ต้องเรียนรู้ โลกใหม่ ด้วยตัวเอง
พาร้อยเรียง เสียงเพลง บรรเลงกาย
แม้ไร้เงา ผู้คน คืนจันทร์ฉาย
อยู่เดียวดาย แปรผัน สั่นสะเทือน
สับสนทาง เคว้งคว้าง และว่างเปล่า
วอนลมพัดเอา ดวงใจ ให้ลางเลือน
สู่วิมาน พบพาน ดาวและเดือน
จะย้ำเตือน เหม่อมอง ร่องรอยทาง
รอยทาง ที่เคยย่างเดินของแต่ละคน ยากที่จะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งก็ต้องเจอกับขวากหนาม
19 มกราคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
18 พฤศจิกายน 2546 10:05 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
เบญจเพส รางร้าย หมายอุบัติ
กรรมนำซัด ทุกข์โศก โรครุมเร้า
ถึงเลือดตก ยางออก บอกให้เจ้า
จงคอยเฝ้า ระวังตัว อย่ามัวเพลิน
ไม่ว่าหญิง หรือชาย หมายชีวิต
เพื่ออุทิศ ผลกรรม ที่ทำเกิน
ความวิบัติ ร่วงโรย โดยบังเอิญ
อย่ามัวเดิน ร่องลอย คอยระวัง
ถึงเวลา น้ำตาตก พกความช้ำ
สุดระกำ จำใจ ไร้มุ่งหวัง
ลืมทุกสิ่ง ทิ้งทุกอย่าง สร้างไว้พัง
ที่ปลูกฝัง ลืมเลือน เหมือนไร้ค่า
ญาติพี่น้อง พ้องเพื่อน เลือนร้างไกล
ตัวเราไป ไม่กลับ หลับแล้วลา
วันที่เหมาะ เจาะจง ลงยี่สิบห้า
เลือดน้ำตา พาใจ ให้เศร้าหมอง
ว่ากันว่าหากมีอายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ กำลังจะผ่านจากวัยเด็กเป็นผู้ใหญ่ ให้ระวังตัวให้ดี เคราะห์หามยามโศก จะมีเรื่องอุบัติเหตุเข้ามาเรื่อยๆหากใครดวงแข็งก็จะผ่านพ้นมันไปได้ หากใครโชคร้ายก็อาจเสียชิตได้ผู้เขียนเองก็กำลังอยู่วัยนี้พอดีแต่ก็ปลงแล้วล่ะครับ..เกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้ว
ผลิใบสู่วัยกล้า 17 พฤศจิกายน 2546
10 พฤศจิกายน 2546 10:00 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
มองตัวเองผ่านพ้นคนสนใจ
จะเป็นตายยังไงไม่รู้เลย
อยู่คนเดียวเปลี่ยวเหงาเศร้าคุ้นเคย
ผ่านล่วงเลยเวลาไม่มาสน
เหมือนตัวเราเวรกรรมทำกั้นขวาง
ถูกทิ้งกว้างเหยียบใจไม่ใช่คน
เหมือนเป็นไข้ปวดร้าวหนาวสุดทน
ยืนอยู่บนกวากหนามยามเดินไป
ขอสักคนที่สนใจอยู่ร่วมกัน
ผ่านคืนวันสร้างสรรค์ให้สดใส
ทุกข์ทรมานกับความฝันที่แสนไกล
จะมีไหมใครแบ่งใจมาให้ฉัน
มีท้องฟ้าพาพระจันทร์มาเป็นเพื่อน
ไม่ลืมเลือนดาวคู่น้อยลอยตรงนั้น
อยู่เป็นเพื่อนไม่ลืมเลือนกันและกัน
ยังผูกพันทักทายให้คลายเหงา
เจ้านกน้อยค่อยบินมาเอ่ยนาม
ชวนสายน้ำบรรเลงบทเพลงเศร้า
ช่างเยือกเย็นเป็นกำลังรั้งใจเรา
ไม่ให้เหงาไม่ให้เศร้าเฝ้าเดียวดาย
มันยิ่งทำซ้ำปวดร้าวถึงคราวไกล
แต่ในใจเหนื่อยนักมักวุ่นวาย
ช่างมืดมนหนใดไร้จุดหมาย
ยิ่งเหมือนตายวายปานพาลสิ้นลม
ตราบวันนี้ยังหายใจไม่ทั่วท้อง
ยังเหม่อมองข้องจิตคิดระทม
ชีวิตฉันวันนี้ยังขื่นขม
ใจตรอมตรมหมองไหม้ใครจะดับ
ผลิใบสู่วัยกล้า 3 พฤศจิกายน 2546