5 กรกฎาคม 2547 07:33 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
หยาดสายฝนโปรยปรายเป็นลายเส้น
อยู่ห่างห่างต่างกระเด็นกระดอนไหล
กอหญ้าแฝกแตกช่อทอฤทัย
อิงอุ่นไอหลังฝนได้พ้นผ่าน
หญ้าแตกหน่อช่อชุ่มชอุ่มชื่น
ดังหยิบยื่นมัดทอก่อประสาน
หยาดสายฝนโปรยปรายพอวายวาน
ลมพัดผ่านพรายพลิ้วปลิวไวไว
แมลงปออ้อรอล้อเล่นลม
เกาะริมคมใบคาพาไสว
ตะวันรอนอ่อนแรงแสงรำไร
ส่องอำไพเรืองรองละอองรุ้ง
กลิ่นไอดินล่องลอยทยอยฟุ้ง
หอมจรูงกลิ่นใหม่ดังใจฝัน
ธรรมชาติรายล้อมอ้อมกอดกัน
เกี่ยวสัมพันธ์มั่นคงให้หลงใหล
ดูนางแอ่นล่อนสายน่าพรายพริ้ม
นั่งอยู่ริมชายคาพาสดใส
ทอดสายตาดวงน้อยด้วยคล้อยใจ
อุ่นอิงไอไขสวรรค์ที่พลันพบ
5 กรกฎาคม 2547
4 กรกฎาคม 2547 06:54 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ก่อนจะจากฝากรักให้ถักทอ
น้ำตาคลอถึงเจ้าเฝ้ารินไหล
ถึงตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจ
ต่างอยู่ไกลทางเดินเกินกว่าฝัน
อย่าได้ลืมดอกไม้มาลัยรัก
ที่ฟูมฝักทักทอพอสุขสันต์
อย่าคืนคำพร่ำเอ่ยเมื่อเลยวัน
จะมีกันและกันตลอดไป
ก่อนจะจากฝากใจไว้ให้เธอ
อย่าพลั้งเผลอลืมเลือนเหมือนหวั่นไหว
อยู่ทางนี้พี่เจ้าไม่เอาใคร
รอดวงใจผูกพันนั้นกลับคืน
26 พฤษภาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
2 กรกฎาคม 2547 08:09 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
ความสุขสันต์พลันฉายประกายแสง
เกิดจากแรงปฏิบัติด้วยหัดหาญ
ก่อกำเนิดเกิดกายหมายวิญญาณ
สร้างสะพานพุทธาเวสาวาส
กำหนดจิตคิดนึกระลึกธรรม
อยู่ประจำนำแสงแรงส่องสาด
เพ่งพินิจจิตใจใสสะอาด
อย่าเป็นทาสกิเลสเพศสัมพันธ์
ลมละเอียดเบียดสานก่อนญาณทิพย์
ราวระยิบแนบนิ่งสู่สิ่งฝัน
ตีความหมายให้เข้ารู้เท่าทัน
คือสวรรค์พลันแสงที่แพงค่า
พระสัมมาสัมพุทธพิสุทธ์ล้ำ
ทนตรากตรำนำชัยให้ประชา
พบความสุขแท้จริงยิ่งมีค่า
เพ่งนำพาปฏิบัติลัดนิพพาน
24 พฤษภาคม 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า
30 มิถุนายน 2547 06:50 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
เรียงร้อยรักถักทอยอคำคม
เรียงสายลมห่มรักจักมอบให้
กี่คำหวานพานเอยเฉลยใจ
บอกออกไปให้รู้ถึงหูเธอ
เก็บเรียงร้อยดวงตะวันให้มั่นไว้
เก็บดวงใจเก็บไว้อย่าได้เผลอ
อาจไม่ดีไม่รวยไม่เลิศเลอ
เพียงให้เธอโปรดพิจารณา
ตราบจบสิ้นดินฟ้าคณานับ
เดือนมืดดับลับไปไกลสุดหล้า
รักกว้างใหญ่ยิ่งพื้นพสุธา
โอบผืนฟ้าผืนดินจนสิ้นใจ
23 มิถุนายน 2547
29 มิถุนายน 2547 07:31 น.
)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((
สุนทรภู่ครูกวีนักศรีศิลป์
ศิลปินกาบกลอนกะฉ่อนหล้า
เป็นนักคิดนักเขียนเพียรตำรา
สู่ภาษาเคล้าโคลงจรรโลงใจ
รวมเรียงร้อยถ้อยคำนำสร้างสรรค์
บทประพันธ์ท่วงทีกวีไซร้
คำคล้องจองเสนาะไพเราะใจ
ซึ่งคงไว้คำคมประสมประสาน
ประสิทธิ์ประศาตร์วิชามีค่ายิ่ง
ถ่ายทอดทิ้งไว้แทนเป็นแผนงาน
อันตัวครูสู่แดนฉิมหิมพาน
สืบทอดผ่านสู่ชนคนรุ่นหลัง
กวีเอกของโลกน่าโศกเศร้า
เหลือเพียงเงาเล่าขานตำนานหลัง
มอบบทกลอนแหว๋วหวานให้อ่านฟัง
ร่วมปลูกฝังจิตสำนึกระลึกผ่าน
ทั้งชีวิตสี่แผ่นดินทั่วถิ่นไทย
ระบือไกลรุ่งโรจน์ทั่วโจทย์ขาน
ถ้อยคำคมดังมีดที่กรีดกาล
เป็นตำนานพรานกวีที่ทักทอ
ตราบวันนี้จะทักทอขอจดจำ
เรียงร่ายรำคำคมไว้ชมต่อ
จะสืบทอดเจตนาภาษาพ่อ
เพื่อทักทอสืบสานวัฒนธรรม
ขออุทิศแผ่บุญดุนกุศล
ว่ายเวียนวนแวะหามากระหน่ำ
ส่องสว่างพร่างพรายหมายน้อมนำ
พาพ้นกรรมนำสร้างสรรค์สุขสวัสเทอญ
เราจักพยายามช่วยกันสืบทอดเจตนารมณ์อันบริสุทธ์ เปรียบประดุจหยาดฟ้ามาโลมดิน
อดีต ความจดจำทั้งหลายเราจักไม่ลืมสิ้น เพียงก้อนดินก้อนเดียวก็ยังมีค่า
เรียงร่วมร้อยคำคม ประสม ชมช้อย
สิบนิ้วน้อยประนม มือไหว้
เทพท้าวไท้พร่างพรหม รดริน
ระลึกคะนึงให้ สืบสิ้น ดินสยาม
5 เมษายน 2547
ผลิใบสู่วัยกล้า