29 มิถุนายน 2551 12:24 น.
ผมชื่อโจ้
ก็ได้แต่นั่งหัวเราะ
อ่านคำเยาะผู้ชายเลวเหลวไหล
เลวคือทำให้คุณไม่พอใจ
หรือเลวเพราะคุณไม่ได้อะไรจากผู้ชาย
จะสักแสนพันล้านการบอกเลิก
ก็คือการเพิกถอนผ่องถ่าย
เหตุผลเดียวคือผ่อนคลาย
ผ่อนผายบ่ายหน้าหนีกันและกัน
ที่ว่าผ่อนคลาย
คือการหย่อน คล้ายกับว่าคลายความหวั่น
หวั่นว่าเราระหว่างวันต่อวัน
หวาดระแวงแข่นขันขมึงเกลียว
ส่วนจะอ้างความรักครั้งแรกๆ
เป็นดอกไม้ก็คงแปลกดอกเหี่ยว
ตามสภาพปัจจัย ในดอกเดียว
เฉาใบเขียวดอกรักร่วงร้างไป
ถ้าผู้ชายคือคนเลวต่อความรัก
เพราะทำให้คุณอกหักแหละร้องไห้
ทรยศต่อคุณ ต่อหัวใจ
แต่คุณกลับไม่มองพฤติกรรม
ฉะนั้น จะกี่เหตุผลคนก็ทิ้ง
ผู้หญิงอย่างคุณ ผมก็ช้ำ
เคยงมงายบอกรักคุณคำต่อคำ
แต่คุณกลับกระทำย่ำยีใจ
ก็ได้แต่นั่งหัวเราะ
อ่านคำเยาะผู้ชายเลวเหลวไหล
เลวคือทำให้คุณไม่พอใจ
หรือเลวเพราะคุณไม่ได้อะไรจากผู้ชาย
27 มิถุนายน 2551 08:37 น.
ผมชื่อโจ้
โหยหาความรักไม่เคยพอ
พอ ๆกับโหยหาเซ็กส์ไม่เคยหยุด
หรือทั้งเซ็กส์ทั้งรักรวมเป็นชุด
เซ็กส์ซ้าย ขวาสุดเป็นความรัก
หรือการแต่งงาน
เป็นอะไรสักอย่างต่างตระหนัก
พะวักพะวงเป็นพัก ๆ
แล้วเอาเงินกองหน้าตักเป็นพิธี
ซื้อความสุขทั้งสองฝ่าย
เข้าใจว่าไม่ได้ขายการกดขี่
แต่บางครั้งอาจตบตี
ระหว่างกันและกันทันที สิทธิมนุษยชน
ก็ทั้งหมดเป็นกฏเกณฑ์
เปนประเด็นผลิตผล
ทั้งความรักคนสองคน
ทั้งเรื่องเซ็กส์ท่วมทัน กันและกัน
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ โดยสภาพ
ความรักอันโลมฉาบสรวงสวรรค์
ผลิช่อดอกบุปผานานาพรรณ
ฝันถึงรักนิรันดร์ของความรัก
(ก็นั่นแหละคือความสุข
จะมีทุกข์อีแค่ตอนอกหัก)
ใช่ไม่ใช่ (ยิ้มครับ)
24 มิถุนายน 2551 00:42 น.
ผมชื่อโจ้
คือผู้ผ่านความรักเข้ามาบ้าง
ในความรักตกค้างของคืนเหงา
นั่งเงียบเชียบ อ้อยสร้อย ซึมเซา
นั่งจับเจ่าหัวใจหนาวยิ่งนัก
ยิ่งฟ้าดึกกลางหาวเหงาโหยหา
เหงามากร่อยปริ่มว่าเหงามากัก
ยิ่งฟ้ามืดยิ่งจืดชืดในความรัก
แทบจะวักน้ำตาล้างหน้าแล้ว
หรือจะเป็นความว่างอยู่อย่างนี้
อยู่โดยดุษฏีคนหางแถว
ผ่านแนวนี้ โดนอย่างนี้ อีกแนว
แคล้วได้เคลิ้มแต่ความเศร้าเร้าน้ำตา
เป็นอีกคืนเปล่ากลวงกับความรัก
คงแต่ลม โบยสะบักผลักเข้าหา
เข้ามาสู่ความเหงาโถมเข้ามา
โบยเร่งเร้า โลมใบหน้าน้ำตาตรม
ได้แต่ยิ้มผุดภาพเพ้อในใจ
คืออย่างน้อย มิได้ไร้ความรักห่ม
คืออย่างหนึ่ง ในหัวใจยังจ่อมจม
คือบางคืน ยังมีอารมณ์ในความรัก
(มีบางคืน
แทบจะวักน้ำตาล้างหน้าแล้ว)
22 มิถุนายน 2551 13:16 น.
ผมชื่อโจ้
เจ้าหิ่งห้อยพร้อยระยับเหลืองปรับแสง
เพริดเตลิดทั่วแหล่ง ทุกแห่งสถาน
เวี่ยสีดำค่ำมืดขีดพรืดกาล
แข่งกับดาวพราวบานเต็มลานบน
เป็นหิ่งห้อยสัตว์แมลงขับแสงสวย
เริงระรวยแข่งสี ทุกที่สถล
บินสราญร่านราตรีอันมีมนต์
หลงกับม่านดาลดลหลงกลลวง
เหลิงอยู่กับเหลืองเปล่งอันปลั่งสี
สำแดงปีผกรี่ สู่ที่สรวง
สมมุติโลก อากาศธาตุเต็มดาษทรวง
แปรเป็นบ่วงผูกรัดมัดตัวเอง
จึงเด็กน้อยไร้เดียงสาเจ้าน่ารัก
เพ่งคอยดักไล่ยั่วสัตว์ตัวเก่ง
ใส่กำมือขยี้เล่น เขม่นละเลง
มลายสีเหลืองเปล่งก็ปลิดตาย
เจ้าเด็กน้อยไม่เห็นแสงก็สะทก
เคว้งหัวอกร้องไห้อย่างใจหาย
-----------------
--------ฯ
21 มิถุนายน 2551 20:20 น.
ผมชื่อโจ้
คุณก็คลอดออกมาโตจากโยนี
เริ่มต้นจากไม่ประสีไร้เดียงสา
เปลือยไอ้จุ้นล่อนจ้อนอ้อนน้ำตา
ดูดนมแม่กินข้าวปลา เหมือนเหมือนเรา
คุณก็เรียนจากโรงเรียนฝึกเขียนอ่าน
อาขยานท่องง่ายยากเริ่มจากเขลา
จำสูตรคูณเก็บใส่ใจจากวัยเยาว์
ฝึกระเบียบเริ่มจากเบา เหมือนเหมือนกัน
คุณก็โตอยู่ในเขตประเทศไทย
ธนบัตรที่ใช้ ไม่แปลกผัน
(คุณว่า) กษัตริย์ ชาติ ศาสน์สำคัญ
ต่างกัน ก็แต่พันธุ์ทางร่างกาย
คุณก็อยู่ใต้อาณัติรัฐธรรมนูญ
ที่ต้องทูนในตัวบทของกฏหมาย
คำคุณพูดทั่วพารา"ภาษาไทย"
ต่างแต่พ่นน้ำลายใช้ต่างงาน
คุณก็กิน บ่นและขี้ มีสืบพันธุ์
มีลูกเมียเหมือนกันมีเหลนหลาน
มีตระกูลมีนามสกุลมีสันดาน
มีดีชั่วเลวสามานย์ถมในใจ
คุณมาจากมหาประชาชน
สู่ถนนทำเนียบผู้ยิ่งใหญ่
แล้วสุดท้าย ประชาชนไล่พ้นไป
จะยังยึดอยู่ทำไม ผมไล่คุณ