10 กันยายน 2548 15:32 น.
ผกากรอง
รักวัวไม่ต้องผูก รักลูกไม่ต้องตี
รักเลี้ยงความดี รักทวีความเมตตา
รักเรือนงามทำจั่ว รักครัวมุงหลังคา
รักไร่รักนา รักผืนฟ้าผืนดิน
รักเข้าใจในรัก รักแน่นหนักดังเสาหิน
รักษาอย่ารู้สิ้น รินน้ำใจให้รัก
10 กันยายน 2548 14:53 น.
ผกากรอง
ฉันชอบหนุมาน
เก่งกล้าหาญชาญศักดา
ทหารพระรามา
รับอาสาด้วยภักดี
บุตรพระพายกายสีขาว
ขนแพรวพราวเพชรรูจี
เขี้ยวแก้วกุณฑลมี
ทั้งยังหาวเป็นดาวเดือน
10 กันยายน 2548 14:26 น.
ผกากรอง
ฉันเห็นดาวพราวพร่างต่างเต็มฟ้า
ใสสว่างกระจ่างตาเวหาหาว
คืนข้างแรมแจ่มแจ้งด้วยแสงดาว
สุกสกาวพราวตาดาราราย
หากคืนใดเดือนสว่างกระจ่างแจ้ง
ดาวอับแสงเร้นหลีกปลีกตัวหาย
ดั่งเจียมใจไม่อาจแข่งแสงพรรณราย
คืนเดือนหงายจึงหลบลี้หนีหน้าเอย
10 กันยายน 2548 12:31 น.
ผกากรอง
อารยธรรมที่แคว้นแดนอีสาน
เมืองตำนานหม่อนไหมน้ำใจซื่อ
ไดโนเสาร์ ปราสาทหิน ถิ่นเลื่องลือ
บายศรีผูกข้อมือประเพณี
แห่บั้งไฟไหลเรือปราสาทผึ้ง
บุญผะเหวดเสริมซึ่งกุศลศรี
เพลงโคราชเพลงแคน ลำกลอนมี
เรือมอันเรไม้ตีเล่นพื้นเมือง
แจ่วส้มตำบักหุ่งปรุงรสชอบ
ลาบ ปลากรอบ ป่นปลาร้าผสมเครื่อง
ข้าวเหนียวนึ่งไก่ย่างรสประเทือง
อีกไส้กรอกอันลือเลื่องแซบจริงจริง
6 กันยายน 2548 20:10 น.
ผกากรอง
ลมฝนโปรยปรายท้ายหนาว
ปลุกด้าวปลุกดินหินผา
ชีวิตอิดโรยอ่อนล้า
ให้พากันตื่นฟื้นตน
ฝนหลงฤดูคราใด
เตือนให้ใจหวังหลังฝน
หลงทิศผิดทางกังวล
อับจนอยู่ไยใจงาม
งามคิดงามฝันมั่นหมาย
ท้าทายทุกกล้าฝ่าข้าม
ทุกวิริยะพยายาม
เรืองงามกว่าฤกษ์เบิกชัย
ฝนเกิดจากดินสู่ฟ้า
ตกกลับลงมาดินใหม่
ฝนบอกความจริงสิ่งใด
ฝนให้ความหมายใครรู้
บันทึกอนุทินดินฟ้า
เผยโลกแก่ตาทุกคู่
เสาะหาค่าแห่งฤดู
เป็นอยู่เช่นนั้นนานแล้ว
เม็ดน้ำลำธารชีวิต
คือภารกิจหยาดแก้ว
สู่หวัง ถวิลถิ่นแนว
สืบแวว ชีวาฟ้าดิน