29 ธันวาคม 2548 19:06 น.
ผกากรอง
หนูเอ๋ยฟังดู คงรู้สาเหตุ
ที่เกิดอาเพศ เพราะเหตุนั้นมี
ติดยาเสพติด หนูคิดอีกที
ดีหรือไม่ดี ตอบตัวหนูเอง...
ลูกชายเศรษฐี อยากชี้ต้นเหตุ
ให้ข้อสังเกต แต่ก็ยังเกรง
จะกลายสอนพ่อ จึงขอแก้เอง
ไม่บ่นโฉงเฉง จูงควายเข้ามา...
แล้วหยิบเอาไห หนึ่งใบมาตั้ง
จูงจมูกควายรั้ง เข้ามาตรงหน้า
แล้วเอ่ยสำทับ กำกับวาจา
นี่เจ้าทรพา จงมุดเข้าไป...
เข้าสิเข้าสิ อย่าริดื้อรั้น
เร็วเข้าขมีขมัน ลุกเข้าไวไว
ควายนิ่งยืนเฉย ก็เลยขัดใจ
คว้าไม้ตีไล่ เข้าไปไอ้ทุย...
เศรษฐีมองเขม้น ได้เห็นครั้งแรก
ลูกชายทำแปล จึงเอ่ยปากคุย
"ลูกเอ๋ยเจ้าบ้า หรือว่าคิดชุ่ย
จะให้เจ้าทุย เข้าไหอย่างไร...
ก็ไหใบเล็ก เหมือนเด็กเท่านี้
ควายโตอ้วนพี มากกว่าไหนไหน"
ลูกจึงบอกว่า "พ่ออย่าแปลกใจ
ก็ที่ปากไห นี้รูยังโต...
ดูทีกล้องฝิ่น แผ่นดินผืนใหญ่
ยังเลื่อนยังไหล เข้าได้มากโข
บ้านช่องไร่นา ผืนใหญ่ผืนโต
เข้ามาไม่โผล่ ออกมาให้ดู...
เศรษฐีฟังคำ ลูกย้ำเรื่องฝิ่น
คิดออกทั้งสิ้น ก็นึกอดสู
ลูกไม่ว่าพ่อ โอ้หนอตัวกู
จึงเกิดความรู้ ผิดชอบชั่วดี...
ตัดใจเลิกฝิ่น หากินสุจริต
ไม่นานสักนิด ก็กลับมั่งมี
เพื่อนพ้องจุนเจือ กลับเหลือมั่งมี
กลับเป็นเศรษฐี อีกครั้งทันตา...
ผู้อ่านทั้งหลาย จงได้ความสุข
เรื่องเก่าเล่าสนุก ก็หมดเวลา
ก่อนจากเตือนจิต หมั่นคิดทุกครา
ยาเสพติดพา ย่อยยับอับจน.....
29 ธันวาคม 2548 18:48 น.
ผกากรอง
ศุภฤกษ์เบิกฟ้านภาใส
ขึ้นปีใหม่เจิดจ้าดังฟ้าขาว
ปีจอนี้สุนัขประจักษ์ดาว
ขอเป็นข่าวส่งสุขมาผูกใจ
ปีสองห้าสี่เก้ามาบรรจบ
ขอให้ท่านพานพบสิ่งสดใส
อายุมั่นขวัญยืนทุกท่านไป
ประสพโชคโรคภัยอย่าได้เจอ
ให้ถูกหวยรวยทรัพย์นับไม่หมด
ให้หมดจดการงานสมำเสมอ
ให้สมหวังความรักฉันและเธอ
ได้พบเจอแต่สุขทุกคืนวัน
ชาวคณะจ๊ะจ๋ามาตรงนี้
พรจากใจน้องพี่มีสุขสันต์
ที่พันผูกผู้อ่านมานานวัน
สุขสราญทั่วกันฉันและเธอ...
29 ธันวาคม 2548 18:34 น.
ผกากรอง
ยังมีเรื่องเก่า ขานเล่าสืบมา
เศรษฐีนันทา อยู่กับลูกชาย
มั่งมีสินทรัพย์ เกินนับเหลือหลาย
หยิบใช้หยิบจ่าย โดยง่ายคล่องตัว...
เศรษฐีใจกว้าง หลายอย่างซื้อหา
ใครไปใครมา ขายค้าควายวัว
เรียกขึ้นเรือนชาน พักบ้านทำครัว
เลี้ยงดูอยู่ทั่ว ไม่กลัวหมดเปลือง...
เป็นที่รู้จัก คนมักกล่าวถึง
ยกให้เป็นหนึ่ง ชื่อเสียงลือเลื่อง
จึงมีคนมา สู่หาเนืองเนือง
ไม่เคยมีเรื่อง เสื่อมเสียใดใด...
อยู่มาวันหนึ่ง ด้วยถึงคราวเคราะห์
มีเหตุจำเพาะ ให้เปลี่ยนแปรไป
สำเภาจีนโหง แล่นโล้มาไกล
จากแผ่นดินใหญ่ เซี่ยงไฮ้จีนแดง...
มุ่งขายสินค้า มีตุ๊กตาหิน
ยาสูบยาฝิ่น ของกินไม่แพง
ลูกพลับลูกท้อ ไหหม้อแพรแดง
เห็ดหอมเครื่องแกง ผ้าไหมใบชา...
เศรษฐีนันทา ก็มาช่วยซื้อ
จีนโหงว่า"ลื้อ ลูนี่ลีก่า
อั๊วมีของลี เที่ยวนี้นำมา
ลีกว่ากังชา ยาสูบของไทย...
เรียกว่ายาฝิ่ง ใช้กิงก็ล่าย
สูบเลี้ยวซาบาย ชื่งอกชื่งใจ
แก้ปวดแก้เมื่อย เหน็ดเหนื่อยทั่วไป
ลองสูบเอาไหม อั๊วทำให้ลู"...
จีนโหงหยิบบ้อง เรียกว่ากล้องฝิ่น
ทำตัวอย่างสิ้น แล้วสูบให้ดู
เศรษฐีนันทา ร้องว่าอยากรู้
ส่งมาอากู๋ อั๊วจะทดลอง...
นับแต่นั้นมา เศรษฐีนันทา
ก็เข้าตำรา ขาดคิดไตร่ตรอง
ตกเป็นทาสฝิ่น หมดสิ้นทั้งผอง
ผลาญทรัพย์เงินทอง ยุบยับอับจน...
ขายไร่ขายนา เอามาสูบฝิ่น
หมดที่ทำกิน อัตคัดขัดสน
เหลือเพียงลูกชาย คู่กายอีกคน
ก็ลำบากล้น ขาดที่พึ่งพิง...
จากบ้านใหญ่โต นาไร่หลายร้อย
เหลือกระท่อมน้อย น่าเศร้าเสียจริง
ควายอีกตัวหนึ่ง ที่พึ่งสองสิ่ง
เพื่อนฝูงทอดทิ้ง หมดตนไยดี...
23 ธันวาคม 2548 19:50 น.
ผกากรอง
เมื่อม่านดำคลุมครอบทั้งขอบฟ้า
อสุนีบาตคำรามฟาดให้หวาดหวั่น
สายลมโบกกรรโชกทั่วเขตขันธ์
ก่อนฝนพรำฉำชุ่มผืนพสุธา
สรรพสิ่งรอเวลาจะเติบใหญ่
ในวันใหม่เมื่อตะวันฉายส่องหล้า
คืนฝนตกผกผ่านกาลเวลา
สุขอุราสายฝนที่พรำริน...
16 ธันวาคม 2548 17:18 น.
ผกากรอง
พารามีดีที่ตรงไหน
ที่ตรงใจใช่ว่าจะหาเหมือน
ที่ความดีตรงที่ไม่บิดเบือน
จะเสมือนเพชรวามกลางใจเธอ
กาลเวลาผ่านไปไว้เหมือนเท็จ
ก่อนเป็นเพชรปัจจุบันนี้ไม่ใช่
กลับเป็นบ้านผีสิงอยู่กลางใจ
ที่หาไหนไม่สามารถมาเปรียบเปรย
ถ้าเราไม่ร่วมมือกันวันนี้
อีกสิบปีดีกว่านี้มีไหมเอ่ย
อีกสิบปีคงเป็นผีนะทรายเชย
เพราะไม่เคยเช็ดถูดูแลเมือง