5 ตุลาคม 2548 17:36 น.
ผกากรอง
แม่เคยพาฉันออกไปไกลจากเมือง
ดูผืนนาทุ่งสีเหลืองอันไพศาล
ผืนนานี้มีคุณเอนกอนันต์
เลี้ยงดูฉันให้เติบใหญ่เป็นตัวตน
ต้นข้าวมีเมล็ดน้อยน้อยอยู่ในครรภ์
ต้องฝ่าฟันผ่านเปลวแดดและลมฝน
กว่าจะมาเป็นเม็ดข้าวเลี้ยงผู้คน
รวงข้าวคือต้นธาตุเผ่าชาติไทย
5 ตุลาคม 2548 17:21 น.
ผกากรอง
ฆ่ายุงตายไปหนึ่งตัวอย่ากลัวผิด
มาคิดคิดกลัวผิดก็ดีหนอ
ไม่กลัวผิดคงฆ่าตายหลายเลยพ่อ
หนูจึงขอให้พ่ออย่าก่อเลย
ก่อบาปนะมิใช่ขอก่อกองฟืน
ยามค่ำคืนมืดมิดสนิทหู
ไม่ได้ยินเสียงเสียงตบยุงของคุณครู
ได้ยินแต่ซออู้ดังกังวาล
5 ตุลาคม 2548 17:01 น.
ผกากรอง
ตะวันเคลื่อนคล้อยคอยต่ำลง
ตะวันไม่หลงงงงมหงาย
ตะวันยังอยู่ทุกคู่กาย
ตะวันไม่หายไปจากเธอ
สีทองแจ่มจรัสประดับศรี
สีทองบารมีมิหนีหาย
สีทองแจ่มจรัสประดับกาย
สีทองนั้นคล้ายสายสร้ายเอย
5 ตุลาคม 2548 16:55 น.
ผกากรอง
ทานตะวันทานไปอย่าให้อิ่ม
แล้วลองชิมลิ้มรสดอกกชสาย
ดอกกุหลาบหอมกลิ่นมิสิ้นวาย
ผกากรองนั้นหมายแต่งกลอนเอย
เดี๋ยวก่อนนี้มันอะไรกัน
ฉันอยากฟังคำคุณเฉลย
ดอกกชสายฉันไม่เข้าใจเลย
คำเฉลยดอกสายบัวทุกครัวเรือน
4 ตุลาคม 2548 18:17 น.
ผกากรอง
เศษหินเศษดินก้อนหนึ่ง
หากแม้ท่านพึ่งเจอมา
หากแม้ท่านพึ่งขุดหา
คงไม่มีค่าอะไร
หากเจียระไนนั้นเล่า
บอกกล่าวเล่าขานแถลงไข
ท่านขุดพบเจอสิ่งใด
เจียระไนข้าพบเพชรเอย