12 พฤศจิกายน 2548 17:14 น.
ผกากรอง
ก้อนเมฆน้อยสีฟ้าช่างน่ารัก
อยากได้มาพิงนักพักอาศัย
อยากได้มานอนหนุนให้อุ่นใจ
แต่ทำไมเอื้อมไม่ถึงจึงเลิกลา
เมื่อตะวันสีแดงมาแผลงฤทธิ์
ก็มาปิดบังก้อนเมฆเสกแสบตา
ดวงตะวันก้อนใหญ่ในแหล่งหล้า
ตกจากฟ้าสู่ดินกินเมฆเรา
ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
เมื่อหงุดหงิดออกมาดูหมู่ดาวหนา
ดาวสีเหลืองสีอื่นปนกันมา
ทั้งจันทรายังสีเหลืองชำเลืองดู
เช้ารุ่งขึ้นท้องนภาสีฟ้าแล้ว
เสียงเจื้อยแจ้วขับขานผสานเสียง
สกุณาบินผ่านมาลำเลียง
สีใกล้เคียงกันทุกตัวหัวมึนงง
ตัวที่หนึ่งสีดำคล้ำสนิท
ตัวที่สองจำไม่ผิดติดสีฟ้า
ตัวที่สองสีน้ำเงินใช้แล้วน่า
ตัวสุดท้ายสีฟ้าตรึงตราใจ
ชมวิหค สกุณา นภาแล้ว
พาน้องแก้วเข้าบ้านสีสดใส
หลังคาเขียวกำแพงฟ้าน่าแปลกใจ
คนสงสัยมานั่งดูผู้หญิงชาย
เมื่อเห็นว่าคนไปไม่เปี้ยนป้วน
เดินรอบสวนสักรอบให้เหนื่อยหาย
เดินสามรอบนั่งพักสบายกาย
ชมกล้วยไม้ มณฑา ผกากรอง
12 พฤศจิกายน 2548 16:56 น.
ผกากรอง
ถึงความฝันของฉันจะสูงสุด
ก็จะรุดรีบไปให้ถึงฝัน
แม้เทือกเขาหิมาลัยที่สูงนั้น
ก็จะฟันฝ่าไปไม่กังวล
ความหนาวเหน็บอดทนและตั้งใจ
จะทำให้ชนะชัยทุกแห่งหน
ใช้วิชาความรู้สู้อดทน
ก็จะพ้นอุปสรรค์หนักลำเค็ญ
ความสำเร็จที่ว่าใกล้ไม่ใช้แล้ว
จะคลาดแคล้วในชีวีมีให้เห็น
จำไว้ว่าถ้าตั้งใจไม่ยากเย็น
และจะเห็นความฝันที่รอคอย
17 ตุลาคม 2548 15:52 น.
ผกากรอง
ป่าต้นน้ำน้ำต้นป่าที่อาศัย
สัตว์น้อยใหญ่อาศัยอยู่ในป่า
พื้นดินที่ชุ่มชื้นคืนแห่งหล้า
คือแห่งป่าที่ดังเดิมจำเริญกาย..
ป่านี้มีสีสันสวยสด
ป่านี้เลี้ยวลดคดเคี้ยวง่าย
ป่านี้ไม่มีอันตราย
ที่บรรยายมาเพราะฉันรักป่าไทย..
อย่าเผาป่ากันเลยนะเพื่อนแก้ว
เจ้าเผาแล้วสัตว์ป่าจะอยู่ไหน
เจ้าเผาแล้วสัตว์ป่าอยู่อย่างไร
ตอนทำไปจิตใจเจ้าไม่ดี..
รู้ไหมว่าสัตว์ป่าระทมทุกข์
ไม่มีสุขดังอยู่คุกทุกชีวี
เจ้าทำไปนิสัยเจ้าไม่ดี
เกิดมาเจ้าไม่มีความเป็นคน..
14 ตุลาคม 2548 16:05 น.
ผกากรอง
รางเลือนเสมือนฝัน
หรือสวรรค์ ณ แดนใด
รังสรรค์บันดาลให้
โลกแห่งนี้มีสีคราม
ก่อเกิดสรรพสิ่ง
สงบนิ่งทุกโมงยาม
งามเหลือเหนือความงาม
ที่เคยเห็นและเป็นมา
โลกงามสีครามนี้
คงเหมือนมีซึ่งมนตรา
พร่ำเพรียกร่ำเรียกหา
อย่าลับเลือนมาเยือนยล
รางเลือนเสมือนฝัน
กับสีสันคอยย้ำเตือน
ล่วงเลยมิเคยเลือน
คอยนั่งนับวันกลับมา
13 ตุลาคม 2548 18:41 น.
ผกากรอง
ณ ที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลและไม่ใกล้
ใครไม่ไปก็ไม่ถึงซึ่งแห่งหน
สุดสายตาพาเราหยุดจุดตำบล
ไม่มีกลไม่มีเครื่องเรื่องวุ่นวาย
อยู่กับดินกินกับทรายไม่วายวอด
ไม่ต้องขอดขุดแผ่นดินถิ่นนี้ขาย
ชนบทวันนี้อยู่แห่งใด
จะมีใครพาหัวใจไปพักที