27 มิถุนายน 2553 23:02 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
จบ ม.ปลายได้มาอยู่เมืองกรุง
จากถิ่นทุ่งท้องนาหน้าหว่านไถ
จำต้องจากบ้านนามาอยู่ไกล
คนฝักไฝ่มากมายให้สู้ทน
จากท้องนามาอยู่เมืองเรื่องเป็นอยู่
ต้องอดสูคนแกร่งแย่งทุกแห่งหน
คนมากมายหางานทำจำต้องทน
ดีกว่าจนอยู่บ้านนาหาเงินทอง
ได้ทำงานโรงทอพอมีหวัง
อยู่บ้านยังทอผ้าไหมเล่นขายของ
เฝ้าเครื่องจักรถักทอผ้าเป็นกอง
ตอนตีสองง่วงเหงาเราต้องทน
อยู่ห้องเช้ามีมาม่าปลากระป๋อง
เก็บเงินทองใช้จ่ายได้ฝึกฝน
ค่าครองชีพในเมืองต้องสู้ทน
ให้รอดพ้นมีเหลือเพื่อแบ่งปัน
รับเงินเดือนดีใจส่งให้แม่
อีกแม่แก่น้องน้องและพ่อฉัน
แนบจดหมายจากใจส่งพร้อมกัน
ใจความนั้นคิดถึงบ้านจากคนไกล
ลูกสบายดีพ่อแม่ไม่ต้องห่วง
ในเมืองหลวงสิ่งยั่วยุไม่เหลวไหล
คิดถึงน้องพ่อแม่ยายเป็นไง
ส่งเงินให้ค่อยๆใช้ใว้ซื้อกิน
14 มิถุนายน 2553 06:43 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
สาดกะเซ็นเย็นสายน้ำยามหน้าฝน
ฟ้าสีหม่นโคนขอบฟ้าพามัวหมอง
สายลมพัดกลุ่มเมฆดำเข้าครอบครอง
เมฆก่ายกรองลอยพัดไปไอฉ่ำเย็น
บ้านหลังน้อยใจกลางกรุงมุงสังกะสี
ก่อนมั่งมีตอนนี้จนคนทุกเข็น
พ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้าทุกเช้าเย็น
แม้จะเป็นชนชั้นล่างกลางเมืองกรุง
ตื่นตอนเช้าแม่หุงข้าวหาอาหาร
ปรุงมานานตักข้าวแกงเตรียมใส่ถุง
เตรียมให้ลูกไปโรงเรียนต้องรีบปรุง
แม้ดูยุ่งก็มีสุขทุกวันคืน
ส่วนพ่อแม่เตรียมเดินทางหาตังค์ใช้
เก็บของขายกองขยะจำต้องฝืน
เป็นอาชีพหาทำได้ทนกล้ำกลืน
บางค่ำคืนแอบร้องไห้กลัวลูกอายคน
โชคชะตาพาชีวิตลิขิตให้
ทำงานใหญ่มาหลายครั้งพังทุกหน
ทรัพย์มากมายจำต้องขายใช้หนี้จน
แม้ลมฝนไม่พัดหวนทวนกลับคืน
11 มิถุนายน 2553 15:38 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
แดดอ่อนแสงสีทองส่องผืนน้ำ
ประกายงามสุรีย์แสงแห่งขุนเขา
แสงสุรีย์ร่วงดับลับร่มเงา
ในป่าเขาพฤกไพรไหวลำธาร
ฝูงนกป่าบินลับกลับรังถิ่น
ดูโบยบินล้าอ่อนจรหนองหาร
ยามมืดมาแสงเดือนส่องลำธาร
ไหวสะท้านเงาดวงจันทร์งามพริ้งพราย
ดาวประกายพรายแสงบนผืนฟ้า
ดูเจิดจ้าท้าแสงแห่งเดือนฉาย
มองดวงจันทร์เห็นกระต่ายในนิยาย
ยามเดือนหงายได้มองส่องทางจร
9 มิถุนายน 2553 09:24 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
โดนคนรักพรากความฝันอันสดใส
แรกกรุ่นไอความสาวพราวเสน่หา
สาวแรกรุ่นพร้อมความงามตระการตา
ไม่ประสาความสดใสให้หมองตรม
ถูกเขาชมเยินยอก่อเกิดรัก
ไม่ตะหนักรู้ชั่วผิดคิดขื่นขม
ทอดกายลงให้คนรักได้เชยชม
สุดตรอมตรมเมื่อรู้ว่ามาตั้งครรภ์
พ่อแม่รู้เรื่องเข้าเศร้าหนักหนา
ยินเสียงด่าสุดอับอายให้สงสาร
ลูกทำผิดพลาดไปไม่คิดการ
จึงจัดงานแต่งให้ลูกผูกข้อมือ
วัยสิบห้าเพิ่งผ่านพ้นทนตั้งท้อง
ไม่คิดตรองไม่พากเพียรเรียนหนังสือ
วัยเดียงสาเพิ่งโผ่พ้นทนรับมือ
ต้องฝึกปรือเป็นแม่คนทนรับไป
6 มิถุนายน 2553 09:02 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ริมทะเลคลื่นลมเห่สายลมพัด
ไหวสบัดพัดใบสนโยนเอนไหว
เหมือนเรือน้อยที่ร่องลอยลมแกว่งไกว
ลอยร่องไปไกลสุดไกลในทะเล
ฉันนั่งมองดูเรือน้อยอยู่ริมฝั่ง
นอนเอนหลังมองแผ่นฟ้าพาหักเห
แสงสุริยาตัดแผ่นฟ้ากลางทะเล
ลมซวนเซพัดไม่หวนทวนกลับมา
ริมทะเลยามค่ำมาฟ้ามืดมิด
โคมไฟติดล่องลอยไกลในมหา
คลื่นลมพัดคลื่นซัดสาดลมพัดพา
มองดูน้ำเรือหาปลาล้าผู้คน
ลมพัดโชยโรยกลิ่นฟองละอองน้ำ
ช่างเย็นฉ่ำยามพัดมาเหมือนหน้าฝน
สูดกลิ่นไอให้สดชื่นถิ่นเมืองชล
มากผู้คนเดินสัญจรรอนแรมไป