29 พฤษภาคม 2553 23:32 น.

บนดินต่างใต้ร่มใบ

ป๋อง สหายปุถุชน

ยามเม็ดฝนหล่นพรำลำแตกหน่อ			
ต้นแตกกอก่อรวมกันเป็นพันธ์ไม้			
ต่างเติบโตบนดินต่างใต้ร่มใบ			
เป็นต้นไม้ใต้เงาป่ากล้าเติบโต			
			
ที่ดินดำและชุ่มน้ำกล้าเติบใหญ่			
แตกกิ่งก้านแตกใบต้นใหญ่โข			
ที่ดินดอนเป็นก้อนหินดินก้อนโต			
กล้าไม้โผ่ไม่งดงามตามดินดอน			
			
ที่ดินทรายน้ำแห้งหายไม่เก็บน้ำ			
ต้นไม่งามแห้งขาดน้ำตามเชิงขอน			
พื้นดินเหนียวต้นเหี่ยวๆลากไม่ชอน			
ที่ดินอ่อนลากไม้ซ้อนชอนไปไกล			
			
ในป่าใหญ่มีต้นไม้ใกล้แห้งเหี่ยว			
ยืนต้นเซียวไม่เขียวงามธารน้ำไหล			
หมดอายุต้นผุพังล้มลงไป			
เพื่อต้นใหม่พุ่งแตกใบได้ทดแทน			
			
ฝูงสัตว์ป่าได้อาศัยกินใบผล			
ลูกไม้หล่นร่วงลงดินถิ่นหวงแหน			
เป็นธรรมชาติในป่าใหญ่ไกลเมืองแมน			
ช่างสุขแสนดินแดนป่าพาร่มเย็น			
/font>				
24 พฤษภาคม 2553 07:27 น.

ฟังเสียงขลุ่ยพริ้วมา/font>

ป๋อง สหายปุถุชน

ฟังเสียงขลุ่ยพริ้วมาพาให้หวน		
จิตรัญจวนหวนให้ใจคิดถึง		
ยินเสียงขลุ่ยแว่วมาจิตตราตรึง		
ฟังเสียงซึ้งสะอื้นแผ่วดังแว่วมา		
		
คิดถึงเพลงขวัญเรียมเคยเคียงคู่		
ขวัญคอยอยู่เรียมลาลับไม่กลับหา		
ฟังเสียงขลุ่ยเรียกนางครวญครางมา		
ฟังแล้วพาใจเศร้าเขาจากไป		
		
พี่ต้องอกกลัดหนองคลองแสนแสบ		
คล้ายดังหนามยอกแปลบแสบหัวใจ		
เฝ้าคิดถึงคนรักผู้จากไกล		
เสียงขลุ่ยครวญหวนให้ใจคะนึง		
		
โอ้ว่าคลองแสนแสบแต่ก่อนนี้		
น้ำใสดีกลับขุ่นหมองมองคิดถึง		
คลองน้ำเน่าเพราะใจคนไม่คำนึง		
ปลอยให้คอยเฝ้าคิดถึงจึงขุ่นมัว		
/font>				
24 พฤษภาคม 2553 07:24 น.

ยามเมฆฝนตั้งเคล้ามา

ป๋อง สหายปุถุชน

ยามเมฆฝนตั้งเคล้ามาฟ้าทมึน			
เมฆดำลอยกลบกลืนหมู่เมฆขาว			
ฟ้าแลบแปลบสีแดงเป็นทางยาว			
ฝนเม็ดขาวโปรยปรายให้ฉ่ำเย็น			
			
สายลมแรงหอบพัดสบัดพริ้ว			
เม็ดฝนปริวฟ้ามัวหมองมองไม่เห็น			
เปิดหน้าต่างเม็ดฝนปริวสาดกะเซ็น			
ให้ฉ่ำเย็นทั่วหล้าคราฝนพรำ			
			
หมู่แมลงเม่าบินร่อนหลบเม็ดฝน			
บ้างตกหล่นพื้นดินริมขะหนำ			
เม็ดฝนสาดลมพัดตกกระหน่ำ			
มองเม็ดฝนหล่นพรำยามเหมันต์			
			
ยามฝนหยุดเดินย่ำดินถิ่นริมทุ่ง			
ช่างหอมฟุ้งกลิ่นท้องนาพาสุขสันต์			
กบเขียดร้องก้องนาหน้าเหมันต์			
ช่างสุขสันต์ยามเหมันต์ฉ่ำลงดิน			
/font>				
20 พฤษภาคม 2553 15:41 น.

ไถ่ชีวิตโคกระบือ

ป๋อง สหายปุถุชน

เชิญร่วมใจไถ่ชีวิตโคกระบือ		
เพราะเขาคือสัตว์ใหญ่ใครมองเห็น		
ทนทำงานไถนาไร่เช้ายันเย็น		
เจ้าทุยเป็นเพื่อนยามยากทนตากตำ		
		
อาหารคือต้นหญ้าและฟางข้าว		
ทุยเพื่อนเราทนลากไถบ่ายยันค่ำ		
แม้งานหนักยามลำบากไถนาดำ		
เจ้าทุยย่ำเดินไถไปไม่คิดตังค์		
		
ถูกคนด่าโง่หนักหนาหาเขาสวม		
โดนตีรวมทุกตัวโง่โอ้อนิจจัง		
เนื้อหนังเหนียวเคี้ยวก็ยากปากจะพัง		
กินเนื้อหนังของวัวควายได้แก่เร็ว		
		
ทุกคนจงช่วยร่วมใจไถ่ชีวิต		
โปรดหยุดคิดเพื่อวัวควายไม่ตกเหว		
ทำดีชั่วโปรดอย่ากลัวสิ่งดีเลว		
ไม่แหลกเหลวเมื่อทำทานท่านเจริญ		
		
ให้ชีวิตได้สองแบบแล้วแต่ชอบ		
บริจากเงินใส่กระสอบมอบอย่าเขิน		
ไถ่ชีวิตซื้อชีวิตวัวควายเดิน		
ให้ดำเนินชีวิตต่อก็สุขใจ		
		
ให้ชีวิตอีกหนึ่งแบบไม่กินเนื้อ		
วัวควายเพื่อเป็นกุศลพ้นทุกข์ได้		
คนไม่ซื้อก็หยุดฆ่ารอดตัวไป		
จงร่วมใจไถ่ชีวิตโคกระบือ		
/font>				
14 พฤษภาคม 2553 19:53 น.

วิถีคนจร

ป๋อง สหายปุถุชน

เวรหรือกรรมทำสร้างแต่ปางก่อน		
ลุกนอนจะเดินนั่งช่างยากเหลือ		
ทำอะไรช่างเข็นใจให้น่าเบื่อ		
ยากไร้เสื้อจะใส่ไม่พอกิน		
		
ช่างจนมากยากแค้นแสนเข็น		
ครั้งลำเค็ญชีวิตยากมากหนี้สิน		
จะทำการฉันไดให้พอกิน		
ต้องจากถิ่นเคหามาจากจร		
		
เร่ร่อนขึ้นรถไฟไปเมืองหลวง		
ยังคิดห่วงถิ่นฐานที่นาดอน		
เร่ร่อนรอนแรมจากเชิงขอน		
ค่ำลงนอนพักผ่อนชานชาลา		
		
ได้มาอยู่เมืองฟ้าค้าแรงกาย		
หาทำง่ายงานก่อสร้างเป็นบ้างหนา		
เป็นวิชาติดตัวแต่ก่อนมา		
เคยช่วยพ่อปู่ย่าสร้างบ้านเรือน		
		
ตกเย็นย่ำค่ำลงร่ำสุรา		
เงินทองหาได้มาไม่มีเหลือ		
ก็เลยจนเข็นใจให้น่าเบื่อ		
อยู่ทำเพื่อกินใช้ไปวันๆ		
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงป๋อง สหายปุถุชน