29 เมษายน 2553 15:31 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ยามฝนแรกพร่างพลูสู่ป่าเขา
ชะล้างเอาฝุ่นผงลงรอยหิน
ยามฝนพรำล้างฝุ่นผงลงบนดิน
ทั้งแนวหินบนพื้นดินให้ฉ่ำเย็น
ฝูงผีเสื้อบินโฉบร่อนในราวป่า
บินไปมาโฉบร่อนเราได้เห็น
ชมความงามในพนาให้ฉ่ำเย็น
ยามสายเห็นน้ำใสหยดรดใบเรียว
น้ำหยดใสบนใบไหลร่วงหล่น
หยดลงบนผืนป่าพาสดเขียว
พันธ์ไม้งามในป่าเคยซีดเซียว
ให้สดเขียวยามแสงทองส่องตะวัน
ตะวันฉายพรายแสงทาบผืนป่า
ส่องแสงจ้าในผืนป่าพาสุขสันต์
ฝูงสัตว์ป่าน้อยใหญ่วิ่งไล่กัน
เป็นสวรรค์แดนดงป่าพงไพร
20 เมษายน 2553 12:02 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
เล่าเรื่องหญิงชราหาเก็บฟืน
ครั้งยามตื่นออกหาฟืนสุมกองใว้
ยามเย็นย่ำค่ำลงก่อสุมไฟ
ได้อุ่นไอจากกองไฟได้หุงกิน
แต่ก่อนมีลูกผัวอยู่พร้อมหน้า
แต่ผัวมาลาลับอกแทบสิ้น
ต้องดิ้นรนบนถิ่นฐานทำกิน
ชีวิตยังไม่สิ้นต้องดิ้นไป
เมื่อลูกโตเป็นสาวมาลาจาก
แม่อดอยากลูกมีสุขในเมืองใหญ่
แม่อดมื้อกินมื้อสู้ทนไป
พอได้ค่าแรงกายไว้ซื้อกิน
ทนรับจ้างถางหญ้าหาฟืนขาย
ลำบากกายไม่เคยท้อก่อหนี้สิน
คิดถึงลูกนั่งเศร้าน้ำตาริน
ก่อนแม่สิ้นได้เห็นลูกสุขสบาย
มาทักทายพี่น้องมิตรสหายหลังสงกรานต์ครับ
ก็มาเล่าเรื่องหญิงชราหาเก็บฟืนขายครับ
เป็นเรื่องราวมี่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย
เมื่อลูกๆเติบโตก็ต้องดิ้นรนเดินทางไปทำกิน
ยังต่างแดนถ้าไปตรงกับชีวิตใครก็ต้องขออภัย
ใว้ด้วยนะครับ ให้พี่น้องมิตรสหายทุกท่าน
ที่เข้ามาเยื่อมชมมีความสุขทุกท่านนะครับ
7 เมษายน 2553 22:55 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
เฝ้าวนเวียนทำนามาชั่วชีวิต
เพราะว่าติดหนี้สินที่ดินเขา
ทำพอได้กินไปโอ้ตัวเรา
พอได้ข้าวแบ่งใช้หนี้ไม่มีกิน
ทั้งค่าปุ๋ยค่ายาค่าเช่านา
หลายอย่างหนาหาไม่พอจ่ายหนี้สิน
พอทำไปหวังจะได้เพลี้ยมากิน
ต้องมาสิ้นเงินซื้ยามาฉีดมัน
ฝนไม่ตกน้ำแล้งข้าวแห้งเหลือง
ต้องขุ่นเคืองแย่งน้ำมาเข้านาฉัน
หอยเชอรี่มาระบาทต้องฆ่ามัน
บางคืนนั้นนกหนูนามากัดกิน
ทนตากแดดถางหญ้าคันนาไร่
ซื้อฉีดไปยาฆ่าหญ้าพาหนี้สิน
กว่าจะได้เป็นเม็ดข้าวมาเก็บกิน
ค่าที่ดินหักค่าเช่าเอาแบ่งไป
ขายข้าวเปลือกถูกกว่าซื้อข้าวสาร
ทนทำนานครั้งเมื่อหว่านยันลากไถ
เป็นอาชีพของพ่อแม่ปู่ย่าให้
ทนทำไปหวังพอได้ข้าวไว้กิน
พอโรงเรียนเปิดเทอมเริ่มปวดหมอง
มีข้าวของเอาไปฝากมากหนี้สิน
ทำเท่าไหร่ไม่พอจ่ายดอกเบี้ยกิน
ก็ต้องดิ้นต้องสู้ทนดิ้นรนไป
/font>
1 เมษายน 2553 15:28 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ยามฝนโปรยบางบางกลางท้องทุ่ง
ช่างหอมฟุ้งไอดินกลิ่นฟางข้าว
ตะวันฉายทอแสงฉ่ำฝนพราว
เกิดโค้งยาวเป็นรุ้งพุ่งสู่นา
สีสันสวยสดใสยามได้ชม
ฝนพร่างพรมพร้างพรูสู่พฤกษา
เรียวรวงข้าวรอรับพิรุนมา
สุขหนักหนาโปรยปรายให้ฉ่ำเย็น
สายลมโปรยโชยพัดสบัดพริ้ว
ใบไหวปริวพริ้วงามยามได้เห็น
ลมแรงรวงใบแกว่งน้ำกระเซ็น
ปริวกระเด็นลอยไปในท้องนา
ยามเย็นย่ำค่ำลงตะวันดับ
กบเขียดร้องก้องรับกับเสียงฟ้า
เสียงคลืนๆเห็นคนหากบปลา
ในท้องนาเห็นแสงไฟในค่ำนี้
ฉันนั่งดูแสงไฟใต้นอกชาน
อยู่บนบ้านใต้หลังคาสังกะสี
เสียงฝนสาดแรงซัดฟังเพลินดี
สังกะสีกล่อมเป็นเพลงเค้งหลับไป