21 ธันวาคม 2552 06:57 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
อยากจะกล่าวถึงเรื่องราวของช้างไทย
กับสังคมที่เปลี่ยนไปในเมืองนี้
แต่ก่อนนั้นช้างอยู่ป่ามานานปี
มาบัดนี้เดินเข้าเมืองดูโดดเดี่ยว
พอตกค่ำช้างเดินย่ำตามทางเท้า
ดาวตาเจ้าดูรถลาน่าหวาดเสียว
งวงงาน้อยของเจ้าคอยมุ่งเก็บเกี่ยว
เดินลัดเลี้ยวไปตามทางในบางวัน
คนทำทานให้อาหารช้างน้อยใหญ่
เป็นสุขใจทำบุญสัตว์ใหญ่ช่างสุขสันต์
ให้อาหารได้กินบ้างกล้วยอ้อยมัน
ใส่ถุงหั่นร้องเดินมาขอทำทาน
บนถนนยามแสงแดดพุ่งแผดเผา
สี่เท้าเจ้าเดินย่ำไปใครสงสาร
เดินลุยไปในถนนใต้สะพาน
ใจยังหารน้ำตาตกเดินวกเลี้ยว
ใช้ชีวิตที่ทุกข์ทนในเมืองใหญ่
เจ้าของใช้เดินขอทานพานหวาดเสียว
รถลามากถนนร้อนตอนขบเคี้ยว
โดนรถเฉี่ยวบ้างขาหักถากเส้นเอ็น
น่าสงสารชีวิตช้างไทยในวันนี้
เรื่องมากมีเป็นสัตว์ใหญ่ใครมองเห็น
ต้องกินมากคนเลี้ยงยากต้องจำเป็น
เดินหลบเร้นขออาหารขอทานเลี้ยงคน
18 ธันวาคม 2552 00:11 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
จากดอยเหนือน้ำค้างพราวอันหนาวเหน็บ
อยากจะเก็บภาพความงามทุกค่ำสาย
เห็นสายหมอกลอยปุยฟูดูเรียงราย
หนาวสั่นกายเดินอยู่ในสายหมอกเบา
แสงสีสันยามตะวันพ้นขอบฟ้า
แสงแดงจ้าสาดสีทองทั่วป่าเขา
มีความสุขกับชีวิตใต้ร่มเงา
น้ำป่าเขาแดดร่มเงาเราเคียงกัน
ยังมีเพื่อนมิตรสหายได้ไถ่ถาม
ครั้งเดินตามแนวทางพ่อก่อความฝัน
บ้างเดินล้มก้มแล้วลุกปลุกชีวัน
ก่อสร้างฝันบนหนทางดั่งนิยาย
วันเวลาความปราชัยไม่กล่าวถึง
ใจคำนึงห่วงมิตรแท้แก้ไม่หาย
เคยผิดหวังเคยอกหักอยากจะตาย
อ่านนิยายได้ความคิดพิชิตมัน
ดูเมฆหมอกในยามเช้าเล่าความหลัง
เป็นพลังให้ชีวิตคิดเพ้อฝัน
ร่วมฟันฝ่าอุปสรรค์ไปด้วยกัน
ได้ร่วมฝันม่านหมอกขาวเราสุขเอย
13 ธันวาคม 2552 07:46 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
โอ้ชีวิตถึกควายทุยเดินลุยทุ่ง
ดวงตามุ่งแทะเล็มหญ้านาสดเขียว
ลิ้นตะหวัดเก็บยอดหญ้ามาคบเคี้ยว
หน้าเก็บเกี่ยวหน้าหว่านไถได้ทำงาน
หมดหน้าแล้งมาหน้าฝนคนหว่านดำ
ควายเดินย่ำช่วยลากไถได้ถากถาง
ไถจนสิ้นดินท้องนามาเป็นทาง
ช่วยถากถางเดินย่ำนามากับคน
พอถึงหน้าเก็บเกี่ยวคันเคียวข้าว
เจ้าทุยเฝ้าลากจูงเกวียนเวียนเก็บขน
ข้าวมากมายมาเก็บไว้ลานเวียนวน
แล้วเดินด้นย่ำเม็ดข้าวดูเรียงราย
ฤดูกาลได้ผันเปรี่ยนเวียนมาถึง
เจ้าควายจึงแก่ชราน่าใจหาย
ยินเจ้าของร้องบอกสั่งคงต้องขาย
พรุ่งนี้บ่ายขายโรงฆ่ามาทำกิน
ควายยินเข้ายืนหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา
พรุ่งนี้หนาเขาต้องขายใช้หนี้สิน
ปากร้องบอกก้องไปน้ำตาริน
จบชีวินโอ้เจ้าทุยเคยลุยงาน
อันชีวิตของควายไทยได้กล่าวถึง
บุญคุณซึ้งได้อาศัยได้ถากถาง
เคยทุกข์ยากเคยลำบากเพื่อนร่วมทาง
ต้องลาล้างเมื่อแก่ชราโดนฆ่ากิน
3 ธันวาคม 2552 15:39 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
จากดอยภูสู่ป่าเขาเงาไม้ใหญ่
แตกกิ่งใบเขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำเหลือ
ฝูงนกกาสัตว์ป่าได้จุนเจือ
อยู่กินเพื่อสืบเผ่าพันธุ์นั้นจำเป็น
มีน้ำตกนกร้องลำคลองใส
สายน้ำไหลปลาว่ายธารใสเย็น
มีความสุขทุกครั้งยามได้เห็น
นกกระเต็นบินเล่นโฉบไปมา
มองดูนกป่าพฤกไพรใจฉ่ำชื่น
ตกกลางคืนแสงเดือนส่องแสงจ้า
มองยอดเขาแสงดาวเพื่อนจันทรา
ลมพัดพายอดไม้ไหวตามลม
3 ธันวาคม 2552 15:36 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
นกแสงตะวันบินผ่านทิวขอบฟ้า
แสงเจิดจ้าเช้าวันใหม่ส่องฉายแสง
ดวงตะวันเปล่งแสงส่องสีแดง
สาดฉายแสงโหมแรงลุกเป็นไฟ
การเดินทางของชีวิตกับตะวัน
ยังเหมือนกันส่องนำทางสว่างไสว
มีด้านมืดด้านสว่างกระจ่างไป
จงอย่าใช้ในด้านมืดเคยเป็นมา
มีมืดมาฟ้าหม่นบางคนเศร้า
คิดถึงครั้งปวดร้าวเศร้าหนักหนา
คิดถึงสุขบางครั้งทุกข์ปลุกวิญญา
ต่างค้นหาทางของตัวรู้ชั่วดี
ดวงตะวันมีขึ้นแล้วมีดับ
ถึงคราวลับขอบฟ้ามาหน่ายหนี
ให้เพื่อนทุกคนมีความสุขทุกชีวี
วันพรุ้งนี้เช้าวันใหม่ฉายแสงทอง...