14 มกราคม 2553 18:45 น.

ตื่นตอนเช้าเสียงไก่ขันวันฟ้าใหม่

ป๋อง สหายปุถุชน

กระท่อมน้อยกลางท้องนาคราใกล้ค่ำ			
ยามเย็นย่ำลมพัดมาหญ้าเอนไหว			
ในความมืดฉันยืนดูอยู่ไกลไกล			
แสงนวลใสลอยเด่นเห็นดวงเดือน			
			
ได้ยินเสียงหริ่งเรไรตอนใกล้ค่ำ			
เป็นลำนำจากท้องนาหาใดเหมือน			
ช่างสุขใจยามที่ได้กลับมาเยือน			
ที่ใดเหมือนบ้านกลางนาคราลมเย็น			
			
บางคืนมาฟ้ามืดมิดขีดเส้นดาว			
เป็นทางยาวที่ดาวไถยังได้เห็น			
ดาวลูกไก่ฟังเรื่องเล่าสุดลำเค็น			
กลายมาเป็นดาวประดับฟ้าหน้าเศร้าใจ			
			
คิดถึงคนที่เคยรักมาหักจิต			
เฝ้าครุ่นคิดโอ้ชีวิตเป็นไฉน			
มองดาวเดือนเกลื่อนนภาฟ้ามืดไป			
น้องลาไกลไปเป็นอื่นคืนลมแรง			
			
ตื่นตอนเช้าเสียงไก่ขันวันฟ้าใหม่			
ผ่องอำไพแสงสีทองสาดส่องแสง			
ดวงตะวันพ้นขอบฟ้าสีนวลแดง			
นกบินแข่งบินเริงร่าออกหากิน			
				
10 มกราคม 2553 08:19 น.

ฤดูกาลไถหว่านกล้าได้มาถึง

ป๋อง สหายปุถุชน

เปรียบเสมือนไฟไหม้ฟางกลางท้องทุ่ง			
ยอดผักบุ้งที่สดงามพลันเหี่ยวแห้ง			
ไฟพัดไหม้ควันขโมงลมพัดแรง			
สาดเปลวเพลิงร้อนแรงกลางท้องนา			
			
นกบินร่อนกลางนภาท้ากองไฟ			
นกบินร่อนโฉบใส่ควันไฟหญ้า			
จับแมลงที่บินหลบขึ้นท้องฟ้า			
ทั้งตั๊กแตนปาตังก้าฉีกขาดึง			
			
เปลวไฟหมดมอดดับรับฝนใหม่			
ฤดูกาลไถหว่านกล้าได้มาถึง			
ข้าวเขียวสดรับฝนมาติดตาตรึง			
ช่างงามซึ้งยามฝนมาข้าวกล้าแกร่ง			
			
ฝนหยุดตกหยดน้ำค้างพร่างพรมข้าว			
หยดหยาดละอองวาวพร่างพราวแสง			
หยดชะโลมพรมใบข้าวทั่วทั้งแปลง			
ดวงสุรีย์สาดแสงงามยามต้องใบ			
			
หยดน้ำค้างเปล่งประกายบนใบข้าว			
ลมพัดเบาพาใบข้าวโยกโบกไสว			
หยดน้ำค้างปริวกระเซ็นกระเด็นไกล			
ลมพัดไปฉ่ำละอองทั่วท้องนา			
				
6 มกราคม 2553 07:25 น.

แสงตะเกียงเจ้าพายุยังคุแสง

ป๋อง สหายปุถุชน

ภาพในวัยเยาว์ของฉันมันสวยงาม( เป็นบรรยากาศรอบๆลานนวดข้าวที่พบเห็นมาครับ )			
	ในลานนวดข้าวของครอบครัวฉัน ที่ จ. อยุธยา			
	เป็นภาพที่น่าจดจำบันทึกเอาใว้  หัดกวีบทที่ 1			

*	เห็นแสงหิงห้อยลอยวับวับ			
	แสงติดติดดับดับระยับแสง			
	ใต้แสงเดือนส่องสว่างสีนวลแดง			
	หิงห้อยน้อยบินร่อนเปล่งแสงระยิบระยับทั่วท้องนา			

	ชาวนางัดคันฉายกรีดลานข้าว			
	สงงัดเอาเศษฟางพรางเขย่า			
	เม็ดข้าวหลุดร่วงลงบนลานข้าว			
	เอาฟางเบาไม่มีข้าวคัดออกไป			

	แสงตะเกียงเจ้าพายุยังคุแสง			
	เปล่งสว่างส่องแสงนวลชวนหลงไหล
	แข่งแสงเดือนเกลื่อนสว่างกระจ่างไกล
	เห็นแสงไฟใกลไกล้ในค่ำคืน

	เด็กน้อยวิ่งไล่ตามแสงหิงห้อย
	มือน้อยๆจับกุมขยุ่มแสง
	หิงห้อยน้อยเปล่งแสงสว่างลอดมือแดง
	เปล่งพลังแห่งแสงเป็นโคมทอง

	บ้างมุดฟางนอนนับดาวพร่างพราวแสง
	น้ำค้างแรงลมหนาวมาคราเดือนสิบสอง
	ไออุ่นฟางหอมตลบได้พบลอง
	เอามากองสุมไว้ให้ควายกิน

	ลานนวดข้าวแบบโบราณนานนมมา
	ของปู่ย่าตายายได้พบเห็น
	ฉันยังเด็กตอนเล็กเคยได้เล่น
	วิ่งหลบเร้นเห็นหิงห้อยลอยเด่นเต็มท้องนา...

บรรยาย	การนวดข้าวเขาจะใช้ควายเดินย่ำบนลานข้าว
	เอาข้าวที่เกี่ยวตากแห้งแล้วมารวมไว้
	ใช้ควายหรือรถไถย่ำเม็ดข้าวจนร่วงลงแล้ว
	ก็เอาคันฉายสงหรืองัดฟางข้าวออกไปทิ้ง ( สง คือ เอาคันฉายงัดฟางข้าวแล้วเขย่าให้เม็ดข้าวร่วงลง )
	เหลือแต่เม็ดข้าวเปลือกแล้วไปผ่านสีฟัดอีกทีเพื่อเอาแกลบออกครับ
	กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดต้องลำบากมาก

*	กว่าจะเป็นข้าวแต่ละเม็ดใครเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยากสังขาน
	จงกลืนกินกันด้วยจิตวิญญานนึกสงสารชาวนา
	กินข้าวในจานควรนึกถึงที่มาโปรดอย่าเหลือทิ้งมันเป็นบาปหนักหนา
	ถางหญ้ากลางแดดหว่านไถปักกล้ากว่าจะได้เก็บกินหน้าสู้ดินหลังสู้ฟ้า
	ไม่ได้มากันง่ายๆแต่ละเม็ดข้าวทุกเม็ดเหงื่อใครนำพา
	ชุ่มชโลมอาบกายทุกข์ซ้ำร้ายชาวนาถูกเขากดราคาอนาจหนาชาวนาไทย...
							เพลง	น้าแอ๊ด คาราบาว				
29 ธันวาคม 2552 06:51 น.

ฝูงนกยางต่างจดจ้องมองในน้ำ

ป๋อง สหายปุถุชน

ฝูงนกยางต่างจดจ้องมองในน้ำ			
ช่างสุขล้ำท้องนาข้าวยาวสดเขียว			
เดินลัดเลาะคันนาข้าวมาคนเดียว			
ทางคดเคี้ยวเดินลัดไปใกล้รัญจวน			
			
ลมพัดพริ้วปลิวใบกล้าพาเอนไหว			
ลมแกว่งไกวไหวสบัดพัดไม่หวน			
เดินชมไปช่างสุขใจไม่ค่ำครวญ			
เห็นแสงนวลแดดอ่อนแรงแข็งฝนพรำ			
			
นกบินเรียงร้องเซ็งแซ่แปรเป็นศร			
บินจากจรกลับรังถิ่นกินอิ่มหนำ			
บินมุ่งไปถิ่นอาศัยเคยจดจำ			
จวนพบค่ำตะวันแดงแสงหายไป			
			
แสงแดงใหญ่เหนือยอดไม้ไกล้จะดับ			
นกบินลับสุดลูกตาข้าวกล้าไหว			
ค่ำลงแล้วฉันเดินเดี่ยวเหลียวหาใคร			
เดินลัดไปที่ขะหนำค่ำลงนอน			
				
28 ธันวาคม 2552 01:44 น.

ลูกน้อยคอยอยู่รัง

ป๋อง สหายปุถุชน

โอ้แม่นกโบกบินไปไกลสุดตา			
สู่นภาขอบฟ้ากว้างกลางป่าเขา			
บินร่อนไปจับกิ่งไม้ใต้ร่มเงา			
ในป่าเขากลางดอนดงบินลัดเลี้ยว			
			
ใจยังคิดถึงลูกน้อยที่คอยอยู่			
ตาจ้องดูหาอาหารพานหวาดเสียว			
เห็นคนเดินเหินลัดเละลำธารเปลี่ยว			
ใต้พุ่มเขียวของต้นไม้เดินไปมา			
			
กล่าวถึงรังของแม่นกลูกงกรอ			
ปากร้องจ้อรออาหารแม่ไปหา			
ปากร้องเรียกด้วยความหิวรอแม่มา			
ต่างร้องจ้าเสียงระงมลมพัดผ่าน			
			
แม่นกเกิดคราวเคราะห์เพราะมัวหา			
ดูดวงตาเจ้าจดจ้องมองอาหาร			
ไม่ทันระวังมีพรานไพรใกล้ลำธาร			
เก็บอาหารเสียงปืนปังพลางร่วงมา			
			
ปากแม่นกเก็บอาหารนั้นมากหลาย			
แต่ร่างกายเจ้าดับสิ้นบินถลา			
ร่วงลงพื้นน้ำตารินสิ้นชีวา			
ใจนั้นหนาห่วงลูกน้อยคอยอยู่นาน			
			
ลูกนกรอร้องระงมข่มความหิว			
ยังคอยคิวแม่กลับมาพาอาหาร			
ผ่านคืนวันเช้ายันค่ำมาช้านาน			
คอยแม่นั้นจนขาดใจตายตามกัน			
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงป๋อง สหายปุถุชน