6 มิถุนายน 2553 09:02 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ริมทะเลคลื่นลมเห่สายลมพัด
ไหวสบัดพัดใบสนโยนเอนไหว
เหมือนเรือน้อยที่ร่องลอยลมแกว่งไกว
ลอยร่องไปไกลสุดไกลในทะเล
ฉันนั่งมองดูเรือน้อยอยู่ริมฝั่ง
นอนเอนหลังมองแผ่นฟ้าพาหักเห
แสงสุริยาตัดแผ่นฟ้ากลางทะเล
ลมซวนเซพัดไม่หวนทวนกลับมา
ริมทะเลยามค่ำมาฟ้ามืดมิด
โคมไฟติดล่องลอยไกลในมหา
คลื่นลมพัดคลื่นซัดสาดลมพัดพา
มองดูน้ำเรือหาปลาล้าผู้คน
ลมพัดโชยโรยกลิ่นฟองละอองน้ำ
ช่างเย็นฉ่ำยามพัดมาเหมือนหน้าฝน
สูดกลิ่นไอให้สดชื่นถิ่นเมืองชล
มากผู้คนเดินสัญจรรอนแรมไป
1 มิถุนายน 2553 07:43 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ต่างปวดท้องพาร่างขึ้นสู่พื้นทราย
ต่างแหวกว่ายขุดคุ้ยทรายเป็นบ่อหลุม
หยอดไข่ใส่มือตะกายทรายปกคลุม
ที่ใต้หลุมได้ฝังไข่ไว้เก็บฟัก
ออกแรงเบ่งหมดแรงน้ำตาร่วง
ใจคิดห่วงหวงไข่ไม่ได้พัก
มีคนจ้องเก็บไข่คอยมาดัก
แม่เต่าพักหยุดไข่ลงคงหมดกัน
น่าสงสารชีวิตเต่าไร้แรงสู้
ตาจ้องดูคนเก็บไข่ในหลุมฉัน
ที่กลบไว้น้ำตาไหลไข่ของมัน
นอนกัดฟันน้ำตาตกโศกเศร้าใจ
ไม่มีแรงและเขี้ยวเล็บคอยป้องกัน
มีขายันเดินหนีลงทะเลได้
หมดแรงพับกับคลื่นลมจมลงไป
บ้างน้อยใจฝากร่างหายในทะเล
1 มิถุนายน 2553 07:40 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ยามเช้าลุกจากเตียงหาเขียงมา
มือหยิบห่อใบกัญชามาซอยหั่น
ใบมีดคมค่อยขยับงับลงพลัน
ใบแห้งนั้นค่อยหั่นควั้นเป็นลำ
กระท่อมจากในไร่ที่ปลายสวน
ควันอบอวนลอยโขมงริมขะหนำ
ภาพความงามยามสายให้จดจำ
ยินเสียงขำพูดงึมงำบ่นไปมา
มองออกไปที่ท้ายสวนริมกระท่อม
ใบเขียวย่อมให้ชะอุ่มคุมแน่นหนา
ใบห้าแฉกแตกกิ่งก้านตระการตา
ดูแน่นหนาเขียวสะพรั่งดั่งแดนดง
มองเข้าไปในกระท่อมเห็นชายหนุ่ม
มือเกาะกุมบ้องไม้ไผ่ไม่วางลง
สูตรกลิ่นควันลอยอบอวนชวนให้หลง
แคว้นแดนดงพงป่าพนาไพร
ครั้นยามสายแดดอุ่นไอในไพรกว้าง
ไม่อ้างว้างเสียงนกกาพาหลงไหล
เสียงชะนีลิงข้างกลางพฤกไพร
เสียงไม้ไผ่เสียดสีกอพอทำเนา
ควันลอยวนตัดแสงพุ่งเป็นสาย
ช่างสุขใจกระท่อมไม้ใกล้ป่าเขา
สุขหนักหนากับชีวิตใต้ร่มเงา
ควันสีขาวลอยหายไปในแดนดง
29 พฤษภาคม 2553 23:32 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ยามเม็ดฝนหล่นพรำลำแตกหน่อ
ต้นแตกกอก่อรวมกันเป็นพันธ์ไม้
ต่างเติบโตบนดินต่างใต้ร่มใบ
เป็นต้นไม้ใต้เงาป่ากล้าเติบโต
ที่ดินดำและชุ่มน้ำกล้าเติบใหญ่
แตกกิ่งก้านแตกใบต้นใหญ่โข
ที่ดินดอนเป็นก้อนหินดินก้อนโต
กล้าไม้โผ่ไม่งดงามตามดินดอน
ที่ดินทรายน้ำแห้งหายไม่เก็บน้ำ
ต้นไม่งามแห้งขาดน้ำตามเชิงขอน
พื้นดินเหนียวต้นเหี่ยวๆลากไม่ชอน
ที่ดินอ่อนลากไม้ซ้อนชอนไปไกล
ในป่าใหญ่มีต้นไม้ใกล้แห้งเหี่ยว
ยืนต้นเซียวไม่เขียวงามธารน้ำไหล
หมดอายุต้นผุพังล้มลงไป
เพื่อต้นใหม่พุ่งแตกใบได้ทดแทน
ฝูงสัตว์ป่าได้อาศัยกินใบผล
ลูกไม้หล่นร่วงลงดินถิ่นหวงแหน
เป็นธรรมชาติในป่าใหญ่ไกลเมืองแมน
ช่างสุขแสนดินแดนป่าพาร่มเย็น
/font>
24 พฤษภาคม 2553 07:27 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ฟังเสียงขลุ่ยพริ้วมาพาให้หวน
จิตรัญจวนหวนให้ใจคิดถึง
ยินเสียงขลุ่ยแว่วมาจิตตราตรึง
ฟังเสียงซึ้งสะอื้นแผ่วดังแว่วมา
คิดถึงเพลงขวัญเรียมเคยเคียงคู่
ขวัญคอยอยู่เรียมลาลับไม่กลับหา
ฟังเสียงขลุ่ยเรียกนางครวญครางมา
ฟังแล้วพาใจเศร้าเขาจากไป
พี่ต้องอกกลัดหนองคลองแสนแสบ
คล้ายดังหนามยอกแปลบแสบหัวใจ
เฝ้าคิดถึงคนรักผู้จากไกล
เสียงขลุ่ยครวญหวนให้ใจคะนึง
โอ้ว่าคลองแสนแสบแต่ก่อนนี้
น้ำใสดีกลับขุ่นหมองมองคิดถึง
คลองน้ำเน่าเพราะใจคนไม่คำนึง
ปลอยให้คอยเฝ้าคิดถึงจึงขุ่นมัว
/font>