5 กันยายน 2555 08:51 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
หมาตัวเล็กน่ารักน่าเอ็นดู
คนอุ้มชูฟูมฟักรักเหมือนลูก
เฝ้าเลี้ยงดูอยู่ดีรักพันผูก
เล่นสนุกหมาน้อยคอยระวัง
ที่เกิดมาไม่สวยช่างโชคร้าย
ที่ซื้อขายหมาสวยพันธุ์เด่นดัง
แต่บางรายเอาไปได้แต่ขัง
ให้หมานั่งในกรงคงหมดกัน
บ้างซื้อไปไม่เคยได้เลี้ยงหมา
ต้องศึกษาดูไปอย่าหุนหัน
ควรมีเวลาให้เขาอย่าปล่อยมัน
คอยแบ่งปันความรักให้อยู่ดี
บ้างซื้อไปแล้วปล่อยให้คอยหิว
นั่งหน้านิ่วในกรงไม่ส่งศรี
ทั้งหิวน้ำหิวข้าวยุงราวี
บ้างทุบตีไม่สนคนจะมอง
คิดซื้อหมาต้องศึกษาดูสายพันธุ์
เห็นเลี้ยงกันพันธุ์ดุกัดเจ้าของ
บ้างถึงตายบางพันธุ์คึกคะนอง
ควรตรึกตรองให้ดีที่เลี้ยงกัน
1 กันยายน 2555 06:33 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
เวิ้งฟ้าตะวันฉายไกลสุดตา
พงพนากว้างใหญ่ส่องฉายแสง
พืชพันธุ์ไม้พงไพรฟ้านวลแดง
ทั่วทั้งแปลงเติบใหญ่ให้ร่มเงา
แสงรำไรส่องผ่านลานโคนต้น
บ้างออกผลแตกหน่อริมโคนเขา
สัตว์น้อยใหญ่อาศัยนอนแนบเนา
มนุษย์เราทำลายป่าไม้งาม
ทั้งไฟป่าเผาผานกันวอดวาย
ไม้ล้มตายสัตว์สูญหายดูรุกราม
ป่าไม้แห้งดินแล้งดูเสื่อมซาม
ก็เพราะความเห็นแก่ได้ของใครกัน
ดูช้างป่าออกหากินพืชไร่
คนถางไถป่าไม้กันทุกวัน
ตัดเตียนโล่งทำลายใช้เลื่อยหั่น
ขุดโค้นฟันปลูกพืชไร่เลื่อนลอย
จนมีข่าวอื้อฉาวคนกับช้าง
เดินสวนทางช้างป่าต้องล่าถอย
ต่างต้องกินต้องอยู่ป่าริมดอย
ป่าเหลือน้อยช้างป่าออกหากิน
รุกแนวป่าเข้าไปทำไร่สวน
ป่าไม้จวนสูญไปเหลือแต่ดิน
ช้างอดหิวต้องออกระลานถิ่น
ฝนหลั่งรินดินโคลนฟังทลาย
10 สิงหาคม 2555 02:50 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
แสงจันทร์ส่องค่ำคืนณ.ลานฆ่า
คนอ่อนล้าหลับไหลใต้แสงเดือน
ราตรีกาลดึกดื่นยินเสียงเตือน
จุดจบเคลื่อนมาถึงคืนสุดท้าย
ยืนเข้าคิววิ้งร้องบ้างตื่นหนี
คนทุบตีทิ่มแทงสุดบรรยาย
เลือดหลั่งรินชักดิ้นก่อนตัวตาย
โดนทำร้ายไร้ทางสู้ต้องจำยอม
ชำแหละร่างเลือดเนื้อเถือเอาหนัง
ใส่ลงลังส่งขายแมลงไต่ตอม
ตั้งแต่เล็กเติบใหญ่ให้ถนม
ร่างกายพร้อมอ้วนพลีนี้เพื่อใคร
ได้เวลาอาหารเช้าคนขุนเลี้ยง
มีเสบียงเก็บไว้อยู่ไม่ไกล
กินอิ่มหนำหลับนอนสบายใจ
จนเติบใหญ่สุขสบายไม่กังวน
พออยู่มาคนแปลกหน้ามาซื้อไป
จับมัดใส่กรงเหล็กใช้รถขน
ถึงแออัดยัดเยียดต้องจำทน
ดูปะปนถึงโรงฆ่าพาลงไป
รู้ชะตาเดินก้าวเท้าไม่ไหว
คนตีไล่ให้เดินต้องจำใจ
เห็นเพื่อนโดนทุบตีน้ำตาไหล
เลือกตกในใจสั่นให้ตื่นกลัว
กลิ่นคาวเลือดคละคุ้งพุ่งไหลนอง
ร่างล้มกองชักดิ้นไฟสลัว
ภาพสุดท้ายในตาดับมืดมัว
ใจสั่นรัวหยุดลงตรงกลางลาน
3 กรกฎาคม 2555 19:31 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
เขียวทุ่งข้าวแนวยาวสุดคันนา
ไกลสุดตาเหว้องฟ้าตะวันฉาย
สาดแสงทองเจิดจ้าพาหนาวคาย
ส่องประกายงดงามข้ามทิวเขา
กลุ่มเมฆหมอกบดบังพลังแสง
ฟ้านวลแดงเปล่งแสงเมฆลับเงา
สาดแสงผ่านทิวทุ่งลมแผ่วเบา
มีเพียงเรายืนมองท้องนภา
ลมพัดไหวใบข้าวราวเกลียวคลื่น
ดูร่มรื่นร่มไม้ใต้ผืนฟ้า
นกน้อยบินเหินลมวนไปมา
บ้างถลาหาคู่ดูวกวน
บ้างบินมาเป็นกลุ่มเสียงเซ็งแซ่
ทวนกระแสลมพัดบ้างสับสน
บางตัวบินหลงทิศแลสายชล
สายน้ำไหลเอ่อล้นเต็มฝั่งคลอง
นี่ก็ผ่านเดือนหกฝนตกพรำ
นาชุ่มฉ่ำน้ำหลากลงห้วยหนอง
มองเห็นปลาผุดว่ายคึกคะนอง
ยินเสียงฝนฟ้าร้องกลางท้องนา
ละอองฝนโปรยพัดตัดลำแสง
มองเห็นรุ้งเขียวแดงโค้งขอบฟ้า
สลับสีมองดูยิ่งเพลินตา
ท้องนภางดงามยามฝนพรำ
28 มิถุนายน 2555 06:11 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
อยากจะกล่าวถึงเพื่อนเตือนความหลัง
เมื่อครั้งยังพากเพียรเรียนหนังสือ
เพื่อนฉันเป็นคนดีมีฝีมือ
ไม่ยึดถือทำแล้วได้ไม่ใช่มัน
ใครมีงานวานได้ไม่เคยเกี่ยง
ไม่ใช้เสียงออกแรงอย่างแข็งขัน
ร่วมมือร่วมแรงร่วมฝ่าฟัน
มันบ่ยั่นงานหนักสู้ไม่ถอย
ทั้งขุดดินถางป่าท้าแดดฝน
ถึงยากจนมีกายให้ใช้สอย
หยาดเหงื่อที่รินหยดไม่เคยคอย
ใจเกินร้อยสู้ทนจนเสร็จงาน
งานรับจ้างทั่วไปทำได้หมด
บางครั้งอิ่มบ้างอดยังชื่นบาน
เขายิ้มได้ด้วยใจอย่างอาจหาญ
สุขสำราญไปวันๆแค่พอกิน
เพื่อนฉันคือคนจนผู้ยิ่งใหญ่
ถึงยากจนแต่ใจแกร่งดังหิน
ไม่ดูถูกเหยียดหยามคนเดินดิน
เหงื่อที่รินทุกหยดทดแทนงาน