8 พฤศจิกายน 2555 07:38 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
สายน้ำตกสาดแซะกระเซ็นซ่า
สายธาราหลั่งไหลไม่ขาดสาย
สายน้ำเย็นไหลร่องพาเม็ดทราย
ดูเรียงรายโขดหินดินชุ่มเย็น
สองริมฝั่งต้นไม้เขียวชะอุ่ม
แตกเป็นพุ่มร่มเงาคลายทุกข์เข็ญ
คนพักผ่อนนอนชมน้ำกระเซ็น
นั่งนอนเห็นน้ำไหลได้ผ่อนคลาย
บ้างลงเล่นดำผุดมุดหยอกล้อ
หนุ่มสาวคลอเคลียเคล้าไม่ห่างกาย
น่าอิจฉาคู่รักทั้งหญิงชาย
ฝากทุกข์หายกับสายที่ไหลริน
ใต้ร่มไม้ริมฝั่งนั่งกินข้าว
ทั้งกับแกล้มเบียร์เหล้าบนลานหิน
ได้นอนหลับพักผ่อนหลังจากกิน
ยามนกบินกลับถิ่นก็จากจร
16 ตุลาคม 2555 10:58 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ใบไม้แห้งบิดปริวร่วงหล่นพื้น
ผ่านวันคืนฤดูกาลพันเปลี่ยนผัน
ผ่านร้อนฝนทนหนาวเฝ้านับวัน
หน้าเหมันต์ลาไปให้หนาวเย็น
ไม้ผลัดใบแห้งเฉาเข้าฤดู
น้ำค้างพลูพรมหญ้าหยดกระเซ็น
สายหมอกไหลพัดผ่านมองไม่เห็น
ภูเขาเป็นกำแพงแห่งป่าใหญ่
น้ำลำธารไหลร่องตามแนวป่า
เสียงซู่ซ่าน้ำตกวกรินไหล
ธารคตเคี้ยวเลี้ยวลัดตัดพงไพร
ไหลร่องไปตามสายที่ไหลริน
สัตย์น้อยใหญ่อาศัยได้กินน้ำ
ดูชุ่มฉ่ำน้ำไหลใกล้โขดหิน
ฝูงผีเสื้อเกาะกลุ่มปกคุมดิน
บ้างโผบินร่อนถลาทั่วป่างาม
12 ตุลาคม 2555 16:27 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ในเส้นทางกับชีวิตคนหนุ่มสาว
หลากเรื่องราวมีมากมายหลายปัญหา
ที่รุมเร้าเรื่องชู้สาวและเงินตรา
บ้างติดยาเล่นพนันกันไม่วาย
กับปัญหาชีวิตคู่อาจดูดี
ดูสุขขีที่ต่อหน้าการแต่งกาย
มีความทุกข์ในจิตใจไม่อาจขาย
ให้อับอายเขาเก็บไว้ไม่ให้รู้
ทั้งหนี้สินมีมากมายเข้าทับถม
บ้างรักขมรักจืดจางทั้งอดสู
บ้างทนได้บ้างเลิกไปคนคอยดู
บ้างทนอยู่เพื่อลูกน้อยค่อยเข้าใจ
แต่บางคู่ต่างเจ้าชู้ให้ขบคิด
แนบสนิทรักเกินกว่าจะหาไหน
เมื่อเลิกงานไม่กลับบ้านห่วงหาใคร
ลื่นไหลไปหาสุขได้ไปวันวัน
บ้างติดยาเสพยาบ้าและกินเหล้า
ชอบหามเสาและมัวเมาโทษมหันต์
ติดเหล้ายาไปจนแก่โทษใครกัน
มัวเมามันหาความสุขทุกวันคืน
3 ตุลาคม 2555 13:09 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
เรียวรวงทองงดงามยามแดดฉาย
ส่องประกายแกว่งไกวสายลมหนาว
ฝนสุดท้ายจากไปนอนนับดาว
น้ำค้างพราวพรมพร่างที่กลางนา
ราตรีกาลค่ำคืนหริ่งเรไร
โรยควันไฟลอยร่องลมพัดพา
ลมหนาวเยือนไอเย็นระลิ่วหา
แสงทาบทาเดือนฉายประกายงาม
ช่างเงียบเหงาค่ำคืนคนหลับไหล
อบอุ่นไอใต้ผ้าคราตีสาม
ลมพัดแรงสบัดไหวใบหลุดตาม
หอบปริวข้ามขอบฟ้าท้าลมแรง
คนเดินทางรอนแรมผู้ห่างไกล
จิตหวั่นไหวใต้เดือนที่ทอแสง
ก้าวเท้าย่ำตามทางฝุ่นสีแดง
ทางเปลี่ยนแปลงวกวนดั่นด้นไป
เดินเข้าป่าข้ามเขายาวสุดตา
มีดินน้ำลมฟ้าพาหวั่นไหว
หาจุดหมายปลายทางอีกยาวไกล
กลางพงไพรไร้คนเดินสัญจร
15 กันยายน 2555 07:20 น.
ป๋อง สหายปุถุชน
ในยามเช้าฉ่ำฝนปนหมอกหนาว
ฝนหล่นพราวโปรยลงตรงกลางนา
หมอกไอเย็นเคลื่อนคล้อยลอยลับตา
น้ำฝนพาชุ่มฉ่ำลงลำคลอง
พายุฝนโปรยลงไม่ขาดสาย
หล่นโปรยปรายท้องทุ่งน้ำเจิ่งนอง
ใบข้าวเขียวสบัดไหวให้ชวนมอง
น้ำไหลร่องแดดฉายที่ปลายนา
มองออกไปสุดไกลใจครุ่นคิด
ถึงชีวิตทุกยากครั้งก่อนมา
ได้อาศัยเก็บผักหาปูปลา
เลี้ยงกายาเติบใหญ่ยามไม่มี
เคยย่ำไถในนาท้าแดดฝน
พ่อสู้ทนเหนื่อยยากไม่หลีกหนี
ส่งลูกเรียนอบรมเป็นคนดี
พ่อยอมพลีไม่บ่นทนทำงาน
นึกถึงภาพแม่ยืนเหม่อกลางท้องนา
คงอ่อนล้าแรงกายใจยังหาญ
ผ่านคืนวันสู้ทนมาช้านาน
ภาพวันวานไม่เลือนหายไปจากใจ