28 มีนาคม 2551 04:17 น.
ป๊ากเก้อร์
(ความเดิมจาตอนที่4)
บางครั้งคนเรา ก็มีความในใจที่ไม่อาจบอกได้ ทุกคน เชื่อว่าทุกคนมี บางครั้งก็รู้สึกได้ว่าคนที่เราคบกับเค้าอยู่ เรารู้สึก ผูกพันกับเค้ามานานมากก่อนที่เราจะเจอกันเสียอีก แต่ บางคน ทั้งๆที่ในชาตินี้เราพึ่งมาเจอกันเป็นครั้งแรก แต่กลับรู้สึกผูกพันธ์กับคนคนนี้มากๆ ยิ่งกว่าคนที่คบกันมานาน 40-50ปีอีก และนี่ก็เป็นความรู้สึกที่ทั้งภูและฟ้าได้รู้สึกเหมือนกันทั้งคู่ เมื่อภูกลับจากส่งฟ้าเสร็จที่บ้านฟ้าแล้วนั้น ภูก็รู้สึกเหนื่อยล้ากายด้วยความเพลียจากการทำงานและขับรถ แต่ในหัวใจนั้นก็เต็มไปด้วยความสุข เมื่อภูทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เข้านอน
หลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่รู้สึกตัวอีกที เมื่อตื่นขึ้นมา ห้องที่นอนอยู่จากผนังข้างห้องที่เป็น ปูนสีขาว มีรูปโปสเต้อร์ติเต็มผนังกลับกลายเป็นผนังไม้ และไร้ซึ่งรูปโปสเตอร์ ภูลุกขึ้นพร้อมกับหันไปโดยรอบ เห็นโต๊ะหมู่บูชา มีทั้งหัวกะโหลก ลูกกอก กุมารเต็มไปหมด ส่วนเสื้อผ้าที่ภูใส่นั้นเปลือยเปล่าท่อนบน นุ่งผ้าขาว และที่คอภูก็มีสร้อยประคำ ซึ่งนั่นก็คือการต่างตัวของหมอผีนั่นเอง แน่นอนนี่คือฝัน ฝันที่เหมือนโลกแห่งความจริง แต่ทว่าในฝันของภูนี้ เหมือนกับว่าภูได้มองตัวเองอยู่ในฝัน ซักพักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง ตัวภูในฝันก็ถามผู้หญิงคนนั้นว่า
เจ้าชื่ออะไร
ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบไปว่า
ชื่อ สร้อยจ้า
แต่ผู้หญิงคนนั้นช่างเหมือนยี่ ผู้หญิงที่เคยทำให้ภูต้องเจ็บปวด
ผัวหนูมันไม่กลับบ้านมา3-4วัน หนูคิดว่ามันต้องแอบไปหาผู้หญิงอื่น อาจารย์ ช่วยเรียกมันกลับมาได้มั้ยคะ หนูอยากให้อาจารย์ เผือกช่วยทำเสน่ห์ให้หนูหน่อยคะ
ได้ !
ภูในฝันตอบรับอย่างทันควัน
แต่เจ้าต้องไปอาบน้ำชำระล้างกายให้สะอาดเสียก่อน ข้าจะเตรียมพิธีบนนี้ โอ่งน้ำสำหรับอาบเพื่อทำพิธี อยู่ในห้องนั้น เจ้าไปอาบซะ เสร็จแล้วก็ออกมา
หลังจากที่ สร้อย เข้าไปอาบน้ำล้างตัวไม่นาน ก็ออกมา ซึ่งภู ก็ได้ตระเตรียมพิธีการเสร็จเรียบร้อยไว้แล้ว
ถอดเสื้อซะ
เอ่อ ! ต้องถอดด้วยเหรอคะอาจารย์ สร้อยพูด
ช่าย ไม่งั้นน้ำมันเสน่ห์จะไม่ซึมเข้าตัว
แล้วสร้อยก็ค่อยๆเปลื้องผ้าทีละชิ้นๆจนเปลือยเปล่า แต่ไม่ทันไร ภาพในฝันของภูก็ตัดกลับไปอีกที่หนึ่ง ในฝันภูเห้นตัวเองยืนโต้เถียงกับผู้หญิงอีกคนนึงอยู่
ไอเผือก มึง มึง เมื่อไหร่มึงจะเลิกเป็นหมอผีซักที มึงเห็นกูเป็นอะไร กูเป็นเมียมึงนะ มึงทำเสน่ห์ให้ใครต่อใคร มึงไม่คิดถึงใจกูบ้างเหรอฮะ!!!! ชิ !!!! ทำเสน่ห์ ต้องแกล้งผ้าโทงๆอย่างนั้น
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ตบหน้าเผือก ผู้หญิงที่ภูเห้นในฝันนั้น ช่างเหมือนกับฟ้านัก แต่ทว่าต่างกันตรงชื่อเท่านั้น
โธ่ ภา.... คือพี่.....
ภา คือชื่อของผู้หญิงในฝันที่กำลังยืนตะคอกใส่ภูอยู่
ยังจะมาเถียงอีกเหรอ ภาทั้งตบทั้งตีเผือกด้วยความโมโห
โธ่ ภา ถ้าพี่ไม่ทำ แล้วพี่จะเอาอะไรเลี้ยงเรา 2คนหละ
เผือกกับภาเถียงกันไม่หยุด ทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่เผือกแทบจะไม่ได้ตอบโต้อะไรเลยได้แต่หลบ และยอมปล่อยให้ภา ตีเป็นยกใหญ่
กรี๊ง ๆ ๆ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
โอย.... ต้องตื่นแล้วเหรอเนี่ยะ เมื่อกี้เราฝันอะไรว้า.... แปลกยังงัยไม่รู้ ฝันเห็น ยี่ กับฟ้า...แปลกจัง
ภูนั่งคิดซักพัก แล้วก็ลุกขึ้น ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จแล้วก็รีบไปทำงาน.
เฮ่ !!!! เจ้าจิ้งจก
อ้าว!!!! คอง ฮิฮิ
เมื่อคืน ภูฝันถึงฟ้า
จริงอะ!? ฟ้าก็ฝันถึงภู ฟ้าพูดด้วยตกใจเล็กน้อย
อ้าวฝันถึงเหมือนกันทั้งคู่เลย
ภูฝันว่าภูเป็นหมอผี แล้วไปทำเสน่ห์ให้ผู้หญิงคนหนึ่งแล้วไปมีอะไรกับเค้า เพราะการทำเสน่ห์อะ แล้วภาพมันก็ตัดมาถึงฟ้า ฝันว่าฟ้าเป็น.... เมียภูมั้ง
ภูพูดอย่างเขินอาย
ไอบ้า แล้วงัยต่อ ฟ้าก็ว่าภูอย่างอายๆเช่นกัน
แล้วฟ้าก็จับได้ว่า ภูไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นที่มาให้ภูทำเสน่ห์ให้ ทีนี้ฟ้ากับภูก็ทะเลาะกันใหญ่ ฟ้าก็มาตีๆภูลูกเดียวเลย ภูแทบไม่ได้ตอบโต้ฟ้าเลยอะ แล้วฟ้าอะเรียกตัวเองว่า ภา แล้วภูเรียกตัวเองว่า เผือกอะ
เหรอ เราฝันคล้ายๆกันเลย แต่ฟ้าฝันว่า ฟ้าแอบไปคบกับผู้ชายอื่นอะ
อืม...ๆๆ..ๆ ภูฟังอย่างตั้งใจเหมือกับว่ากำลังเอาฝะนของตัวเองกับฝันของฟ้ามาเชื่อมโยงกัน
ภูว่าเรา 2คนฝันแปลกๆนะ
หรือว่าชาติที่แล้วเราทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันจริงๆ ฟ้าพูดจบภูก็นิ่งเงียบและครุ่นคิดความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ ส่วภูก็ครุ่นคิดไม่ต่างกัน
ถ้าเรา เป็นเนื้อคู่กันจริงๆ เอ่อ.... ฟ้ายังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
ถ้าฟ้าเป็นเนื้อคู่ภูจริงๆ ชาตินี้ก็เหมือนกับว่าภูต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้ เมื่อชาติที่แล้ว
ฟ้าเริ่มรู้สึกสับสนที่ว่าตัวเองก็ยังคงคบกับแฟนอยู่ แต่ทว่าก็ห่างกันกับแฟน แต่ยิ่งรู้สึกใกล้ชิดกับภูมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกดี และอบอุ่นมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าเป็นจริงฟ้าก็คงต้องใช้กรรมที่ชาติที่แล้วได้ทำไว้กับภูเหมือนกัน.....เอ่อ ภู....
หากเธฮได้สัญญาด้วยแล้ว ก็ขอให้เราได้อยู่ด้วยกัน ....แต่ตราบใดที่เธอได้ผิดสัยญาด้วยแล้วเราคงไม่อาจคบกันในชาติหน้า ....และเมื่อใดที่ฉันรู้ว่าคือเธอ ฉันขอให้เราได้มีโอกาส กลับมาคบกันอีกครั้ง แต่หากผิดสัญญาอีกครั้ง แต่หากผิดสัญญาอีกครั้ง ฉันกับเธอคงพรากจากกันทุกชาติไป
เมื่อฟ้าได้ยินประโยคที่ภูได้พูดออกไปนั้นก็ถึงกับอึ้งอย่างมาก น้ำตาเริ่มปลิ่ม และเอ่อล้นออกมาจากดวงตา
ภู ฟ้าเหมือนเคยได้ยินประโยคนี้ มันคุ้นมากๆเลยอะ เหมือนกับว่าเหตุการณ์เมื่อกี้ได้ผ่านมาแล้ว
ฟ้า ร้องไห้ทำไม?
เปล่า เปล่าซะหน่อยไม่รู้อะไรเข้าตา แต่ประโยคที่ภูพูเมื่อกี้มันทำให้ฟ้ารู้สึกเหมือนกับว่า....มันผ่านมาแล้ว ...เอ่อ .....เหมือนเราเคยคบกันมานานมากแล้วอะ
ภูก็ไม่รู้เหมือนกัน มันคิดว่าจะต้องพูด จะต้องพูดประโยคนี้ออกมาให้ฟ้ารู้อะ
ฟ้ายิ้มให้ภูเล็กน้อย
ฟ้า ถ้าภูอยากไปส่งฟ้ากลับบ้านทุกวัน ฟ้าจะ....
อื้ม .... ถ้าฟ้ากลับบ้านคนเดียวคงเหงาแน่เลย
รอยยิ้มของฟ้าที่ยิ้มให้ภูนั้นช่างดูอบอุ่นจนบอกไม่ถูก และหลังจากวันั้น ภูกับฟ้าก็กลับบ้านด้วยกันทุกวัน แถสยังหยุดวันเดียวกันอีก จึงได้ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกอาทิตย์ และบวกกับฟ้านั้นห่างเหินจากแฟน คือไม่ได้เจอกันเลย เพียงแค่คุยโทรศัพท์กันไม่กี่เดือนครั้ง ยิ่งทำให้ทั้งคู่เริ่มรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น เวลาที่ฟ้า เครียดเรื่องงานก็จะมาคุยกับภู หรือเวลาภูมีอะไรก็จะมาเล่าให้ฟ้าฟัง แต่แม้จะไม่ใช่แฟนกัน แต่ก็คบกันยิ่งกว่าเพื่อนสนิท นี่เป็นช่วงเวลาที่ทั้ง 2มีความสุขมาก และผูกพันธ์ยิ่งกว่าหาคำอธิบายได้
ภู พรุ่งนี้เราไปดูดวงกันมั้ย
อืม ดีเหมือนกัน
ฟ้ารู้จักรที่ที่นึง เพื่อนฟ้าเคยไปดู เราไปดูกัน
จ้า... เจ้าจิ้งจกน้อย ฮิฮิ
ไอคองบ้าหนิ
แล้วทั้งคู่ก็พากันไปดูดวง .....เมื่อถึงสำนักหมอดู ภูก็หาที่จอดรถ แต่ก็ต้องเสียเวลาไปหลายนาทีในการหาที่จอด เพราะมีคนมาดูดวงกันเยอะพอสมควร
โห.......คนเยอะมากเลยอะภู แต่ไหนๆก็มาแล้วเน้อะ
ทั้งคู่จึงเข้าไปข้างในเพื่อรอคิว หมอดูคนนี้เป็นหมอดูสะกดจิตที่มีชื่อเสียง มีคนมาขอดูดวงปรับทุกข์ และปรึกษาเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ เรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องรัก ต่างๆ ส่วนหมอดดูนั้นเป็นแม่เฒ่าอายุประมาณ 70ปีเศษ แต่รูปร่างหน้าตาของแม่หมอนั้น ยังคงผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง เหมือนคนที่พึ่งจะ 40เศษๆ และแล้วก็ถึงคิวของฟ้าและภู ทั้งคู่ เดินเข้าไปในห้องของแม่หมอ
อ้าวมา เข้ามา แม่เฒ่ามองหน้าภูและฟ้า พร้อมกับอึ้งไปเล็กน้อย
หลานทั้ง 2หน้าตาช่างเหมือนกันนัก
ทั้งภูทั้งฟ้าได้แต่อมยิ้ม
หลานทั้ง 2ดูก็รู้ว่าเป็นเนื้อคู่กัน แต่หลานทั้ง 2ยังคงคบกันอยู่ด้วยกันยังไม่ได้ อีกไม่นาน หลานทั้ง2ต้องพรากจากกันอีก แต่อีกไม่นาน ก็จะกลับมาเจอกัน หลานทั้ง 2เป็นเนื้อคู่กันซักวันต้องอยู่ด้วยกัน เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา หลานทั้ง 2ยังคงต้องชดใช้กรรมเก่าที่ได้ทำแก่กันไว้ ขอให้มันเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า เจ้าทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
เอ่อ..... ไม่ทันที่ภูจะพูดอะไร แม่เท่าก็พูดต่อไปอีก....
หลานทั้ง 2ฝันถึงอดีตร่วมกันใช่มั้ย ..ถ้าหลานทั้ง 2อยากจะรู้อดีตอีกว่ามันเป็นยังงัยกันแน่ ยายจะช่วย.. เอาหละหลานทั้ง 2นอนลงกับเสื่อนี่ หลับตา และจับมือกัน ตั้งสมาธิ ฟังที่ยายพูดนะ หลับตาจับมือให้แน่น ห้ามปล่อยมือ หลับตา หลับตา หลับตา......
สิ้นเสียงแม่เฒ่าทั้ง 2ก็หลับใหลไปโดยไม่รู้สึกตัวเลย.....
ภา พี่เป็นหมอผี ภา ยังจะคบกับพี่อีกเหรอ
ภาไม่เคยรังเกรียจพี่เลยนะจ๊ะ พี่เผือก
จริงนะ ..งั้น เราสัญญากันนะ..
จะ
หากเธอได้สัญญากับฉันไว้แล้ว ก็ขอให้เราได้อยู่ด้วยกัน ....แต่ตราบใดที่เธอได้ผิดสัญญาด้วยแล้ว เราคงไม่อาจคบกันในชาติหน้า ....และเมื่อใดที่ฉันรู้ว่าคือเธอ ฉันขอให้เราได้มีโอกาสกลับมาคบกันอีกครั้ง แต่หากผิดสัญญาอีกครั้ง ฉันกับเธอคงพรากจากกันทุกชาติไป
จะ ภาสัญญา ภาจะรักพี่เพียงคนเดียว จะมีพี่เพียงคนเดียวจะ และเราจะอยู่ด้วยกันทุกชาติไป ภาสัญญาจะ
ภา....
พี่เผือก.
ทั้งภาและเผือกกอดกันแน่น แล้วภาพก็ตัดกลับมา เป็นภาพที่ภูเคยฝันในตอนนั้น นั่นก็คือ เป็นตอนที่ภูกำลังทำเสน่ห์ให้ผู้หญิงคนนั้น ที่ชื่อสร้อย ที่ภูเคยบอกว่าเป็นยี่กิ๊กเก่าของภู และก็มีผู้หญิงอีกมากมายหลายคนที่ภูได้ทำเสน่ห์ให้เป็น สิบสิบคนจนภาพนั้นตัดกลับไปตอนที่ ภากับเผือกทะเลาะกันอย่างรุนแรง และนี่ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ภาแอบไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น และแอบมอบใจและกายให้กับเค้า จนภาพตัดกลับมาที่เผือกมาเห็นด้วยตาตัวเองว่า ภากำลังยู่กับผู้ชายที่แอบชอบอยู่ นั่นทำให้เผือกบัลดานโทสะอย่างหนักเอามีดหมอไล่ฟันชู้รักของภา และภาซ้อมด้วยความโมโหและช้ำใจ เผือกร้องไห้อย่างคนไร้สติ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับภา ที่ร้องไห้แทบขาดใจ ทั้ง 2ต่อสู้กันอย่างขาดสติทั้งคู่ จนในที่สุดเผิอกก็ออกแรงสุดกำลังผลักภากระเด็นและใช้มีดหมอที่ได้แทงชู้รักของภาไปเมื่อกี้ มาแทงภาอีกคนจนภาขาดใจตาย ในภาพนั้นภาได้ตายไปด้วยแววตาที่เศร้าสร้อยและเสียใจ ที่เหมือนกับว่าผิดต่อภู แต่ก็แค้นภูที่ภูไปมีอะไรกับคนอื่นเหมือนกัน แม้ภาจะตายก็ยังคงจ้องภูอย่างเขมง ส่วนภูพอแทงภาไปแล้ว กลับได้สติกลับคืน ก็ร้องไห้ ทั้งแค้นใจและเสียใจ และรู้สึกสิ้นแล้วทุกอย่าง เพราะเค้าได้ฆ่าคนที่เค้ารักมากที่สุดในชีวิตไป พอชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นได้ยินเสียงเสียงของทั้งคู่ทะเลาะกันก็วิ่งมา เมื่อภูได้ยินเสียงชาวบ้าน จึงรีบอุ้มร่างที่ไร้วิณญาณของภา พร้อมกับวิ่งออกไปกลางสายฝนที่ตกหนัก เมื่อชาวบ้านเห้นเข้าจึงวิ่งไล่ตามเผือกไป
พี่รักภา พี่รักภามากนะ
เผือกตะโกนลั่นจนฟังไม่ได้ศัพท์ พวกชาวบ้านที่เห็นก็สลดไม่แพ้กัน แต่ก็พยายามอดกลั้นที่จะไล่จับเผือก อย่างน้อยก็ขอแค่จับเผือกได้และพาเผือกไปมอบตัวกับตำรวจ เพราะชาวบ้านก็รู้กันอยู่ว่า เผือกและภาเป็นผัวเมียกัน แต่ก็สงสัยว่าภาแอบไปคบชู้ และก็สงสัยเผือกที่ทำเสน่ห์ให้กับพวกผู้หญิงสาวๆในหมู่บ้าน จนเมื่อมาเห็นการกระทำของภูและภา ก็พอจะเข้าใจ ว่าทั้งคู่ต่างเลือกทางเดินที่ผิด เผือกอุ้มร่างที่ไร้วิญญาณของภา หนีมาอย่างสะบักสะบอม
พี่มีแต่วิชาหมอเท่านั้น ฮือฮือ
เผือกพูดกับร่างไร้วิญญาณจนหนีมาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ในป่า
ฮือฮือ พี่ขอโทษ แต่พี่ก็ทำได้เท่านี้ พี่เป็นได้แค่หมอผี ไหนภาบอกว่ารับที่พี่เป็นหมอผีได้งัย ฮือฮือ ทำไมต้องมีคนอื่นด้วย ฮือฮือ.....แต่พี่ก็ผิด ใช่ พี่ก็ผิดที่ไปมีอะไรกับคนอื่นก่อน ใช่ มันเหมือนหลอกคนอื่น ใช่ ภาจะพูดกับพี่อย่างนี้ใช่มั้ย
ไม่ทันไรชาวบ้านก็ตามมาเจอ เมื่อภูเห็นชาวบ้านตามมาก็อุ้มร่างของภาหนีไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ หนีมาถึงน้ำตกที่สูงชันเท่ากับตึก 30ชั้น สุดทางที่ภูจะหนีภูพยายามที่จะหาทางหลบพวกชาวบ้าน แต่ไม่นาน พวกชาวบ้านก็ตามมาทัน
ไอเผือก! มึงวางศพอีภามันลงเถอะ พวกข้ารู้ว่าเอ็งเจ็บปวดแค่ไหน ชาวบ้านเค้าก็รู้ แต่เอ็งฆ่าคน มันบาปนะ อย่างน้อยก็มอบตัวเถอะ โทษหนักเผื่อจะเบาลง พวกข้าไม่ทำอะไรเองหรอกไอเผือก
เป็นเสียงผู้ใหญ่บ้านที่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมเผือก
พวกมึงไม่ต้องมาพูดมาก นี่ศพเมียกู อีภามันเป็นเมียกู กูกับภาสัญญาไว้แล้วว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป พวกมึงไม่ต้องมายุ่ง!!!! ฮือฮือ
เผือกพูดด้วยอาการที่ฟูมฟายและขาดสติ เผือกในตอนนี้เหมือนกับคนบ้าที่ไม่อาจควบคุมสติได้อีกต่อไปแล้ว
ภา ไม่ว่าภาจะไปเกิดเป็นอะไร หรือชาติไหน ฉันจะตามไป จะตามไปหาเธอ ตามไปให้เจอเธอ ภารอพี่ รอพี่ก่อนนะ พี่กำลังจะตามไปอยู่กับภาแล้ว รอพี่ก่อน รอพี่ก่อน....
ถึงตอนนี้เผือกกอดร่างไร้วิญญาณของภาไว้ พร้อมกับวิ่งกระโดดลงไปพร้อมกับร่างไร้วิญญาณของภา
ภา....พี่ตามภา ไปแล้ว..........
เผือกเอามือปิดตาภาที่ยังคงตายตาไม่หลับ แต่คราวนี้เมื่อเผือกเอามือปิดตาภา ก็หลับทันที.....
ตุบ!!!!.........
ร่างของเผือกตกลงมาจากน้ำตกที่สูงชันแต่กลับไม่ลงไปในน้ำ กลับกลายเป็นว่าร่างของทั้งคู่ดันลงตกลงไปตรงโขดหินใกล้กับน้ำตก แต่ทว่าเผือกกัลบไม่ตายซะทีเดียว แต่กลับยิ้มทั้งน้ำตา และก็ค่อยๆหมดลมหายใจไปพร้อมกับน้ำตา......
.....ภูและฟ้ารู้สึกตัวอีกที น้ำตาของทั้งคู่ก็ไหลพราก ทั้ง 2คนจับมือกันและบีบมือไว้แน่น
เอาหละ หลานทั้ง 2ค่อยๆลืมตา..
แล้วทั้ง 2ก็ค่อยๆลืมตาขึ้น ไม่มีอะไรต้องอธิบายอีก ตอนนี้ความรู้สึกของทั้ง 2คนต่างไม่สามารถอธิบาย และพูดออกมาเป็นคำพูดได้ ได้แต่ร้องไห้จนน้ำตานองหน้าและจับมือกันไว้แน่น
ยายครับ ภาพทั้งหมดเมื่อกี้คือ อดีตชาติของผมกับฟ้าใช่มั้ยครับ
ใช่แล้วหลานเอ๊ย..
ทั้ง 2นั่งเงียบและต่างมามองหน้ากัน ทั้งภูและฟ้าหันหน้าเข้าหากัน และเอาหน้าผากมาชนกัน ภูจับไปที่หัวฟ้าอย่างเบา แล้วก็สวมกอดฟ้า และฟ้าก็กอดภูไว้แน่นเช่นกัน
แสดงว่าวันนั้นที่เรา 2คนฝัน เป็นอดีตชาติของเราจริงๆ ภูพูดขึ้น
หลานเอ๊ย ....มันเป็นพรหมลิขิต พรหมลิขิตได้กำหนดไว้แล้ว หลานทั้ง 2ในชาตินี้ต้องชดใช้กรรมที่เคยได้ทำร่วมกัน และที่ทำต่อกันและกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชาตินี้ หลานทั้ง 2ต้องอดทน ความอดทนจะทำให้หลานทั้ง /ผ่านอุปสรรคไปได้ หลานเอ๊ย ฟังยายนะ.....
การที่จะรู้สึกดีกับใครซักคน ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะรักใครซักคน ก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เพราะความรักก็คือ ความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน แม้ว่าเราจะให้เค้าคนเดียว หรือทั้งเค้าทั้งเราจะให้กันและกัน อะไรที่เราทำไปแล้ว แล้วเรารู้สึกดีกลับมา นั่นแหละถึงจะเรียกว่าความรัก คำว่า รัก เป็นคำคำหนึ่งที่ใช้เรียกความรู้สึกดีดีที่มีให้กัน อย่ายึดติดกับคำวรัก แต่ให้รู้ถึงความรู้สึกของกันและกัน จำไว้นะหลานทั้ง 2เอ๊ย....
ครับยาย / ค่ะยาย
สำหรับหลานชาย ยังมีศัตรูมากล้ำกลายอยู่ใช่มั้ย
ภูนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เอ่อ.. แล้วผมควรทำอย่างไรครับ
หลานไม่ต้องกลัว ไม่มีใครทำอะไรพ่อหลานชายได้ อีกอย่างเค้าไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้เลย ไม่นานเค้าก็จะจากไปเอง
สำหรับแม่หลานสาว เจ้าอาจจะคิดว่า ผู้ชายคนนั้นใช่อย่างที่เจ้าคิด แต่หลานอย่าลืมว่าหลานเจอเนื้อคู่แล้ว อย่าลืมว่า แม้ชาตินี้ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ชาติหน้า หลานทั้ง 2ต้องได้อยู่ด้วยกันแน่นอน เหอะๆ ๆ
ทั้งคู่ฟังแม่เฒ่าพูดสั่งสอนอย่างตั้งใจ
ผู้หญิงที่ทำให้พ่อหลานชายต้องเจ็บปวดและทนทุกข์ทรมานนั้นคือ เนื้อคู่ของเจ้าเหมือนกัน แต่ก็เป็นคู่กรรมเท่านั้น ไม่อาจอยู่ร่วมกรรมเพราะผู้หญิงคนนั้นก็มีคู่กรรมเยอะ ผู้หญิงคนนั้นยังคงต้องใช้กรรมอยู่ ยาย รู้ว่าพ่อหลานก็เคยฝันถึงอดีตชาติกับผู้หญิงคนนั้น พ่อหลานเคยทำกับเค้าไว้ในชาติที่แล้ว ชาตินี้พ่อหลานจึงต้องใช้กรรมบ้าง และในเมื่อได้ใช้กรรมไปแล้วพ่อหลานชาติก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก เพราะกรรมที่เจ้าได้รับที่ทำไว้กับผู้หญิงคนนั้นมันหมดไปแล้ว แต่ผู้หญิงคนนั้นยังคงต้องชดใช้กรรมกับคนอื่นต่อไปอีก เอาหละเจ้า หลานทั้ง 2ต้องอดทนนะ เพื่อกันและกัน อย่างที่ยายได้บอกว่านะหลาน หลานทั้ง 2ต้องได้อยู่ด้วยกันไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า เหอะๆ ๆ.....
14 มีนาคม 2551 02:48 น.
ป๊ากเก้อร์
ขณะนั้นเองพี่หนูก็เดินเข้ามาพูดกับภู
เหม่ออะไรจ๊ะภู แก้วเบียร์อยู่อีกตู้นะ แหมมายืมอยู่บ่อยๆยังจะแกล้งลืมอีก
ภูสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพี่หนูพูดจบ
อ้อ ภู เหม่อนิดหน่อยหนะพี่หนู แหะแหะ
ภูพูดจบพร้อมกับเขยิบไปเปิดอีกตู้นึ่งตามที่พี่หนูบอก จังหวะนั้นเองขณะที่ภูก้มไปหยิบแก้วเบียร์ และ Trianee คนนั้นก็หันกลับมาพอดี
อุ๊ย! ขอโทษค่ะ!
เธอหันกลับมา แต่ทว่าตัวของเธอดันเดินไปชนกับบานประตูตู้เย็นที่ภูเปิดไว้เข้า ทำให้บานประตูตู้เย็นนั้นดันปิดมาโดนตัวภูในขณะที่ภูกำลังหยิบแก้วเบียร์อยู่ ภูตัวแทบล้ม แต่ก็ยังเอามือดันพื้นไว้ พร้อมกับหันหน้ามามองเธอ
เอ่อ ไม่เป็นไรครับ
ภูพูดพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมองเธอ วินาทีนั้นเองที่ภูได้สบตากับเธอภูรู้สึกอบอุ้นอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกกับว่าคุ้นเคยกับเธอคนนี้มานานมากๆ
ฟ้าเดี๋ยวพี่มานะ เดี๋ยวพี่ไปเบิกของก่อน ภูอยู่เป็นเพื่อนน้องได้เปล่า รีบกลับ Outlet เปล่า ถ้าไม่รีบพี่วานหน่อยนะจ๊ะ
ภูยังคงนิ่งมองหน้าฟ้าซักพัก แต่ไม่ทันไรก็ได้สติกลับคืนมาจากภวังค์
เอ่อ..... ได้ได้พี่หนู
แล้วพี่หนูก็เดินออกไป แต่ก็เดินกลับมาอีกครั้ง
อ้อ ! พี่ลืมเอกสาร....เอ....ทำไมหน้าตาเรา 2คนนี่ เหมือนกันจริงๆนะ ฮะฮะฮะ เดี๋ยวพี่รีบไปเบิกของก่อนนะ ....พี่ว่าเรา 2คนเป็นเนื้อคู่กันแน่เลย หน้าเหมือนกัน ฮิฮิ
และพี่หนูก็เดินออกไปอีกครั้ง ภูกับเธอคนนั้นมองหน้ากันและทำหน้างงๆเล็กน้อย
เอ่อ.... พี่หนูหมายความว่างัยเนี่ยะ? เหอะๆ
ภูหัวเราะแก้เขิน ส่วนฟ้าก็ทำหน้างงๆ มองหน้าภูพร้อมกับยิ้มให้ภูเล็กน้อย
เอ่อ.... ชื่อฟ้าเหรอ
อืม...ใช่ รู้ได้งัยว่าชื่อฟ้า
ก็เมื่อกี้พี่หนูเรียกว่าฟ้านี่นา ภูพูดอย่างเขินๆเล็กน้อย
แล้ว...ชื่อภูเหรอ
อืม ...อ้าว!? แล้วรู้ได้งัยอะว่าชื่อ ภู พี่หนูบอกเหรอ
ก็เมื่อกี้พี่หนูก็เรียกว่าภูไม่ใช่เหรอ ชื่อ จริงภูกระดึง แน่แน่เลย ฮิฮิ
เอ่อ... ภูอึ้งเล็กน้อย ฮ่าฮ่าฮ่า
ไม่ใช่ซะหน่อย ชื่อจริงภู ชื่อภูวเนศ แล้วฟ้าหละ ชื่อ ลาฟา เหรอ ชื่ออย่างกะแขกเลย ฮิฮิ
ไม่ใช่.. อ่านว่าระฟ้า ฟ้าชื่อจริงชื่อ ระฟ้า
อ้อ แล้ว..มาฝึกกี่วันแล้ว
อาทิตย์นึงได้แล้วหละ
เหรอ ภูไม่ยักเห็นเลย.... เอ.... แต่จะว่าไป วันนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบ 1อาทิตย์ที่เราเดินมาที่ Longtown นี่นา ฮะฮะฮะ ภูหัวเราะแก้เขิน
ภูทำที่นี่มานานยัง
อืม.... ก็ประมาณ 6เดือนได้ ไม่นานหรอก เพราะยังไม่ถึงปีนึงเลย .อ้อ แล้ว ฟ้าฝึกกี่เดือนเหรอ
3 เดือน
อ้อ แล้วบ้านฟ้าอยู่แถวนี้เหรอ?
ก็แถวนี้แหละ แล้วบ้านภูหละ
บ้านภูอยู่หนองแหลม อยู่เลยบางแตไปอีก
โห! ไกลนะเนี่ยะ ฟ้าทำเสียงตกใจเล็กน้อย
แล้วภูเข้างานกี่โมงเหรอ?
ตอนนี้ภูเข้า 8โมงเช้า
แล้วเลิก 5โมงใช่เปล่า ฟ้าพูดแทรกขึ้น
ใช่ แต่ก็เลิกเลททุกวันแหละ เลิกเกือบ 6โมงทุกวัน... เออ แล้วฟ้าเข้ากี่โมงหละ
เข้าเวลาเดียวกับภูแหละ
อ้อ! งั้ก็เลิกพร้อมกันหนะสิ ภูพูดและทำท่าดีใจเล็กน้อย
อืม ฟ้าตอบเพียงสั้นๆ พร้อมกับยิ้มตอบรับ
แล้วกลับยังงัย แฟนมารับเหรอ? ฟ้ายิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า
เปล่าหรอกพ่อฟ้ามารับ
อ้อ ภูห็นึกว่าแฟนมารับ
ไม่ได้เจอกันมาจะปีนึงได้แล้ว
เหรอ อ้าว? แล้วไม่โทรคุยกันหละ ภูถามด้วยความสงสัยและอยากรู้
ก็แทบจะไม่ได้ โทรคุยกันเลย เดือนละครั้งเอง แล้วแฟนภูหละ แฟนภูทำงานอะไรอยู่เหรอ? ฟ้าถามด้วยความสงสัยเช่นกัน
ภูยังไม่มีแฟน แต่ก่อนเคยมี แลวไปไปมามา ก็กลายเป็นกิ๊กเค้า
ทำไมอะ ทำไมอยู่ดีดีกลายเป็นกิ๊กเค้าหละ ฟ้ายังคงถามด้วยความสงสัยและอยากรู้
ก็คบกันตอนไปต่างจังหวัด เข้าค่ายชมรมช่วงซัมเม่อร์ ช่วงระหว่างที่เริ่มคบกันก็พึ่งมารู้ว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็ตกลงเป็นแฟนกัน แต่ก็เป็นแฟนกันได้เฉพาะตอนนั้น พอกลับมาจากต่างจังหวัด เค้าก็กลับไปหาแฟนเค้า ภูก็เลยต้องกลายเป็นกิ๊กเค้าโดยปริยาย
แล้ว...แฟนฟ้าหละ ? ภูถาม
ตอนนี้ก็ไม่ได้เจอกันหรอก เค้าอยู่ต่างจังหวัด ไม่รู้ไปมีกิ๊กกี่คนและ ฟ้าก็รู้นะว่าเค้ามีกิ๊ก แต่ฟ้าก็เคยมีเหมือนกัน ฮิฮิ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วหละ ฮิฮิ
ผู้ชายดีดีก็หายากเน้อะ ฟ้าพูดไปยิ้มไป แต่ก็แฝงด้วยแววตาเศร้าสร้อยเล็กน้อย
ผู้หญิงดีดีก็หายากเหมือนกัน ภูก็พูดไปยิ้มไป แต่ก็แฝลด้วยแววตาเศร้าสร้อยเช่นกัน
ภู.... ฟ้าเรียกชื่อภู แต่ก็ชะงักที่จะพูดต่อ พร้อมหันมามองหน้าภู
ว่า....มีอะไรเหรอฟ้า
ภู.... ฟ้าเชื่อในพรมลิขิตนะ แม้จะเป็นเนื้อคู่ แต่หากพรหมลิขิตได้เขียนไว้แล้วว่าเราจะกลับมาเจอกันอีกหรือไม่ ฟ้าก็เชื่อในพรหมลิขิต แม้จะห่างกันขนาดไหน ความผูกพันที่มีไม่เคยแยกจากแม้จะชาตินี้ชาติหน้าหรือชาติที่แล้ว เพราะพรหมลิขิตได้ขีดเขียนไว้แล้ว
ภูได้ยินประโยคที่ฟ้าได้พูด กับทำให้ตัวเองรู้สึกผูกพันธ์กับฟ้ามากๆ แล้วรู้สึกเหมือนกับว่า ณ ปัจจุบันที่ยืนอยู่นี้ ภูเหมือนได้เคยคุยและได้ยินประโยคนี้จากปากฟ้ามาแล้วครั้งหนึ่ง คิดว่า.... พรหมลิขิตได้ขีดไว้แล้ว เพียงแต่เราเดินตามความรู้สึกของกันและกัน ..แต่ ถ้าหากพรหมลิขิตที่ได้กำหนดไว้ ไม่ได้เดินตามทางความรู้สึกของกันและกันแล้ว คน2คนคงจากกันนานแสนนาน ฝืนความรู้สึกยังฝืนได้ แต่ฝืนพรหมลิขิตมันฝืนไม่ได้
ทั้ง 2มองหน้ากันพลันทำให้ทั้งคู่รู้สึกย้อนกลับไปในอดีต อดีตชาติที่ทั้งคู่ได้เคยคบกัน ชั่วแวบนึงทั้งคู่ก็รู้สึก รู้สึกได้ว่ากลับมาอยู่ในโลกปัจจุบัน
เมื่อกี้... เหมือนเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว ทำไมเราถึงรู้สึก รู้สึกดีมากๆเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าฟ้า ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักรกันเอง ภูคิดในใจ....
ภู.... เราเหมือนเคยเจอเค้า เหมือนเคยผ่านมาแล้วในเหตุการณ์เมื่อครู่ ฟ้าคิดในใจ
ทั้คู่ยังคงมองหน้ากันตาไม่กระพริบ
อ้าวๆๆ... มาแล้วจ้า ทำอะไรกันอยู่เอ่ย เสียงพี่หนูนั่นเอง ที่ปลุกให้ทั้งคู่ตื่นจากพวังแห่งอดีต
ฮิฮิ มองหน้ากันอย่างกับว่า รู้จกรกันมานมนานแหนะ ไม่บอกไม่รู้คนอื่นเค้าก็นึกว่าเป็นเนื้อคู่กันมาก่อนนะเนี่ยะพี่หนูแซวฟ้ากับภู
เอ่อ...เอ่อ... ภูพูดไม่ออกด้วยความอาย ส่วนฟ้าก็บ่ายหน้าแอบอายเช่นกัน
รู้ไม่เนี่ยะว่าเธอทั้งคู่ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะเลย พี่สังเกตเธอ 2คนเมื่อกี้ที่เธอ 2คนมองหน้ากันแล้วหละฮิฮิ โทษทีๆ ไม่แซวและ แต่ไอหน้าเหมือนเนี่ยะ พี่ว่าเหมือนจริงๆนะ
เอ่อ....เดี๋ยวภูกลับไปทำงานต่อนะพี่หนู แหะๆ มานานและ ไปนะฟ้า ภูพูดกับพี่หนู แต่ก็หันมามองหน้าฟ้า
จ้า...น้องภู พูดกับพี่แต่มองหน้าฟ้านะ พี่หนูก็ยังไม่วายแซวทิ้งท้าย ส่วนฟ้าก็แอบสบบตาภูพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย เหมือนกับว่าอยากจะคุยกับภูต่อ
ทำไมเรารู้สึกเหมือนกับว่าต้องคบกับฟ้าให้ได้ แต่ ก็ยังรู้สึกว่า มันยังไม่ถึงเวลา รู้สึกแปลกๆ เฮ้อ... แต่คงคิดไปเองหละมั้ง ภูคิดในใจ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากฟ้าที่ครุ่นคิดเช่นกัน
ทำไมเราถึงรู้สึกอบอุ่นจังเวลาที่คุยกับภู แปลกๆ...เฮ้อ แต่ก็ช่างเหอะ เราอาจจะคิดไปเอง ทั้งภูและฟ้าต่างก็ครุ่นคิดถึงความรู้สึกของกันและกัน ทั้งๆที่พึ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก
เฮ้ย! โอ้โฮ.... ไอภู! มึงไปเอาแก้วเบียร์ถึงโรงงานเลยเหรอว้า โคตรนานเลย ภูสะดุ้งจากห้วงของความคิดทันที ที่ได้ยินเสียงนั่นเป็นเสียงของพี่ตรีพี่ตรี เป็นพี่ที่อยู่บาร์เดียวกันกับภู
โฮ.... ทาทีพี่ พี่หนูเค้าใช้ให้เฝ้าบาร์เป็นเพื่อน Trianeeมาใหม่อะ ก็เลยมาช้า
ไปเฝ้าหรือไปจีบว้าเนี่ยะ ฮะฮะ พี่ตรีแซวภู แบบพูดแทงใจดำเล็กน้อย
โธ่ พี่ตรีผมก็แค่ทำความรู้จักรเอง ภูพูด แต่ในใจก็มีอมยิ้มเล็กน้อย และก็กลับไปทำงานต่อ
ทางด้านฟ้า....
ภูมันมาจีบฟ้าเหรอ? พี่หนูแกล้งถามฟ้าด้วยความสงสัย
อ๋อ เปล่าพี่หนู ภูก็....แค่ถามว่าฟ้าชื่ออะไร ฟ้าก็ถามว่าที่นี่เป็นงัยบ้าง ก็.... ไม่มีอะไรหรอก ภูก็ถามเฉยๆ ฟ้าแสร้งเป็นพูดเหมือนกับว่าปิดบังพี่หนูอยู่ แต่พี่หนูก็ไม่ถาม และสงสัยอะไรต่อ เพราะในใจพี่หนูคิดว่า 2คนนี้ต้องเริ่มแอบชอบกันแน่เลย แต่พี่หนูก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ทว่า ฟ้ากลับอมยิ้มไม่หยุด
ยิ้มอะไรจ๊ะฟ้า
อ้อ เปล่า ฟ้าก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ฟ้าพูดพร้อมกับทำหน้านิ่งๆเพื่อให้พี่หนูถามอีก และรีบกมหน้าก้มตาทำงานต่อ
และแล้วเวลาก็ร่วงเลยมาจนได้เวลาเลิกงาน.
กลับแล้วนะพี่ตรี ภูพูดด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากงาน
เฮ้ยกลับแล้วเหรอว้า ไอภู! กูอยู่คนเดียวนะเนี่ยะ แขกเต็มสระเลย
โอยกลับแล้วพี่ ผมกลัวบ้านหาย ภูบอกปัดด้วยความเหนื่อยอ่อนและปล่อยมุกใส่พี่ตรีไปหนึ่งดอก
ก็ไอตูนก็อยู่ เจ๊หยี ก็อยู่ โอย อยู่เพียบ มือโปรทั้งน้าน
ที่ภูพูดมานั้น ทั้งตูนและเจ๊หยีนี่พึ่งพาไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่เจ๊หยีใช่ว่าจะพึ่งพาไม่ได้ แต่เจ๊หยีนั้นจะขี้บ่น ไม่ได้ดั่งใจอะไรก็บ่นๆๆ ส่วนตูน ชอบหาเรื่องอู้ให้พี่ตรีเหนื่อยจทุกที แต่สรุปคือพี่ตรีก็แกล้งอำภูไปก็เท่านั้น เพราะทั้งตูนและเจ๊หยีก็ง่วงอยู่กับการทำงานจนหัวปั่น เพราะตอนนี้เป็นช่วงโปรโมชั่นของทางสระน้ำนั่นเอง
เออ... งั้นผมไปแล้วนะพี่ตรี ไปนะเจ๊หยี กลับแล้วนะเว้ยไอตูน
เออ.... ตูนตอบเพียงสั้นๆ
เฮ้ย ไอเต้ย มึงอย่างทิ้งกู พี่ตรีเรียกภูที่กำลังเดินไป ภูหันมาเหลียวหลังแล้วก็ยิ้มให้พี่ตรี
ไปแล้วพี่
และภูก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อที่ล็อคเก้อร์ ระหว่างที่กำลังเปลี่ยนชุดภูก็หวนคิดไปถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวันที่ได้เจอและพูดคุยกับฟ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จภูก็เดินออกไปสแกนนิ้วเลิกงาน
ภู....
อ้าว!? ฟ้ากลับแล้วเหรอ.... เลิกพร้อมกันเหรอเนี่ยะ ภูพูดพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย แล้วทั้งคู่ก็สแกนนิ้วออกไปพร้อมกัน
กลับบ้านยังงัยอะฟ้า?
ภูถามฟ้าด้วยความอยากรู้ เพราะในใจก็นึกอยากไปส่ง แต่ก็คิดว่าคงเป้นไปไม่ได้เพราะ พึ่งรู้จักกันเอง
เดี๋ยวพ่อมารับ
อ้อ .... ภูนึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
แล้วฟ้าต้องไปรอพ่อตรงไหนอะ ภูถามต่อ
แถวหน้าโรงแรมแหละ เดี๋ยวพ่อก็มาแล้ว ฟ้าตอบ
งั้นเดี๋ยวไปนั่งรอแถวหน้าโรงแรมมั้ย เดี๋ยวภูไปนั่งเป็นเพื่อน ฟ้าไม่ตอบอะไรแล้วก็เดินตามภูไปหาที่นั่งแถวหน้าโรงแรม
โรงแรม เมรี่โรสนั้น ด้านหน้าจะเป็นพลาซ่าเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมและคนทั่วไปมาจับจ่ายซื้อของ shopping กันและยังมีนร้านอาหาร fastfood อยู่หลายร้าน Mc Donal ,KFC ,S&P ฯลฯ และอีกหลายๆร้าน แล้วภูก็พาฟ้ามานั่งรอที่เก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อน
ว่าแต่ ภูมานั่งรอเป็นเพื่อนฟ้า ไม่รีบกลับบ้านเหรอ
ไม่รีบหรอก ถึงรีบยังงัยก็ไม่ค่อยอยากกลับอะ
ทำไมหละ ฟ้าถามด้วยความสงสัย
อืม.... ภูรู้สึกแปลกๆ คุยกบัฟ้าแล้วรู้สึกแปลกๆ
ทำไมอะ ฟ้าแกล้งถามภูด้วยความสงสัย ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเวลาคุยกับภู
ภูรู้สึกว่า เวลาคุยกับฟ้าแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าเคยคุยและผ่านเหตุการณ์ณืบางอย่างมาแล้วอะ แต่ทั้งๆที่พึ่งได้รู้จักรกันเอง แต่ฟ้าคงไม่รู้สึกหรอกเน้อะ ฮะฮะ ภูคงคิดมากไปเอง อย่าถือเลย
ในใจภูก็อยากให้ฟ้ารู้สึกเหมือนกันกับตัวเอง แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวว่าตัวเองจะคิดไปเองจริงๆ
ฟ้าก็รู้สึกเหมือนกับภูนะ ภูหันมามองหน้าฟ้าทันที พร้อมกับที่ฟ้าหันมาตอบและมองภูเช่นกัน ภูจ้องเข้าไปที่แววตาฟ้า...
ฟ้าเป็นคนขี้เหงาเหรอ ? เหมือนคนที่ขาดอะไรไปบางอย่าง ฟ้าตกใจเล็กน้อยกับคำพูดของภูแต่ก็พยายามเก้บความรู้สึกไว้
ภูรู้ได้งัยว่าฟ้าเป็นคนขี้เหงา แต่ฟ้าไม่รู้เหมือนกันว่าขาดอะไรไปบางอย่าง แต่พอเจอผู้ชายคนนึงที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้ก็พอจะรู้บ้างและ.
ตื้ด...ๆ..ๆ..ๆ เสียงโทรศัพท์ของฟ้าดังขึ้น
ค่ะ พ่อ..... ฟ้ารีบรับโทรศัพท์ที่พ่อโทรมาอย่างรวดเร็ว
อะไรนะคะ! รถชน แล้วพ่อเป็นอะไรรึเปล่า ฟ้าตกใจเมื่อรู้ว่ารถที่พ่อขับมาเกิดอุบัติเหตุชนกัน
พ่อไม่เห็นอะไรนะคะ แต่ดีที่ว่าพ่อของฟ้าไม่เป็นอะไรเลย
ไม่เป็นไรคะเดี๋ยวหนูกลับเองได้คะพ่อ พ่อไม่ต้องห่วงหนูหรอก... พ่อของฟ้ารักและหวงฟ้ามาก
คะพ่อ หนูกลับเองได้ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงน้า คะ...คะ...สวัสดีคะ... แล้วพ่อของฟ้าก็วางสายไป
พ่อเป็นอะไรเหรอฟ้า ภูถามด้วยความเป็นห่วง
พ่อฟ้าก็เป็นผู้ชายหนะสิ จะเป็นผู้หญิงได้ยังงัย ฮิฮิ
อ้าว.... ภูทำหน้างง
เปล่าหรอก มีรถมันมาตัดหน้ารถพ่อ ก็เลยชนกัน แต่พ่อฟ้าไม่เป็นอะไรเลย แต่ฝากระโปรงรถนี่บุบไปเลยวิ่งมาไม่ได้เพราะมันบุบไปโดนล้อ ถ้าวิ่งมาไอส่วนที่มันไปโดนล้อ มันจะสีกับล้อจนแยงแตก เลยวิ่งมาไม่ได้ ฟ้าก็เลยบอกพ่อว่า เดี๋ยวฟ้ากลับบ้านเอง ตอนนี้พ่อรอให้ประกันมาดู แล้วก็ส่งรถเข้าอู่
อืม.... งั้นภูขับรถไปส่งฟ้าที่บ้านมั้ย? ฟ้าจ้องหน้าภูและนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฟ้าอมยิ้มเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า
ถ้าส่ง ก็ต้องส่งให้ถึงบ้านด้วย ภูยิ้มจนหน้าบาน
อืม....งั้น ฟ้าหิวมั้ย เราไปหาอะไรกินกันก่อนเปล่า แล้วกินเสร็จภูก็ ไปส่งฟ้า
งั้นกินพิซซ่านะ ฟ้าอยากกิน
ฟ้าพูดอย่างไม่ลังเลและพูดพร้อมหันกลับมายิ้ม แต่ในใจภูก็คิดไว้แล้ว่าจะแกล้งฟ้าจึงทำท่าว่าอยากจะกินอย่างอื่นแทน เมื่อฟ้าจ้องหน้าภูและรู้สึกว่าภูอยากจะกินอย่างอื่นแทน
กินกินกิน....กินพิซซ่า!
ฟ้าพร้อมกับมองหน้าภูด้วยความหมั่นเขี้ยว และอยากจะกินพิซซ่าให้ได้และก็บังคับด้วยการจูงมือภูไปที่ร้านพิซซ่า จนภูต้องยอมแพ้
อ้าๆ... กินพิซซ่าก็พิซซ่างอแง อย่างกับเด็กเลยนะ
อืม... ดีมาก พิซซ่าต้องพิซซ่า ฮะฮะ
แล้วทั้ง 2ก็นั่งกินพิซซ่าไปคุยไปเหมือนกับว่าเป็นแฟนกันและคบกันมานาน ยิ่งคุย ทั้งคู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าอบอุ่นและรู้สึกดีด้วยกันทั้งคู่
อุ๊ย ! 2ทุ่มแล้วภู! ฟ้าตกใจเมื่อมองไปยังนาฬิกาข้อมือ พ่อว่าแน่เลย บอกพ่อว่าจะรีบกลับ
งั้นเดี๋ยวภูไปส่ง
จ้า...อุ๊ย! ฟ้าอุทานด้วยความที่ว่า พึ่งรู้สึกตัวเหมือนกับว่าได้เป็นแฟนกับภูซะแล้ว เพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นคุ้นเคย และอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ภู
เป็นอะไรเหรอฟ้า? ตกใจอะไร?
เปล่า
ขี้โม้!
ไม่ได้โม้ซักหน่อย เดินไปลยไอคิงคอง! ฟ้าแซวถ้าเดินของด้วยความเป็นกันเองอย่างมาก เหมือนกับว่ารู้จักรกันมานานแล้วจริงๆ
หนอย เจ้าจิ้งจก
อะไร ฟ้าไม่ใช่จิ้งจกซักหน่อย ฟ้าอะ เป็นนางฟ้าตะหาก ฮิฮิ....แบร่ ฟ้าแลบลิ้นหรอกภู แล้วทั้ง 2เมื่อจ่ายตังค์เสร็จก็พากันเดินไปขึ้นรถ ระหว่างทางที่เดิน ทั้ง 2คนก็เล่นหยอกล้อกันตลอดทางจนขึ้นไปบนรถ
เหมือนได้ไปเที่ยวกันมาทั้งวันเลยเน้อะ ภูพูด
อืม.... สนุกดี ภูคุยสนุกดี แกล้งภูก็สนุกด้วย แล้วภูก็ขี้แกล้งด้วย ฟ้าเลยต้องแกล้งเจ้าคิงคองบ้าง ฮิฮิ
หนอยเจ้าจิ้งจก ก็ขี้แกล้งเหมือนกัน
นี่นางฟ้านะ ไม่ใช่จิ้งจก
แล้วภูก็ขับรถออกไป แต่ระหว่างทางทั้งคู่ก็คุยกันและแหย่กันไม่หยุดจนมาถึงหน้าบ้านฟ้า
ถึงแล้ว ตรงนี้แหละ นี่งัยบ้านฟ้า บ้านของนางฟ้า ฮะฮะ
เหอะๆ ภูขำแบบหมั่นไส้ อืม.... บ้านหน้าอยู่นะเนี่ยะ ฟ้าอยู่กับพ่อกับแม่เหรอ
อืม ช่าย....
แล้วนี่ฟ้าลูกคนเดียวเหรอ?
ก็ช่ายอีก
มิน่าคุณพ่อถึงหวง ฟ้ายิ้ม แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
ภู..... ขอบคุณมากๆ เลยนะที่มาส่ง
ไม่เป็นไร แต่ ....ภูว่าช่วงนี้อาจจะมาส่งฟ้าทุกวันก็ได้ ฟ้าทำหน้างงเล็กน้อย ภูมองหน้าฟ้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยเช่นกันแล้วตอบกลับไปว่า
ก็รถป๊ะป๋าฟ้าต้องเข้าอู่หนิ ฟ้ายิ้ม และตอบกลับไปว่า
ฮิฮิ จริงด้วย งั้นเจ้าคิงคองก็ต้องมาส่งนางฟ้าทุกๆวันเลย ภูยิ้มและตอบกลับไปว่า
แล้ว แฟนฟ้า.... ฟ้าทำหน้าเฉยๆทันที
เค้าไม่รู้หรอก เพราะตอนนี้เราก็ห่างๆกันอยู่ เค้าก็ไม่ได้โทรมาหาฟ้าบ่อยนักหรอก
ภูได้ยินที่ฟ้าพูดกลับทำให้รู้สึกเข้าใจถึงความรู้สึกฟ้ายิ่งขึ้น แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรที่เข้าข้างตัวเอง และโดยที่ไม่ร็ตัว มือมือภูก็ค่อยๆเขยื้อนไปจับมือฟ้าอย่างอ่อนโยน เหมือนกับว่าอยากจะปลอบใจฟ้า
ถ้านางฟ้าตัวน้อยขี้เหงา เจ้าคิงคองก็จะเป็นเพื่อนคุย เผื่อว่า เจ้าจิ้งจกน้อยจะหายเหงา .....โฮะโฮะโฮะ ฟ้ายิ้มแก้มปริ แต่ก็หมั่นไส้ที่ภูมาพูดกวนๆใส่
ไอบ้า หนิ นี่นางฟ้านะ ไม่ใช่จิ้งจก ฟ้าพูดพร้อมกับเอามือเข้าไปจี๋ภู
โอ๊ย อย่าจี๋ ภูบ้าจี้ ยอมแล้วๆๆๆ เข้าบ้านได้แล้ว เดี๋ยวป๊ะป๋าเป็นห่วงนะ ฟ้ารีบลุกออกจากรถพร้อมหันกลับมาตอบภู
จ้า.... เจ้าคิงคอง ....ฮิฮิ..... พร้อมกับยิ้มอย่างกวนๆใส่ภู ขับรถกลับบ้านดีดีนะ และฟ้าก็เปิดประตูรถ แต่ก็หันกลับมาเปิดประตูใหม่และพูดกับภูว่า
พรุ่งนี้เจอกันนะ เจ้า..คิง..คอง ฮิฮิ ฟ้าพูดกับภูพร้อมกับทำหน้าทะเล้นแบบสุดๆ และภูก็ตอบกลับไป
จ้า ....แม่จิ้งจก.... แล้วภูก็ออกรถไป แตก็ยังแอบมองกระจกข้าง ก็เห็นฟ้ายืนมองด้วยเช่นกัน จนภูเลี้ยวรถออกไป
ถึงตอนนี้ ในใจภูรู้สึกเบิกบานอย่างที่สุด และรู้สึกดี รู้สึกว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่กับฟ้านั้น มันเหนือคำบรรยาย ส่วนฟ้านั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากภูเลย ฟ้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยรู้สึกดีอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ.......................................................................................................................................
3 มีนาคม 2551 04:52 น.
ป๊ากเก้อร์
หลังจบจากงานรับปริญญา ภูก็ได้ไปสมัครงาน และได้ทำงานร่วมที่เดียวกันกับตูนที่โรงแรมเมรี่โรส โรงแรมเมรี่โรสเป็นโรงแรมระดับ 5ดาว ซึ่งที่ภูกับตูนได้ทำอยู่นั้นอยู่ในส่วนของ Poolbar หรือที่เรียกกันในภาษาของคนทำโรงแรมว่าสระน้ำ แต่จะมีทั้งบาร์ และที่สำหรับแขกมานั่งทานอาหาร พร้อมทั้งสามารถสั่งทานอาหารได้บนเตียงที่สระได้ตลอดเวลา งานของภูและตูนก็คือ ทำทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยยันเรือรบ ทั้งเสิร์ฟอาหาร รับorder เป็นbarman runnerboy แม่จะเหนื่อยแต่ก็เป็นงานที่สนุกสนานสำหรับทั้งคู่
"ตูน! กูอยู่เมรี่โรสกี่เดือนได้แล้วว้า" ภูพูดอย่างเซ็งเล็กน้อย
"3 เดือนมั้ง....กูจะไปรู้มึงเหรอว้า ภู ไอเวงนี่!!!!"
"เออ เน้อะ แต่ก็อยู่มา 3เดือนแล้วเมื่อไหร่จะได้ Promote ซักทีว้า..."
"เอาน่า กูก็เซ็ง แต่ไหนๆแล้ว คิดซะว่าหาประสบการณ์ไปก่อนนา"
"อืม ก็แค่เซ็งๆหวะ เฮ้อ...ช่างเหอะ คิดมากปวดหัวเว้ย....ทำงานต่อดีกว่า"
สำหรับเพื่อนๆ ในกลุ่มแต่ละคนทีเรียนจบกันแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานที่ตัวเองอยากทำ ซึ่งก็หลายเดือนแล้วที่ทุกคนในกลุ่มไม่ได้เจอกันเลย เรื่องนี้ทั้งตูนและภูก็พยายามที่จะนัดเพื่อนๆในกลุ่มมารวมตัวเจอกัน แต่ก็พลาดทุกครั้งไป เพราะเวลาเลิกงานไม่ตรงกันบ้าง หยุดไม่ตรงกันบ้าง สุดท้ายก็ยังคงนัดรวมตัวกันไม่ได้ ....ตู๊ด ......เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น นั่นเป็นเสียงโทรศัพท์ของภูเอง ภูรีบเดินไปหลบมุมหาที่รับสายโทรศัพท์ พอได้มุมที่เหมาะก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ภูรู้ฉงนเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์ของใคร แต่สุดท้ายภูก็กดรับสาย เมื่อภูรับเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงที่ฟังน้ำเสียงแล้วออกจะเถื่อนๆดุๆ พูดจาแบบฮ้วนๆไม่มีหางเสียง
"ขอสายภู!" เมื่อภูได้ฟังเสียงที่พูดออกมาจากสายรู้สึกงงๆ เพราะผู้ชายคนที่โทรมานี้เหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่าง
"พูดอยู่ครับ" ภูตอบด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ
"มึงใช่มั้ยไอภู! มึงออกมาเจอกูเดี๋ยวนี้"น้ำเสียงนั้นพูดด้วยอารมณ์โมโหและเครียดแค้น
"นั่นใครครับ!?" ภูสงสัย
"อ๋อง อ๋อง!!!!"
"อ๋องไหนครับ!?" ภูตอบกลับไปอย่างงง
"กูอ๋อง! ผัวไอยี่! มึงทำอะไรกับกูไว้มึงโดนแน่ มึงออกมาเจอกูเลย" น้ำเสียงของชายคนนี้ยิ่งพูดยิ่งให้รู้สึกว่าแค้นเคืองอย่างที่สุด พอภูได้ยินคำว่า ผัวไอยี่ ภูนึกขึ้นได้ทันที นั่นคืออ๋อง อ๋องคนที่เป็นแฟนกับยี่ ซึ่งผู้หญิงที่ชื่อยี่นั่นก็คือ อดีตที่เจ็บปวดของภู
ภูตอบกลับไปว่า "ผมไม่ได้คุยกับยี่มา 2ปีแล้วนะครับ จะมายุ่งอะไรกับผมอีก ผมเลิกคบกับยี่มานานแล้วนะครับ"
ภูพยายามพูด และอธิบายเพื่อให้ผู้ชายที่ชื่ออ๋องใจเย็นลง แต่ก็ไม่ได้ผล จนในที่สุดภูก็ตัดสินใจกดวางสายโทรศัพท์และอีกอย่างภูก็อยู่ในระหว่างทำงานอยู่จึงไม่อยากจะคุยอะไรยืดยื้ออะไรให้มากความ แต่ทว่าผูชายที่ชื่ออ๋องนั้นก็ยังโทรมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะวางสายกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังโทรมาไม่หยุด จนในที่สุดภูรู้สึกรำคาญอย่างเต็มที่จึงกดวางปุ่มปิดเครื่องมือถือทันที
"เฮ้ย! เป็นไรอีกว้าหน้าเครียดๆ"
"ไอนั่นมันโทรมาหวะ"
'ใครว้า!?"
"แฟนไอยี่" ภูตอบด้วยสีหน้าเซ็งๆ
"อะไรว้า มึงเลิกกับไอยี่ไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมันโทรมาทำไมอีกว้า"
"นั่นดิ"ภูตอบแบบเซ็งเล็กน้อย แต่ก็ทำหน้านิ่งๆ
"แล้วมันพูดอะไรกับมึงบ้างว้า"ตูนถามด้วยความอยากรู้ แต่ในใจเริ่มรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญกับผู้ชายคนนี้
"กูก็บอกมันไปแล้วว่ากูไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับยี่แล้วไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่รู้เรื่องมา 2ปีแล้ว มันก็ไม่ฟังจะเจอกูให้ได้ท่าเดียว"
"ถ้ามีอะไรนะเดี๋ยวพวกกูช่วยมึงเอง"
"เออ กูไม่กลัวมันหรอก แต่รำคาญมันมากเลยหวะ"
"เอาน่า ถ้ามีอะไรเดี๋ยวพวกกูช่วยอีกแรง"
"อืม ขอบใจหวะ"
ภูเริ่มคิดในใจ "นี่กรรมที่เราได้ทำไว้ จะกลับมาหาเราอีกครั้งแล้วเหรอ ถ้าวันนั้นเราไม่ตัดสินใจคบกับยี่ เราก็คงไม่ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น"
ก่อนนี้ ภูได้รู้จักรกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อยี่ แต่ก็เป็นการรู้จักรอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะทั้งคู่ไม่เคยคุยกันมาก่อน แต่ภูก็เคยเห็นยี่และรู้จักรมาอยู่บ้าง เพราะยี่ก็เป็นรุ่นน้องของภูในคณะเดียวกันนั่นเอง ตอนนั้นภูเป็นหนึ่งในหัวหน้าของชมรม คนรักป่า ซึ่งได้จัดเข้าค่ายที่ต่างจังหวัดทุกปี และยี่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกชมรมที่ได้ร่วมเดินทางไปกับชมรมด้วยในปีนั้น ชมรมคนรักป่ามักจะออกค่ายช่วงซัมเม่อร์หรือที่เรียกกันว่าปิดเทอมใหญ่ จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันในค่ายถึง 3เดือน ระหว่างนั้นภูกับยี่ก็ได้มารู้จักรด้วยความจำเป็น ตอนนั้นเกิดปัญหาภายในชมรม และได้แบ่งกลุ่มกันออกเป็น 2กลุ่ม คือกลุ่มของเจ๊เหลง เจ๊เหลงนั้นเป็นที่ปรึกษาของชมรมคนรักป่า เป็นคนให้คำแนะนำ เรื่องโครงการต่างๆและมีประสบการณ์ในการทำชมรมนี้มามาก จึงเป็นที่นับหน้าถือตาของพวกรุ่นน้อง ส่วนอีกกลุ่มนี่ก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็เป็นกลุ่มของภูเอง เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะ ความคิดของคนในกลุ่มหลายหลายคนนั้นเกิดไม่ตรงกันต่างคนเริ่มต่างทำอะไรปล่อยปะละเลย และฝ่าฝืนกฎระเบียบของค่าย ซึ่งนำโดยเจ๊เหลงที่เป็นตัวหัวโจกในการแหกกฎต่างๆ เพราะตัวเจ๊เหลงเองคิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรตัวเจ๊เหลงได้ แต่ทว่าทางพวกที่ไม่พอใจเจ๊เหลงนั้นก็ได้มาปรึกษากับภูในเรื่องต่างๆที่เจ๊เหลงได้ทำซึ่งหนึ่งในคนที่เข้ามาปรึกษาเรื่องราวและปัญหาต่างๆด้วยนั่นก็คือ ยี่ ยี่มักจะมาคุยกับภูและขอคำปรึกษาต่างๆเกี่ยวกับคนในกลุ่มและเรื่องงานของกลุ่ม ยี่นั้นมีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งภูก็ไม่รู้มาก่อนว่ายี่นั้นมีแฟนแล้วแฟนของยี่ชื่ออ๋อง อ๋องเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งมีหน้าที่การงานที่ดี แต่ก็พึ่งมาคบกับยี่ได้ไม่กี่เดือนยี่ก็ต้องมาออกค่าย คนรักป่า ที่ต่างจังหวัด แต่อ๋องก็มักจะโทรมาหายี่แทบทุกวัน
วันหนึ่งยี่นัดเจอภูมาคุยที่ห้อง เพราะยี่ไม่อยากออกไปที่ห้องภูเพราะห้องภูมีคนเยอะ และยี่รู้สึกว่าไม่มีสมาธิในการคุยในเรื่องต่างๆจึงนักเจอภูมาคุยที่ห้อง และคืนนั้นเองที่ภูกับยี่รู้สึกดีต่อกัน และก็ทำให้ภูรู้ด้วยว่ายี่นั้นมีแฟนแล้ว ภูจึงไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่ก็เก็บความรู้สึกดีไว้ไม่แสดงออก แต่ทว่าคืนนั้นยี่กับชวนภูนอนที่ห้องด้วย และตั้งแต่นั้นมาภูก็เริ่มสนิทกับยี่มากขึ้น จนวันนึงเรื่องได้รู้ไปถึงหูเจ๊เหลง เจ๊เหลงจึงพยายามพูดให้ร้ายยี่และภูสารพัด ให้คนอื่นคิดว่ายี่เป็นผู้หญิงง่ายๆนอนกับใครก็ได้ จนเพื่อนยี่คนนึงคิดแผนขึ้นมาให้ทั้งคู่เป็นแฟนกัน และนีก็คือจุดเริ่มต้นแห่งความทรมานและทำให้ชีวิตของภูเริ่เปลี่ยนไป จากที่แกล้งๆเป็นแฟนกันกลับกลายเป็นแฟนกันจริง พร้อมความที่รู้สึกดีต่อกันทั้งคู่จึงตกลงคบกันจริงๆเข้า แต่ทว่าช่วงเวลาแห่งความสุขมันแสนสั้นนัก เพราะถึงเวลาที่จะต้องกลับกรุงเทพแล้ว และก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว
"ยี่ถึงบ้านแล้วจะโทรมาหาภูรึเปล่า"
"โทรสิ ไม่โทรได้ยังงัย"
นี่คือ สิ่งที่ผูกพนธ์กันมา แม้มันจะสั้นด้วยระยะเวลาแค่ 3เดือน แต่ภูก็รู้สึกผูกพันธ์กับยี่มาก เพราะตอนที่ทั้งคู่อยู่ที่ค่ายแทบไม่เคยแยกจากกันเลย เพราะงั้นพอกลับมาถึงกรุงเทพ ภูรู้สึกว่าตัวเองต้องการยี่มาก แม้จะรู้อยู่เต็มอกเลยว่าตอนนี้ภูกลับมากรุงเทพแล้ว แล้วตอนนี้ภูก็ต้องกลายสถานะจากการเป็นแฟนของยี่ กลายมาเป็นกิ๊กของยี่แทน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ภูพอใจและยังรับได้ และก็หวังลึกๆว่ายี่จะเลือกตัวเองและรักตัวเองอย่างเต็มตัว แต่ภูไม่เคยรู้เลยว่าการที่ผู้หญิงที่ชื่อยี่นั้นได้เข้ามาในวิตของภูจะทำให้ภูต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ เมื่ออ๋องแฟนของยี่นั้นได้รู้ว่าภูกับยี่นั้นคบกัน เพราะเป็นการบังเอิญที่น้องของอ๋องได้แอบไปเห็นภูกับยี่เดินจูงมือด้วยกันในห้างแห่งหนึ่ง หลังจากวันนั้นภูก็เริ่มโดนจิตวิทยาของอ๋องเล่นใส่ ตัวภูเองไม่ค่อยรู้สึกกลัวอ๋องเท่าไหร่ แต่เป็นยี่ที่โดนอ๋องเล่นงาน ด้วยคำพูดที่ขู่ยี่ต่างๆนานา จนยี่รู้สึกหวาดกลัวทำให้ภูก็เป็นห่วง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนภูตัดสินใจขอเลิกกับยี่ แต่ก็เป็นยี่ที่ยังรั้งภูไว้ไม่ยอมเลิก นั่นก็ทำให้ภูทรมานเหมือนตายทั้งเป็น เพราะจากที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน เจอกันทุกวันกลับกลายเป็นว่า เจอกันบ้างไม่เจอกันบ้าง และอ๋องก็จะมารับยี่ที่มหาลัยบ่อยขึ้นๆจนภูแทบไม่ได้เจอยี่เลย ต้องคุยโทรศัพท์กับยี่หลังจากที่ยี่กลับมาถึงบ้านแล้วภูรู้สึกอึดอัดและทรมานเพราะตัวภูเองก็อยากจะเลิก แต่ยี่กลับไม่ยอเลิกมันเป็นสิ่งที่ภูทรมานเหมือนตายทั้งเป็น ทำให้ภูกลายเป็นคนที่คิดมากคิดมากจนภูกลายเป็นโรคเครียดและเป็นโรคความดันต่ำหายใจไม่ออกแล้วก็จะชัก มันทรมานมากเพราะผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ภูได้เป็นแบบนี้หรืออาจเป็นเพราะกรรมเก่าที่ภูได้ทำไว้ แต่เหตุการณ์ที่ทำภูต้องฝังใจและทรมานที่สุดในชีวิตก็ได้เกิดขึ้น วันนั้นยี่ไปหาอ๋องตามปกติ แต่ปกติแล้วยี่จะโทรมาหาภูเมื่อถึงบ้าน
ตู๊ดๆๆๆ.... เสียงโทรศัพท์ของภูดังขึ้น
ฮัลโหล ยี่เหรอ
อืม ภูเราเลิกกันนะ สิ้นเสียงยี่ ภูก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะเหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวนั้นเงียบไปหมด แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของภู ภูรู้ว่าต้องมีวันนี้จึงพอจะทำใจได้
อืม เราจะไม่ได้คุยด้วยกันแล้วใช่เปล่า
อืม ช่ายยี่ตอบกลับไปอย่างสั้นๆ
แล้วไม่ต้องโทรหากันอีกเลย ไม่เจอกันอีกต่อไปแล้ว....
อืม ช่าย เราเลิกกันแล้วนะ แล้วยี่ก็วางสายไปทันที
อืม....ภูก็ตอบไปเพียงสั้นๆ พอดีกับที่ยี่วางสาย
แต่ไม่นานผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เสียงโทรศัพท์ภูก็ดังอีก และก็เป็นเบอร์ยี่ที่โทรมาอีกครั้ง ในใจภูเริ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดนึง คิดว่ายี่อาจจะอยากกลับมาพูดว่าเราคบกันอีกครั้ง แต่ทว่าเมื่อภูรับสาย ก็ได้ยินเสียงยี่ร้อง เหมือนคู่รักกำลังมีอะไรกันอยู่ ภูพยายามฟังซักพัก ในใจพยายามคิดว่านี่เป็นการแกล้งทำ แต่ว่าฟังไปได้ซักพักจึงรู้ทันทีว่าอ๋องกับยี่กำลังทำอะไรกันอยู่อย่างแน่นอน เมื่อรู้เท่านี้ น้ำตาภูก็เอ่อล้นออกมาทันหัวใจภูเต้นแรงขึ้นๆ มือไม้สั่น ยิ่งฟังภูก็รู้สึกว่าตัวเองโดนพัดพราก เสียของที่ตัวเองรักมากที่สุด และไม่นึกว่าคนที่ตัวเองรักมากที่สุดนี้จะทำอะไรอย่างนี้ได้ทั้งๆที่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้พึ่งบอกเลิกกันไปเอง ภูรู้สึกเสียใจและเสียใจอย่างมากและมากมากที่สุดตั้งแต่เกิดมา เสียใจจนแทบขาดใจภูรู้สึกทรมานทรมานแบบว่าเสียใจยังงัยก็ไม่ได้ ทุกข์ยังงัยก็ไม่ได้ รู้แต่ว่าตอนนี้ตัวเองทรมานมากเรียกได้ว่ารู้ซึ้งเลยว่าคนที่เจ็บจนหัวใจสลายเป็นยังงัย แต่ตอนนั้นดีที่ว่าภูยังมีเพื่อนๆ และเพื่อนที่เป็นผู้หญิงอยู่เคียงข้าง เพื่อนผู้หญิงคนนึงเห็นภูเป็นอย่างนั้นแล้วก็สงสารภูมาก จึงจับมือภูพยายามปลอบและพยายามคุยกับภูจนภูสติสตังเริ่มกลับมาบ้าง แต่ก็ยังเบลอๆและเหม่อลอย จนตกเย็นเมือภูกลับบ้าน กลายเป็นว่ายี่กลับโทรมาหาภูอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภูทั้งงงทั้งดีใจและทรมานและสับสนพยายามที่จะถามยี่ว่ามันคืออะไรในเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน แต่ยี่ก็อ้างนู่นอ้างนี่ แต่ภูรู้อยู่เต็มอกว่า ตอนนั้นยี่กับอ๋องมีอะไรกันจริงๆ และอ๋องก็พยายามทำให้ภูได้ยินเพื่อที่จะให้ยี่เลิกกับภู แต่ทว่ายี่ก็ยังไม่เลิกคบกับภูจริงๆ บอกแต่เพียงว่าตอนนั้นอ๋องบังคับให้ทำและบังคับให้พูดว่าเลิกกับภู แต่ยิ่งนานวันๆวันเข้าเหตุการณ์ภูกับยี่ก็เลวร้ายลงๆเรื่อยๆ จากที่เจอกันเฉพาะในมหาลัย ก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลย เพราะอ๋องมาขู่และมาหายี่ทุกวัน จากที่เคยคุยกันนานกลับได้คุยกันแค่ไม่ถึง 5นาทีก็ต้องวาง และจนไม่ได้เจอกันแม้กระทั่งในมหาลัย ได้คุยกันแค่ทางโทรศัพท์เท่านั้น จนในที่สุด ยี่ก็บอกเลิกกับภู เพราะยี่ก็แย่และทนไม่ไหวที่ต้องโดนอ๋องบังคับขมขู่และทำร้ายร่างกาย อ๋องทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้ยี่เลิกกับภูและไม่ให้ภูมายุ่งกับยี่
"ภูยี่ทนอ๋องไม่ไหวแล้ว เราเลิกกันนะ ภูรู้เปล่าอ๋องทำอะไรกับยี่บ้าง จิกผมซ้อมยี่ ยี่เจ็บยี่ทรมานนะภู ภูต่อไปนี้ไม่ต้องโทรหายี่แล้วนะ"
"อืม ยี่ก็ไม่ต้องโทรมาอีกแล้วนะ หลังจากวินาทีนี้ไปเราเลิกกันแล้ว" นั่นก็ทำให้ภูรู้สึกดีและโล่ง แต่ก็รู้สึกทรมานและเศร้าคละเคล้ากันไปแต่หลังจากวันนั้น ยี่ก็ยังโทรมาหาภูปะปลาย คือโทรมาบ้างอาทิตย์ละครั้ง ทำเป็นหาเรื่องชวนภูคุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับตัวภู แต่ภูก็ไม่ค่อยอยากจะคุยอะไรกับยี่แล้ว เพราะความรู้สึกดีดีมันก็ได้หมดไป จะมีก็แต่ความทรมาน และนี่ก็เป็นเรื่องราวที่ทรมานของภูและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ภูต้องมากลายเป็นคนที่คิดมากและเป็นโรคประจำตัวที่เป็นความดันต่ำ เมื่อเวลาโมโห หรือเครียดมากๆก็จะเป็น การที่จะทำให้ภูหายได้คือการกอด และปลอบโยน
"เฮ้ย! ภู มีTrainee มาใหม่หวะ" ตูนเรียกภู ให้ตื่นจากภวังของอดีตที่ทรมาน
"เด็กฝึกงานมาใหม่เหรอว้า แล้วมึงไม่จีบซะหละ"
"โธ่ พลาดได้งัย กูก็จะจีบอยู่นี่งัย"
"แล้วรู้แล้วเหรอเค้าชื่ออะไร" ภูถามด้วยหมั่นไส้
"น้องเกรซๆ เว้ย..."ตูนตอบแบบยิ้มๆ
"แหมชื่อซะฝรั่งเชียว"
"แต่กูก็ปะล่อมๆถาม เค้าก็มีแฟนแล้วหวะ แต่แฟนเค้าอยู่ต่างประเทศ"
"อ้าว มึงก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเค้าสิ ก็คบกันแค่เพื่อนก็พอ อย่าไปจริงจังหละ" ภูพูดและหลอกสอนตูน
"เออน่า กูรู้น่า กูไม่ได้หวังหรอก แต่ก็จะลองคุยๆดู 5555"
"เออ กูก็แค่เตือนๆมึง ไม่อยากให้เหมือนกูตอนที่กูคบกับไอยี่" ภูพยายามพูดเตือนสติเพื่อน
"เออน่า กูรู้ว่ากูทำอะไรอยู่นา" ไม่นานก็ผ่านไปเดือนนึง ก็มี Trianee มาใหม่อีกคนนึง
"เฮ้ย ภูมีเด็ก Trianee มาหใม่อีกคนนึงหวะ ที่ห้องอาหารเดียวกับ เกรซเลย ก็น่ารักดี แต่กูว่ากูชอบเกรซมากกว่า55555"
"อืม ก็ช่วงนี้มึงก็สนิทกับเกรซมากเลยหนิ งงงานหมู่นี้ตกไปนะมึง ลางานบ่อยอีกต่างหาก"ภูพูดอย่างประชดๆ
"เออ น่าๆ"
และก็เป็นจังหวะบังเอิญที่ภูจะต้องเดินไปยืมของที่ Long town พอดี
"อ้าว! น้องภู มาเอาอะไรจ้า" เสียงของหญิงสาว คนนึ่งดังขึ้น นั่นคือเสียงพี่หนู พนักงานของห้องอาหาร Long town
"อ้อ ภ฿ ว่าจะมายืม แก้วเบียร์ซักหน่อยหนะครับ"
ระหว่างที่ภูกำลงจะเปิดตู้ ก้มไปหยิบแก้วเบียร์ที่ Chill ไว้ในตู้เย็น ภูได้เหลือบไปเห็น Trianee คนที่พึ่งมาใหม่เข้า โดยที่ไม่ได้ตั้งใจจะมอง.....