30 สิงหาคม 2545 20:32 น.
ปุถุซน
ฉันเห็นแอ็ปเปิลลูกหนึ่งมีศรปักไว้
ฉันสงสัยใคร่รู้ใครฝึกยิงธนูมือฉมัง
จึงหยิบมาดูและเพ่งพินิจแล้วหลับตา
ฉันแลเห็นลูกศรพุ่งเข้ามาพุ่งเข้ามา
พุ่งราวกับเป้าหมายของมันคือฉันนั่นเอง
ด้วยความตื่นตระหนกสุดใจกลัว
ต่ออานุภาพพลังขับเคลื่อนแห่งธนูศร
ฉันถึงกับต้องรีบลืมตาแล้วเห็น
ศรปักลงตรงกลางลูกแอ็ปเปิลในอุ้งมือฉัน
.
แล้วฉันหลับตาอีกครั้ง
ฉันเห็นศรธนูค่อยค่อยถอยออก
ถอยออกจากลูกแอ็ปเปิล
มันกำลังถอยหลังอย่างดงามสุดพรรณนา
เป็นภาพที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต
การถอยหลังของศรธนูวิจิตรพิศดาร
พลันยินเสียงมันพุ่งถอยหลังแหวกอากาศ
แล้วหยุดกึกที่คันธนูของพลธนูผู้หนึ่ง
ฉันเห็นแววตาแห่งความมุ่งมั่น
ฉายความรู้สึกมั่นใจเต็มอัตราศึก
ฉันคิดในใจและพูดกับตัวเอง
บุรุษหนุ่มผู้นี้คงไม่ใช่ปุถุชนคนธรรมดา
อาจเป็นผู้กล้าอัศวินอารีผู้ทรงธรรม
แววตาของชายหนุ่มมิได้กร้าว
แต่ซ่อนไว้ด้วยความสุขุมสงบขรึม
และเต็มไปด้วยความนอบน้อมถ่อมตน
..
อีกคราที่ฉันลืมตา
ภาพชายหนุ่มกำลังง้างคันธนู
อันตรธานหายไปสิ้น
เหลือแต่ศรธนูปักแอ็ปเปิลในอุ้งมือ
22 สิงหาคม 2545 12:09 น.
ปุถุซน
บทเพลง บทกวี ดนตรี
และความรัก ช่างอ่อนหวาน
พริ้วไหวและล่องลอย
พัดพาจิตใจให้เคลิ้มฝัน
ลัดเลาะไปตามท่วงทำนอง
ร้อยรัดดวงใจเข้าไว้ด้วยกัน
รอยยิ้ม น้ำตาแห่งความปีติ
ซาบซ่านในรักมิได้ก่อเกิดง่าย
และมิอาจบลงได้อย่างรวดเร็ว......
...
ขอความรักในนิยามแห่งรักนี้
โปรดไปสู่ห้วงดวงใจของใคร
สักคนที่ฉันรัก
...........................
21 สิงหาคม 2545 09:31 น.
ปุถุซน
มีทางสายหนึ่งที่ดูเปล่าเปลี่ยว
อ้างว้างเดียวดายสุดเวิ้งว้าง
ทางสายนี้มีชื่อว่า
The Roadless Travel
ทางที่ไม่ค่อยมีคนเดิน
ชื่อก็สื่อบอกความหมายว่า
มันเป็นถนนร้างไร้ห่างผู้คน
ใครที่หลงเดินผ่านเข้ามา
ต้องพบกับความเงียบสงัด
เงียบสงบจริงจริง
ยินแต่เพียงแค่ลมหายใจรดริน
มีหลายคนผ่านเข้ามาในเส้นทางแห่งนี้
บางคนหลงเข้ามา
แต่บางคนตั้งใจมา
บางคนหนีความวุ่นวาย
ของมหานครใหญ่อึกทึก
บางคนตั้งใจหลบลี้ผู้คน
ถนนสายนี้ยอมรับและเป็นมิตร
กับทุกผู้คนในโลกนี้
ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะทำบาปผิดเลวแค่ไหน
หรือว่าเขาจะบริสุทธิ์ผุดผ่องสักปานใด
ขอต้อนรับทุกทุกท่านสู่
ถนนที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน
17 สิงหาคม 2545 14:59 น.
ปุถุซน
เมื่อท้องฟ้าหอบเอาเมฆหมอกรวมตัวกัน
ท้องฟ้าดูหม่นหมองสีดำทะมึนขมุกขมัว
บรรยากาศดูน่ากลัววังเวงและเดียวดาย
พลันมีลมพัดเข้ามาเข้ามาแต่ไกล
จากลมเบาเบาค่อยค่อยแรงค่อยแรง
แล้วฝนก็โปรยลงมาพร้อมกับพายุ
ที่หอบเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขว้างหน้า
..
ฉันเดินดุมดุมท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ
เดินฝ่าละเมาะแมกไม้โขดหินลื่นไหล
ฝนก็ตกพร่ำพร่ำลมก็พัดเกรี้ยวกราด
ใจหนึ่งนั้นระทึกหวาดหวั่นวิตกกลัวผวา
แต่อีกใจหนึ่งกลับกล้าเผชิญแม้เดียวดาย
ในนาทีนั้น.
ที่ชีวิตฉันราวกับแขวนไว้บนเส้นด้าย
ฉันพลันนึกขึ้นมาในใจดุจดังบ่าวที่วิงวอน
ต่อพระเป็นเจ้าในมหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์
โอ้..เจ้าพายุร้าย
เขมือบฉันไปซิถ้าเจ้าไม่รังเกียจฉัน
หอบฉันไปซิหอบฉันไปพร้อมกับสรรพสิ่ง
หอบฉันไปให้ไกลไกลสุดไกลถึงขอบจักรวาล
.
แล้วพายุใหญ่ก็สงบ
มันไม่ได้หอบฉันไปด้วย
ฝนก็หยุดสาดแล้ว
ท้องฟ้าเริ่มปลอดโปร่ง
หมู่เมฆเริ่มสลัดสีหมองมัวออก
แล้วเต้นระบำก่อรูปร่างแปลกประหลาด
ฝูงนกต่างออกมาวาดลวดลายบินแข่งกันฉวัดเฉวียน
แล้วมีแสงสีเงินสีทองทาบทอออกจากขอบฟ้าทางตะวันตก
พลันปรากฎโค้งรุ้งงามหลากสีสันวิจิตรตระการตา
15 สิงหาคม 2545 14:03 น.
ปุถุซน
ผมรู้สึกโดดเดียว...
โดดเดียวจริงจริงอีกครั้ง
เมื่อตื่นในยามสงัดเงียบ
ผมพบว่าผมอยู่ตัวคนเดียว
คนเดียวไม่มีเธออีกแล้ว
แต่ก่อนถึงผมจะสะดุ้งตื่น
ในยามเงียบสงัดสักปานใด
ก็ยังรู้สึกว่าเธออยู่เคียงข้างเสมอ
ถึงแม้เธอจะอยู่ห่างกันไกลเพียงไหน
- - - - - - - - - - - - - -- - - - -- -
แต่คืนนี้ประหลาดเหลือ
ผมกลับไม่พบเธออยู่ในใจผม
หรือว่าเธอแอบหนีออกจากหัวใจผม
แต่ผมล็อคประตูหัวใจผมไว้นี่หน๊า
- - - - - - - - -
แล้วผมก็เปิดประตูห้องหัวใจผม
แต่ผมพบว่าห้องว่างเปล่าจริงจริง
ไม่มีเธออยู่ในห้องจริงจริง
เธอหายไปไหน
ผมพยายามสำรวจ
มองไปยังทุกทุกจุดของห้อง
ผมขยับดูด้านหลังตู้หนังสือ
เผื่อเธอแอบหลบหลังตู้หนังสือ
แล้วผมก้มใต้โต๊ะเขียนหนังสือ
ก็ไม่พบร่องรอยของเธอเลย
- - - -
อ้าห์..ผมพบแล้ว
หน้าต่าง หน้าต่างบานหนึ่ง
ของห้องหัวใจผมแง้มอยู่
ใครกันมาเปิดหน้าต่างแล้วไม่ยอมปิด
ปกติถ้าเป็นเธอเปิดเธอจะปิดมันทุกครั้งที่ค่ำลง
หรือว่า....
หรือว่าเธอแอบหนีออกจากห้องหัวใจผม
ทางหน้าต่างบานนั้นจริงจริง
แล้วนี่..ผมจะไปตามเธอได้ที่ไหน???