19 พฤษภาคม 2547 14:38 น.
ปุถุซน
บนถนนสายหนึ่ง
ที่ทอดยาวไกล
จนมิอาจล่วงรู้ว่า
เริ่มต้นและสิ้นสุดที่ใด
ระหว่างความฝัน
กับความหลับใหล
ระหว่างความตาย
กับการมีชีวิต
ระหว่างความมืด
กับความสว่าง
มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม
ล้วนมีทางเดินเป็นของตนเอง
เป็นมรรคาที่นำพาชะตาตน
สำหรับผู้ชาญฉลาดแล้ว
เขาจะพยายามกำหนดชะตา
ด้วยสองมือของเขาเอง
แต่ผู้ฉลาดน้อยกว่ามักปล่อยให้
สิ่งอื่นมาขีดชะตาของเขา...
และมักเรียกมันว่าชะตากรรม
ส่วนนักเดินทางที่ฉลาดกว่านั้น
ชอบที่จะร่อนเร่โดยไร้จุดหมาย
แต่มิได้หมายความว่าไร้ทิศทาง
เพียงแต่ทุกทิศทางล้วนเป็นเป้าหมาย!
15 พฤษภาคม 2547 13:03 น.
ปุถุซน
กาแฟหนึ่งถ้วย
กับกล้วยหอมสองลูก
กาแฟเพื่อสุขภาพ
กล้วยหอมไว้แก้ง่วง
คาเฟอีนในกล้วย
จะช่วยกระตุ้น
ต่อมประสาท
ให้ตื่นตัว
โปแทสเซียมในกาแฟ
จะช่วยป้องกันตะคริว
นักเทนนิสจึงชอบดื่ม
กาแฟ
นักเขียนจึงชอบกิน
กล้วยหอม
ฉันกินกล้วยหอม
และดื่มกาแฟ
เพราะฉันเพิ่งตื่น
จากการหลับใหล
ถ้าฉันเขียนอะไรผิดผิด
ก็เพราะคาเฟอีนยังไม่ออกฤทธิ์
แต่โปแทสเซียมพล่านตามนิ้วมือฉันแล้ว
14 พฤษภาคม 2547 13:23 น.
ปุถุซน
ณ ที่เธอขว้าง
ฉันลงไป
กระพืมคลื่นก่อเกิด
ห้วงสงบเงียบสงัด
ก็มาเยือน...
8 พฤษภาคม 2547 14:11 น.
ปุถุซน
ต่อมา ตอนบ่าย
ใกล้เวลาตะวันโยก
ร้องเท้าบู๊ตที่ลุยไป
รอบอาณาบริเวณ
เขตอภัยทาน
เสียงออกคำสั่งที่แหบห้าว
ช่วยตรวจดูทุกศพ
ว่ายังมีลมหายใจ
อีกหรือเปล่า
ไม่มีอาณาจักรใดหรอก
ฟัก
ที่เสียงโห่ร้องของฝูงชน
จะเป็นเกราะกำบังชีวิต
ฤ จะหยุดวิถีกระสุนไปได้
29 เมษายน 2547 11:09 น.
ปุถุซน
ประวัติศาสตร์จารึกไว้
ความน่ากลัวเกิดขึ้นได้เสมอ
การฆ่าห้ำหั่นกันด้วยนามของเหตุผล
ฉุดกระชากพรากวิญญาณจากชีวิต
สงครามเล็กและใหญ่จึงเกิดขึ้นได้เสมอ
เพียงแค่สะดุดต้นหญ้าแห่งเขตแดน
ธงรบก็ถูกชักขึ้น
ในนามของกวีผู้ไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
ฉันอยากเขียนบทกวีไว้สักบท
แต่มันล้วนเป็นความรู้สึก
อาจเป็นเพียงบันทึกทางประวัติศาสตร์
ยุคที่มนุษยชาติมีอารยธรรมรุ่งเรือง
และพากันออกจากถ้ำมาสู่เมือง
แล้วอวดอ้างว่ามีวัฒนธรรม
มนุษย์เราอาจฆ่ากัน
ด้วยเหตุผลหลายหลายอย่าง
ซึ่งก็น่ากลัวมากพอแล้ว
แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า
คือการถูกทำให้เชื่อ
ว่าการฆ่านั้น
เป็นเรื่องที่ถูกต้องและชอบธรรม
และก็ปล่อยให้ใครสักคนตัดสินใจ
ว่าใครที่ควรจะฆ่าและถูกฆ่า
๒๘ เมษายน ๒๕๔๗
ป.ล.แด่โศกนาฏกรรมของสรรพชีวิตที่ถูกพรากวิญญาณด้วยอยุติธรรม