9 ตุลาคม 2542 09:42 น.
ปีกฟ้า
คลื่นซัดสาดกลาดกระเซ็นเย็นชุ่มชื้น
แสนสดชื่นยืนบนหาดสะอาดขาว
แสงทองส่องกระทบน้ำระยับพราว
ยามรุ่งเช้าเห็นนางนวลออกโผบิน
มองเรือใบแล่นไปมาในน่านน้ำ
ฟ้าสีครามดวงตะวันกับโขดหิน
ลมพัดโชยโบยสะบัดเป็นอาจิณ
หอบเอากลิ่นกุ้งหอยปลาน่ารับทาน
แว่วยินเสียงสำเนียงเพลงบรรเลงเพราะ
จากน้ำเซาะจึงขยับปากขับขาน
ให้ครื้นเครงเพลงกล่อมโลกสุขสำราญ
แทรกประสานคลุกเคล้าเข้าหัวใจ
ไม่นานนักเสียงเพลงแผ่วจางหาย
ดวงตะวันยิ้มทักทายฟ้าสวยใส
ความอยากได้เกิดตรงกลางระหว่างใจ
อยากจะให้ท้องทะเลอยู่นิรันดร์...
9 ตุลาคม 2542 09:37 น.
ปีกฟ้า
ฟ้าฟากฟ้าคงเหลือฟ้าครอบคลุมอยู่
น้ำหนองน้ำตามคลองคูดูเกือบใส
ดินทรายดินก็เกือบสูญตระกลูไป
ไม้ต้นไม้เกือบไม่ให้หายใจกัน
ทุกทุกอย่างเกือบไม่มีบอกมีอยู่
เพียงให้รู้แค่ว่ามีไม่ใช่ฝัน
แต่เสียหายกลายไปไม่สำคัญ
คงดื้อรั้นไม่ใส่ใจไม่เหลียวแล
ก็จงอยู่ให้พอใจโลกใบนี้
กับสิ่งที่ถูกละเลยไม่แยแส
แต่วันใดหากหมองหม่นจนอ่อนแอ
เกิดพ่ายแพ้สิ่งแวดล้อมจนตรอมใจ
ก็จงอย่าว่ากล่าวไปโทษใครเขา
มันเหมือนเงาติดตามมาน่าหวั่นไหว
ทุกทุกอย่างเมื่อสร้างมาต้องรับไป
เก็บเอาไว้ความพอใจที่เคยมี...
9 ตุลาคม 2542 08:52 น.
ปีกฟ้า
หยาดหยดน้ำโปรยปรายมาจากฟ้ากว้าง
กลบเลือนลางพรางตะวันอันเฉิดฉาย
แผ่นดินชุ่มโอบอุ้มน้ำตามดินทราย
มวลแมกไม้คลายเร้าร้อนตอนฝนพรำ
จากป่าเหลืองแปรเปลี่ยนมาเป็นป่าเขียว
เกิดกลมเกลียวเริ่มสมดุลจากบอบช้ำ
พลิกฝันฟื้นคืนเรื่องราวคราวกระทำ
ชื้นชื่นฉ่ำธรรมชาติวาดคืนมา
แต่สายฝนเพียงเสี้ยวหนึ่งซึ่งโปรยปราย
คงซึมทรายแทรกดินซ่านผ่านหินผา
แล้วระเหยเหือดแห้งน้ำตามเวลา
เกิดคุณค่าพริบตาเดียวก็หายไป
แม้ไม่อาจบังคับฟ้าว่ากล่าวฝน
ให้ร่วงหล่นตกบ่อยตามความอยากได้
แต่สามารถขบครุ่นคิดว่าจิตใจ
อย่าตัดไม้ทำลายป่ากว่านี้เลย...
9 ตุลาคม 2542 08:47 น.
ปีกฟ้า
เคยเศร้าหมองร้องไห้ไร้ความหวัง
หมดกำลังความตั้งใจจะใฝ่ฝัน
เหนื่อยอ่อนล้าเกินกว่าจะฝ่าฟัน
รอสักวันให้ใจฟื้นพลัง
เมื่อตะวันผันผ่านสู่น่านฟ้า
เบิกดวงตารอยยิ้มและความหวัง
เริ่มชีวิตตั้งต้นใหม่ใส่กำลัง
ไม่หยุดยั้งความฝันใฝ่ให้จางลง
เรื่องราวร้ายเคยกรายย่างผ่านทางมา
ความเหนื่อยล้าจะทำลายกลายเป็นผง
ด้วยร่างกายกับจิตใจยังยืนยง
ก้าวมั่นคงพร้อมพบพานสิ่งดีดี
ความเลวร้ายจะกลายกลับรับวันใหม่
ความฝันใฝ่ที่รอคอยไม่ถอยหนี
สู้เพื่อฝันด้วยเรี่ยวแรงเท่าที่มี
เพื่อพรุ่งนี้ที่จะดีกว่าวันวาน...
9 ตุลาคม 2542 08:42 น.
ปีกฟ้า
บนเส้นทางกว้างไกลในชีวิต
ที่เคยผิดพลาดมาก็หลายหน
ก้าวพลั้งไปเจ็บปวดจำต้องทน
หลีกไม่พ้นจนผ่านและผันไป
ทุกคนรู้ชีวิตต้องต่อสู้
ทุกคนรู้เลือกเกิดกันไม่ได้
ความเจ็บช้ำน้ำตาอยู่ในใจ
ถึงอย่างไรคงต้องสู้จนชีพวาย
หนทางนี้มิได้โรยกลีบกุหลาบ
เป็นพื้นราบปนขุรขระหลุมหลากหลาย
ให้คนเดินผันผ่านไปมากมาย
ตะวันฉายส่องมาท้าตัวเรา
โลกนี้ย่อมมีสิ่งที่สมหวัง
สร้างรอยยิ้มเป็นกำลังไม่ให้เฉา
เช่นเดียวกันความผิดหวังก็ไม่เบา
คงโศกเศร้าบนทางเดินของบางคน
เพราะชีวิตคือชีวิตอาจผิดพลาด
หากสามารถทนสู้ไปทุกแห่งหน
จักไม่เกิดทางตันจนอับจน
หลุดรอดพ้นเรื่องราวที่รุมมา
แล้วสักวันฟากฟ้าจะเปิดกว้าง
ส่องเห็นทางยาวไกลไร้ปัญหา
แม้วันใดพายุร้ายย่างกรายมา
ก็รู้ว่าสักวันจะผ่านไป...