8 กรกฎาคม 2546 13:30 น.
ปีกนางฟ้า
..........................................
เพียงภมรร่อนลมดมพฤกษา
ด้วยยั่วพาให้ต้องตาน่าไหวหวั่น
เริงจริตจก้านแกว่งแต้มแต่งพลัน
ชวนใฝ่ฝันให้ใคร่รักสมัครใจ
มิกล้าดมดอมดอกบินออกห่าง
ด้วยกลัวพลางนางซ่อนให้อ่อนไหว
ได้แต่ชมในไอแดดที่แผดใบ
ได้ลูบไล้ใบพฤกษ์มินึกเกรง
แล้วบุบผาก็อ้าแย้มแง้มเกสร
หมู่ภมรก็ร่อนดมมิข่มเหง
เพราะดอกงามอร่ามแท้แพ้ตัวเอง
จึ่งร่อนเล็งเพื่อเสพสู่หมู่ไม้งาม
เพราะแต้มแต่งกลีบใบไว้หลายสี
ภุมรีจึงหลงไหลแม้ใบหนาม
สะบัดเร่า เย้ายวน ในทุกยาม
จึงหลงตามงามพฤกษ์ไม่นึกกลัว
ครั้นได้ลิ้มชิ้มชมดมดอมดอก
เหมือนถูกหลอกให้หลงไม่โงหัว
จึงติดป่วงบ่วงรัดมัดมิดตัว
ภมรมัวแต่เพลินเสพจึงเจ็บจม
เหลือไว้เพียงไม้ใบกับไอแดด
ภมรแปลบแสบสุมในสุขสม
เมื่อพฤกษาที่เคยอ้ามาหุบอม
ภมรจมเพราะลมยั่ว..หลงมัวเมา
...................................
7 กรกฎาคม 2546 10:10 น.
ปีกนางฟ้า
......................................................................
คำพูดแสนสวย..
แต่แฝงไว้ด้วย..การจ้องทำร้าย
สายตา..ส่งมาเหมือนห่วงใย
แต่แฝงไว้..ด้วยหัวใจแสนระยำ
ผมรักคุณ..
เป็นคำพูดจากริมฝีปากอุ่น.ซ้ำๆ
พูดได้..ไม่อายปาก..เพราะอยากทำ
อยากให้ใครต่อใครชอกช้ำ..จากคำ
ผมรักคุณ
ฉันขอแช่งสาป
ให้บาปคืนกลับ..ไม่เกื้อหนุน
ขอสวรรค์ชั้นฟ้า..อย่าการุณย์
ตกนรกเป็นจุล..ในพริบตา
ให้สมกับหัวใจแสนชั่ว
เกลือกกลั้วมั่วทรามต่ำช้า
อย่าหวังใครเขาเมตตา
กับใจบ้า..ที่เข่นฆ่า..หัวใจใคร
....................................................................................
ขออภัย..ถ้าหากคำที่ข้าพเจ้าใช้
จะแรงไป..หรือไม่สมควร
เป็นเพียงบทกลอน
ไม่คิดจะบั่นทอน..ผู้ใด
..........................................
6 กรกฎาคม 2546 14:50 น.
ปีกนางฟ้า
.........................................................
แม้สองตาไม่อาจล่วงจ้วงความคิด
ในหนึ่งมิตรว่าจิตคิดการณ์สิ่งไหน
ประหนึ่งดูเหมือนจะดี-มีน้ำใจ
เหตุไฉน..มือไพล่หลัง..หวังจะฟัน
คิดจะฆ่า..ต่อหน้า..มิทำได้
หันหลังให้..เมื่อไร..คือห้ำหั่น
เมื่อต่อหน้า งามวาจา สารพัน
พอหันหลัง เงื้อดาบฟัน บั่นน้ำใจ
คิดว่าใคร เขาจะเง่า ขลาดเขลาคิด
คิดว่าจิต กูสิแน่..กว่าใคร-ที่ไหน
คิดว่าแสร้ง แกล้งทำดี มีน้ำใจ
มิตรจักได้ นิ่งนอนไซร้ ไม่ระวัง
ระวังเถิด ดาบที่ยื่น คืนสนอง
น้ำตานอง เพราะมิ่งมิตร คิดผิดหวัง
เมื่อเขารู้ ดูสันดาน พาลเกลียดชัง
กลายเป็นคน น่าระวัง พังตัวเอง
........................................................
4 กรกฎาคม 2546 09:40 น.
ปีกนางฟ้า
.....................
ความรู้สึก..เหมือนถูกตบหน้า..
กับคำว่า..ผมยังลืมเค้าไม่ได้
ตลกนะ..เหมือนคำแก้ตัวง่ายๆ ของผู้ชาย
ที่รักผู้หญิงทั้งโลกได้..พร้อมๆกัน
เธอบอก..เค้าก็เคยเป็นคนสำคัญ
สำหรับผม..ลืมใครสักคนนั้น..ต้องใช้เวลา
ที่ยังคุย..ยังห่วงหา..เพราะว่า..ต้องรอเวลา
เพื่อสักวัน..จะลืมได้ว่า..รักเค้าทั้งใจ
เธอจะลืมเค้า..อย่างไร
เมื่อในใจเธอโหยไห้..อยู่อย่างนี้
จะไม่วอน...จะไม่ขอ..เพราะพอจะรู้ดี
ว่าคำที่เธอจะพูดต่อจากนี้..คืออะไร
ผม.ก็รักคุณใจอุ่นๆ อยากมีคุณอยู่ใกล้
กับเค้า..ผมแค่สงสาร..แต่ไม่คิดอะไร
แค่..ห่วงใย..คนเคยชิดใกล้..คนนึง
แล้วฉันล่ะ..ตอนนี้อยู่ตรงไหน
----------------------------------------
คุณก็ยังอยู่ข้างกายผม..ตอนนี้
----------------------------------------
แต่เค้า..อยู่ในใจคุณใช่ไหม..คนดี
ฉันก็แค่คนข้างกาย..ที่เก็บไว้..เผื่อบางที...ไม่มีใคร
คุณนิ่งเงียบ....ต่อคำถาม...
ในทุกโมงยาม..คุณมีเขา..ใช่ไหม
หากไม่ตอบ..ฉันก็คงไม่ว่าอะไร..
เพราะถึงโง่..แต่ก็โตพอ..ที่จะเข้าใจ
กับความโลภมากของผู้ชาย..อย่างคุณ
..........................
2 กรกฎาคม 2546 11:15 น.
ปีกนางฟ้า
............................................................................................
สมมุติว่าถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้าย..
ที่ฉันจะได้มีโอกาสยืนอยู่ใกล้ๆเธอ..ตรงนี้
มีอะไรในใจ..อยากบอกฉันมั๊ย..คนดี
ไม่ต้องกลัวความจริงที่มี....................
จะทำให้ผู้หญิงคนนี้ต้องมีน้ำตา
สมมุติว่าทุกอย่างที่เธอปกปิดไว้
เป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยได้กล้ำกลาย..ถามหา
แต่บังเอิญได้รับรู้เรื่องราวนั้นขึ้นมา
เธอจะกล้าบอกความจริงมั๊ยว่า..
สิ่งที่ฉันรู้มา..มันตรงกับใจ
สมมุติว่าฉันรับได้..
และยินดีจะเดินจากไปนั้บแต่นี้
จะไม่ร่ำร้อง..ให้เธอต้องเลือกหรอก...คนดี
เพราะไม่อยากให้คำขอคำนี้.....
ทำให้เธอคนดี..ไม่สบายใจ.....
สมมุติว่าฉันเข้าใจเธอ
ว่าระหว่างทางที่พบเจอมันทำให้เธอหวั่นไหว
และในขณะที่ฉันเอง..ก็ไม่ได้มีใครในใจ
ต่างคนเลยต่างมีความรู้สึกคว้าไขว่
เพื่อขับไล่ความเหว่ว้าออกไป..
และเพื่อไม่ให้ต้องรู้สึกว่าหัวใจเดียวดาย...
สมมุติว่าทุกอย่างที่ฉันบอก
เป็นความจริงไม่ใช่เรื่องหลอก..ที่อาจทำให้ฉันใจหาย
เป็นเรื่องที่อาจทำให้ฉันต้องปวดร้าว...........เจียนตาย
แต่สัญญาจะไม่ร้องไห้..ให้กับเรื่องราวเลวร้าย..ที่เจอ
ที่นี้พอจะบอกได้รึยัง
ว่าสิ่งที่เธอรับฟัง...มันไม่ใช่แค่เรื่องพร่ำเพ้อ
เรื่องสมมุติต่างๆ...ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเธอ
เป็นเรื่องจริงที่ฉันไม่ควรเพ้อเจ้อ..................
เป็นเรื่องที่ฉันควรรู้ว่าเธอ..แค่พลั้งเผลอ..ไม่ได้ตั้งใจ
.........................................................................................
ความรัก สำหรับข้าพเจ้าแล้ว..
อุปมาก็เปรียบเหมือนการก่อสร้างอาคาร..
เมื่อเริ่มรู้สึกรัก..มันก็คลายกับการตอกเสาเข็ม
เวลาเนิ่นนานเท่าใด..เสาเข็มในใจ..ก็ยิ่งย้ำลึก..ลึก..
ยิ่งไปกว่านั้น..คำหวานที่เฝ้าโรยรายต่อกัน..ก็ยิ่งทำให้
สำเข็มต้นนั้น..ย้ำชัดและหนักหน่วงขึ้นทุกที..ทุกที...
มันคงจะดีกว่า..
ถ้าหากข้าพเจ้ารีบถอนเสาต้นนี้..เมื่อรู้ว่า..เรื่องราวทั้งหมด
เป็นเพียงเรื่องของความพลั้งเผลอ..
ในตอนนี้...มันคงไม่ย้ำลึก..เกินกว่าที่ข้าพเจ้าจะรื้อทิ้ง
อาจจะเจ็บปวด..เมื่อต้องดึงถอนหมุดย้ำใจนี้...แต่ยังดีกว่า
ดีกว่า...ที่จะทิ่มให้ลึกเข้า.....ถึงเวลานั้น..ข้าพเจ้าจะเอาแรง
จากที่ไหน..มาถอนหมุดเสา..ต้นนั้น...
........................