18 พฤษภาคม 2553 20:21 น.

ฉันลืมตาตื่นแค่ครึ่งฝัน

ปาลิน

ถ้าวันนั้นมาถึงอาจซึ้งค่า		
เมื่อดอกไม้โรยราปลิดจากขั้ว		
ลงเรี่ยดินล้มลุกขมุกขมัว		
โดยหวาดกลัวเกรงช้ำย่ำเศษดิน		
		
ภาพเจดีย์สีดำออกคล้ำเขียว		
ตระหง่านเปลี่ยวทายท้ากับผาหิน		
ต้นหูกวางกระรอกแทะแกะเมล็ดกิน		
ค่อยร่วงดินเป็นดวงร่ำมาย่ำราย		
		
ใบไม้กรอบแห้งจึงแล้งร่วง		
อาจถามทวงยื้อยุดถึงจุดหมาย		
เมื่อกาลเวียนถึงวันที่ฉันตาย		
แหลกสลายย่อยใบเพื่อใดกัน		
		
เป็นใบไม้กรอบปรุวัตถุธาตุ		
เป็นอากาศล่องลอยเสี้ยวฝอยฝัน		
เป็นความงามธรรมดาอย่างสามัญ		
เป็นชีวิตแสนสั้นรออันตรธาน		
		
จะจดจำกันไหมถ้าใช้สิทธิ์		
จะผูกมิตรกันไหมกับวัยหวาน		
จะสุขปลื้มดื่มด่ำเป็นตำนาน		
จะผลิบานทอไสวไหมใจนี้		
		
ฉันลืมตาตื่นแค่ครึ่งฝัน		
ท่ามตะวันแดดฉายพรายรังสี		
แล้วหลับตามอดตรงผงธุลี		
ดินผืนนี้อบอุ่นและวุ่นวาย...

ฉันลืมตาตื่นแค่ครึ่งฝัน		
ท่ามพระจันทร์เปล่งทอละออฉาย		
แล้วปิดตาซุกดินซบหินทราย		
เพื่อหนีความเลวร้ายเมื่อสายเกิน				
12 พฤษภาคม 2553 21:23 น.

รอ...ย่าปาน

ปาลิน

บนถนนทอดยาวก้าวที่กล้า		
กลิ่นดอกหญ้าดวงดินโชยกลิ่นแต้ม		
พริ้วลมโบกโยกสะบัดมาซัดแซม		
อร่ามแรมคืนเดือนหงายรอบรายฟ้า		
		
ปาดน้ำค้างคราชื้นในคืนค่ำ		
ละอองฝนหล่นพรำรายร่ำบ่า		
รองเท้าแตะย่ำสาย  ชายชรา		
นั่นเด็กน้อยตรงหน้าหลานย่าปาน		
		
เจ้าทรุดนั่งตากฝนอยู่รำไร		
มืดแล้วหนอทำไมไม่กลับบ้าน?		
เดี๋ยวโจรซุ่มสุมอยู่กลางสะพาน		
ที่ลงข่าวเมื่อวานมาลักไป		
		
ดวงหน้าอ่อนเยาว์เจ้าหันตอบ		
ยิ้มน้อยๆคอยลอบส่งมาให้		
ว่าลุงจ๋าคุณย่าหนูหายไป		
ทั้งมุมนี้มุมไหนหาไม่เจอ		
		
ระหว่างเดินกลับบ้านหนูพานพบ		
ลูกเต่าหลบซุกตัวทั้งหัวเหอ		
มันอาจถามแสงเดือนถึงเพื่อนเกลอ		
โดยค้างเต่อเรี่ยบนถนนทาง		
		
หนูเอื้อมมือไปจับรับลูกเต่า		
แล้วเขย่าเคาะหลังทั้งไชหาง		
ก็นิ่งงันนอนคู้อยู่รางราง		
มิอยากเอาเยี่ยงอย่างเจ้าเต่ามัน		
		
หนูจึงปล่อยมันไปที่ในสระ		
ทิ้งภาระมาให้เป็นของขวัญ		
มองเจ้าเต่าเผื่อพร่ำคำจำนรรจ์		
จะได้รู้เท่าทันคิดการใด		
		
ก็ได้เห็นมันเหยียดแขนและขา		
เผยดวงหน้าคุดคู้อยู่ไหวไหว		
ตัวเจ้ามีสี่ขาแหวกว่ายไป		
มองจนเจ้าหายไปลับสายตา		
		
"มืดแล้วหนอทำไมไม่กลับบ้าน"		
แล้วลุงเห็นย่าปานไหมเจ้าขา?		
หนูอยากรู้ลุงไปทำอะไรมา		
จึงได้ออกจากชายคามาเหมือนกัน		
		
หรือจะไปชมการแสดงแสงและสี		
บนเวทีที่ยายสายเค้าหมายมั่น		
ดูลิเกเห่ค่ำประจำวัน		
ที่เค้าชอบประชันกันค่อนคืน		
		
ลุงไม่ดูลิเกแล้วหลานเอ๋ย		
แค่คุ้นเคยกับลมในค่อนดื่น		
จึงพาตัวเก้งก้างมาขวางยืน		
ตากน้ำค้างกลางคืนก็เท่านั้น		
		
ไปซะ ลุงจะส่งเจ้ากลับบ้าน		
ป่านนี้ย่าปานอาจรอนั่น		
หากย่าปานกลับช้ามาไม่ทัน		
ลุงขอรับประกันเลี้ยงเจ้าเอง				
5 พฤษภาคม 2553 18:58 น.

เจ้าแสงจันทร์--ตะวันเช้า

ปาลิน

พี่ชาย...		
ยังสุขสบายหรือไม่ในวันนี้		
เราห่างหายลากันจวบวันปี		
ปรารถนาดียังต่อเนื่องเติมเรื่องราว		
		
เกลียวเมฆได้เสกแพร		
ห้อมห่มเหลียวแลกับลมหนาว		
จ่อมอารมณ์ล้มลงกับวงดาว		
พร่างกระพริบวิบวาวใต้ราวฟ้า		
		
จากท้องทุ่งถึงคุ้งธาร		
บทกวีวันวานนั้นบอกว่า		
รอยอ่อนไหวยังเต็มชื้นตื้นดวงตา		
เหมือนในคืนที่ฟ้ายังมีดาว		
		
พราวแสง		
เราอ่อนแรงในหน้ากระดาษขาว		
ราตรีตื่นคืนฝันอันนานยาว		
เรายิ้มรับจันทร์เจ้า-- เจ้าแสงจันทร์		
		
อันอ่อนอุ่น		
ทิ้งรอยหอมละมุนในความฝัน		
หยาดน้ำตาขมขื่นเหมือนตื้นตัน		
กับรอยยิ้มเงียบงันแห่งกลางคืน		
		
ชื่นใจไหม		
เราต่างก็เป็นใคร - เป็นใครอื่น		
ต่างไม่มีทางเทียบ - จะเหยียบยืน		
ต่างไม่มีทางฝืน - ไม่มีทาง		
		
พี่ชาย...		
ยังสุขสบายใช่ไหม  อย่างไรบ้าง?		
หากค่ำนี้ดาวเกลื่อนจะเลือนราง		
หยาดน้ำค้างสางรุ่งคงฟุ้ง...คอย		
		
เพลงขลุ่ยผิว		
สายลมปลิวทิ้งทวนหวนละห้อย		
แห่งคืนวันของจันทร์เจ้าของดาวลอย		
ค่อยรายร้อยทยอยล้มลงถมทับ		
		
แว่วเสียงพี่...
คอยเห่กล่อมให้ฝันดียามนอนหลับ		
โอละเห่เปลไกวใครล่วงลับ		
หายไปกับแสงวัน -- ตะวันเช้า				
2 พฤษภาคม 2553 23:33 น.

สายลมสีขาว

ปาลิน

ฝากดาวห่มลมไหวพัดไกวหน่อย		
กระพริบพร้อยแต้มตาคู่โชนฝัน		
ฝากส่งข่าวลมบางกระจ่างจันทร์		
ใต้ขอบฟ้ากางกั้นวันและคืน		
		
ริมระเบียงเสียงลมคอยบ่มร่าย		
ทิ้งลวดลายเลาะเล็มจนเต็มตื่น		
ท้องถนนหนทางระหว่างยืน		
เราเก็บกลืนเสียงร้องทำนองใด		
		
อาจมีเสียงสะอื้นค่ำคืนนี้		
ในจังหวะดนตรีที่พริ้วไหว		
ผิวเพลงแผ่วเนียนกรุ่นละมุนละไม		
อาจล้อมใจห่วงหาให้อาวรณ์		
		
ซับอารมณ์ลึกซ้อนเข้าซอนซับ		
โดยยิ้มรับเศร้าโศกแห่งโลกหลอน		
โดยคำพ้อไหวติงการวิงวอน		
บนฟูกหมอนใบโตกับโมบาย		
		
ฟังเสียง กรุ๊งกริ๊ง ไหวติงรับ		
มือเราจับยกวางอยู่ข้างสาย		
เปลือกหอยร้อยเคียงอยู่เรียงราย		
ถึงเส้นเอ็นสุดท้ายของสายร้อย		
		
มีเวลาแสนหวานนานแค่ไหน		
จะทาบทามดวงใจนี้สักหน่อย		
ถามว่าเป็นอะไรถึงใจลอย		
และเงียบเหงาเศร้าสร้อยจนป่านนี้		
		
ดูแววตาเพ้อฝันหวั่นสะทก		
เป็นลูกนกโผบินผิดถิ่นที่		
เกรงจะผ่านเหน็บหนาวอีกยาวปี		
กว่าจะผ่านวันนี้ไปอีกคืน		
		
เถิดดวงดาว..ถ้าผ่านมา		
ช่วยยิ้มให้คืนอ่อนล้ามีแรงฝืน		
ช่วยเปล่งแสงร้าวช้ำให้กล้ำกลืน		
ช่วยหยิบยื่นผ้าห่มของลมดาว		
		
เพื่อว่าจะลอยใจเสรี		
ให้น้ำค้างค่ำนี้ไม่เหน็บหนาว		
ลืมวันคืนแน่นเนืองแห่งเรื่องราว		
ท่ามสายลมสีขาว...จากดาวไพร				
29 เมษายน 2553 19:09 น.

ถึงแม่...

ปาลิน

ถึงแม่...		
วันนี้ลูกอ่อนแอเกินแก้ไข		
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอยู่ร่ำไร		
นอนซมเพราะไข้ใจไร้หยูกยา		
		
อยากกลับบ้าน		
วันที่ลูกรอมานานเป็นหนักหนา		
อยากหนุนตักเหมือนเช่นเคยเป็นมา		
แล้วกระซิบบอกแม่ว่า "ลูกคิดถึง"		
		
อยากออดอ้อน		
ให้แม่คอยพร่ำสอนอีกครั้งหนึ่ง		
กับทุกความสับสนและอลอึง		
ให้แม่คอยฉุดดึงรั้งเอาไว้		
		
อุ่นอ้อมแขน		
อยากสบตาทดแทนความอ่อนไหว		
ที่เคยซาบเคยซึ้งกับหนึ่งใคร		
วันนี้ลูกวางดวงใจฝากแม่แล้ว		
		
ถึงแม่...		
วันนี้ความท้อแท้ยังผ่าวแผ่ว		
ในธารคว้างลอยเรื่อดั่งเรือแจว		
เพียงเสียงแว่วคนคุ้นก็อุ่นเกิน		
		
อยากบอกแม่...		
ว่าวันนี้เห็นแต่ความห่างเหิน		
ปฏิทิน นาฬิกา..เวลาเดิน		
นั้นยาวนานเหลือเกิน กับการรอ.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาลิน
Lovings  ปาลิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปาลิน