27 มีนาคม 2554 08:48 น.
ปาลิน
ในสายธารเวิ้งทาบระนาบทอด
เรือใบไม้นิ่งจอดเริ่มวนไหว
สุดแต่ลมเห่ซัดจะพัดไป
สู่ทิศหนึ่งทิศใดในท้องธาร
เป็นคืนเด่นเพ็ญจันทร์กับฝันร้าว
เรือใบไม้เกลื่อนหาวร่วงกราวหว่าน
ถูกสายลมชำแรกจนแหลกลาญ
ผ่านม่านหมอกนอกชานแต้มลานตา
เฝ้าค้นหาท่วงทำนองจากฟองคลื่น
หวังหยิบยื่นสัจธรรมอันล้ำค่า
จากสิ่งซึ่งพานพบประสบมา
ก่อนเสียงเพลงจะซาและล้าโรย
เพื่อนเอ๋ย...เพื่อนรัก
ตรงที่เธอนิ่งพักอาจหิวโหย
ใต้ลั่นทมร่มรื่นฝนรื้นโปรย
เกรงจะโชยไข้พิษมาริดรอน
เมื่อแหงนมองเมฆขลิบฟ้าลิบโล่ง
ก็หวิวโหวงเหลือใจยิ่งไหวอ่อน
มันรวดร้าวคราวพรากคราวจากจร
ให้นึกย้อนทวนทบไม่ลบเลือน
จะเหลือใครล่ะเพื่อนยาก...ต่อจากนี้
ใครที่เคยวิ่งไล่คงไม่เหมือน....
สนามหญ้าคงเปลี่ยวเหงาเศร้าสะเทือน
ไปถึงดาวถึงเดือนอันเลื่อนลอย
เรือใบไม้ลั่นทมคงจมคลื่น
เหมือนที่เธอไม่ตื่นแม้ดื่นคล้อย
จากที่เคยเงยคอมารอคอย
คงเหลือเพียงร่องรอยในวารวัน
23 กุมภาพันธ์ 2554 03:08 น.
ปาลิน
หรือว่าฟ้าลงทัณฑ์ฝันบันดาล
ภาพหวานๆก็เหมือนจะเลือนหาย
จากผู้ที่มีรักมาทักทาย
ก็กลับกลายเป็นรักร้างลงกลางคัน
หรือไม่เคยมีรักแท้ตั้งแต่ต้น
จึงทิ้งความสับสนให้เสพสันต์
มธุรสแห่งถ้อยร้อยรำพัน
ก็ไม่อาจเชื่อมันจนวันนี้
หรือเพราะคนมีรักนั้นมักง่าย
จึงเดียวดายทุกข์ทนแทบล้นปรี่
ขณะรอคอยฟ้ามาปราณี
กลับโบยตีบีฑาจนปราชัย
หรือเราต่างติดหล่มพรหมลิขิต
ที่ปกปิดความแชเชือนทุกเงื่อนไข
สิงอยู่ในความว่างกว้างและไกล
จนไม่อาจเข้าใจอะไรจริง
หรือเพราะความชำรุดคอยฉุดรั้ง
ให้พ่ายพังร้าวรุกไปทุกสิ่ง
แม้แต่การมีรักเพื่อพักพิง
กลับแอบอิงในสิ่งที่ไม่จีรัง
.....................................................
ฉันเลือกเธอแล้วนะ...ฉันเลือกเธอ
เก็บอยู่ในฝันละเมอผู้เพ้อคลั่ง
ที่สะท้อนสะเทือนไหวในภวังค์
พร้อมน้ำตาที่รินหลั่งอีกครั้งแล้ว !
19 กุมภาพันธ์ 2554 21:35 น.
ปาลิน
บนผืนดินแผ่นเดิมนั้นเริ่มหม่น
ค้นเข้าในตัวตนก็ว่างเปล่า
มันหมดไฟหมดฝันจะกลั่นเกลา
ให้พื้นที่สีเทาถูกเต็มเติม
ฉันเลื่อนโล้เหมือนเรือไม่รู้ทิศ
ในวังวนชีวิตผิดแต่เริ่ม
ประภาคารยิ่งคว้างร้างกว่าเดิม
เมื่อไม่เคยฮึกเหิมไปหันมอง
" นานมาแล้ว...ที่ฉันเคยฝันถึง
ม้ามีปีกเผ่นผึงมาถึงห้อง
และฟากฟ้าสีเหลืองก็เรืองรอง
ด้วยแสงทองของหล้ารับตาวัน
ชั่วพริบตาภาพเหมือนก็เลือนหาย
ดั่งความสุขล้มตายทำลายขวัญ
ปีกเสรีแห่งลมรื่นอันตื้นตัน
ก็มีอันจมปลักและหักพัง "
ใช้ไปเถิดชีวิต...ชนิดนี้
ผ่านเดือนปีนิยามแห่งความหลัง
อย่ากลัวเลยถ้าคลื่นเห่ประเดประดัง
คอยรับฟังเถิดเสียงคลื่นอีกหมื่นเกลียว
10 กุมภาพันธ์ 2554 01:21 น.
ปาลิน
วันที่ดวงอาทิตย์ไม่ทำงาน
อาจไม่เห็นดอกไม้บานในรุ่งเช้า
เบื้องบนคงคลุมคลี่ฟ้าสีเทา
โต๊ะไม้ตัวเก่าคงหมองรอย
ทิ้งให้ผู้ติดหล่มยังจมปลัก
กลิ่นกาแฟ ความรัก สักหนึ่งน้อย
คงทิ้งคราบห่วงหาผู้ล้าคอย
กับความเหงาเศร้าหงอยอยู่เดียวดาย
ถึงฝั่งตะวันตื่นอันรื่นรมย์
รู้ไหมสายลมก็สูญหาย
ปลิดปลิวไปพร้อมฝันอันร่วงราย
ย่างกรายในม่านเมฆที่เสกแพร
มิทันได้สูดกลิ่นของท้องฟ้า
ก็ลับตารานใจให้เป็นแผล
เหมือนใครหนึ่งคนเดียวไม่เหลียวแล
จึงนำความพ่ายแพ้มาแก่ใจ
วันที่ดวงอาทิตย์ไม่ทำงาน
จะเลือนรอยฟุ้งซ่านเพื่อการใหม่
ไว้ต้อนรับกับการที่ไม่มีใคร
ในวันที่ ด ว ง ใ จ ฉั น ไ ร้ รั ก .
11 มกราคม 2554 20:37 น.
ปาลิน
จะให้ฉันยอมเป็นผู้พ่ายแพ้
เธอคิดว่าเธอแน่สักแค่ไหน
ที่ถือสิทธิ์ฉุดรื้อมายื้อใจ
และอ่อนไหวครวญคร่ำด้วยน้ำตา
ฉันไม่ใช่รายทางเธอย่างเท้า
แม้ทุกข์เศร้าสูญสิ้นเจียนบิ่นบ้า
เจ็บปวดไหมกับคำว่าอำลา
ฉันสามารถด้านชาต่อหน้าเธอ
หลีกไปให้พ้นเถิดคนถ่อย
เกรงว่าคนใจน้อยจะคอยเก้อ
ฉันไม่มีเวลามาบำเรอ
จงพล่านเพ้อฟุ้งอยู่แต่ผู้เดียว
วันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่มีวัน
ทั้งเธอทั้งฉันจะข้องเกี่ยว
ฉันไม่อาจรักษาหรือยาเยียว
เหมือนยาเม็ดที่เดี๋ยวเดียวเธอเคี้ยวกลืน
จะให้ฉันยอมเป็นผู้พ่ายแพ้
ยามที่เธอรังแกสะอึกสะอื้น
รู้ไว้เถิดความจีรังไม่ยั่งยืน
เหมือนที่เธอเป็นอื่นถื่นถมไป