20 มิถุนายน 2546 21:02 น.
ปากกาเวทมนตร์
ทุกคราวครั้งที่หยิบจดหมายเก่า ๆ
ฉันเผลอหยิบขึ้นมาอ่านตอนเหงา ๆ........กลับร้องไห้
สิ่งที่เธอเขียนคือบอกลาเลิกร้องกันไป
นานเท่าไรฉันเหลือบมองข้อความข้างบน
นานแล้วนะ
ที่เธอทิ้งฉันไป...ให้ฉันไปพ้นพ้น
ทำราวกับว่าฉันไม่ได้เป็นคน
ฉันกลับต้องมานั่งทน..............อ่านฆ่าเวลา
ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าเธออีก...แม้เพียงครั้ง
แต่ฉันยังรักเธอ.....พร่ำเพ้อห่วงหา
เธอจากไปไม่มีแม้รอยน้ำตา
ไม่มีวันกลับมา......แม้ให้เวลาฉันง้องอน
หยิบเศษกระดาษแผ่นนี้มาอีกครั้ง
ได้แต่หวังว่าเธอจะได้ยินเสียงฉันออดอ้อน
โปรดเถอะ...ให้ฉันฝันถึงเธอบ้างฉันขอวอน
ทุกคราวที่จะนอน....ฉันคิดถึงแต่เธอ
จดหมายเก่าเก่าขาดขาด
ก้อแค่เศษกระกระดาษที่ฉันอ่านอยู่เสมอ
อ่านแล้วร้องไห้คิดถึงแต่หน้าเธอ
ฉันรัก...พร่ำละเมอ......ทุกค่ำคืน
17 มิถุนายน 2546 21:19 น.
ปากกาเวทมนตร์
ในค่ำคืนแห่งความคิดถึง
มีเพียงใครคนหนึ่งในความฝัน
ฝันถึงความรัก ความผูกพัน
ฝันถึงคำมากมายร้อยพันระหว่างเรา
คืนนี้...ช่างโหดร้าย
หรือฉันจะไม่อาจผ่านพ้นไปจากความเหงา
น้ำตา..รินตรงข้างหมอนเบาเบา
และแล้วความอ้างว้างเก่าเก่า ก้อกลับมา
เธอจากไปแล้ว...แสนไกล
ไกลเกินจะรั้งหัวใจกลับมาหา
อีกกี่ความรู้สึกที่เป็นมา
ถูกปล่อยทิ้งค้างคา..ตรงกลางทาง
แอบเจ็บลึกลึก...ตรงหัวใจ
ตรงที่เคยวางเธอไว้เป็นความหวัง
ความรักจากหัวใจไม่เคยจาง
แม้อ้างว้าง..จะเก็บไว้ในใจเดิม
ในค่ำคืนอันมืดมิดมิคิดถึง
ไม่มีใครไร้คนคำนึงที่เฝ้าฝัน
ไม่เคยมีความรัก..ความผูกพัน
พยามลืมคำเพ้อรำพันระหว่างเรา
คืนนี้ช่างโชคดีนัก
ฉันได้พบความรักกับความเหงา
ยิ้มร่า..น้ำตารินเบาเบา
ความอ้างว้างเงียบเหงาเป็นเพื่อนเสมอมา
เธอทิ้งฉันไปแล้ว...ไกลแสนไกล
เธอไม่เคยคิดจะยั้งหัวใจกลับมาหา
ร้อยพันความรู้สึกที่ให้เธอเสมอมา
เธอไม่เคยเห็นค่า...ปล่อยวาง
เจ็บช้ำระทมเหลือเกิน..หัวใจ
ที่เธอเคยให้สัญญาไว้........ฉันไม่เคยทิ้งขว้าง
แต่เธอกลับหนีฉันไปแล้ว............ไปตามทาง
ฉันอ้างว้าง......จะลืม.....จะลืม
14 มิถุนายน 2546 22:05 น.
ปากกาเวทมนตร์
ฉันไม่เคยต้องมานั่งคิดเสียใจแม้แต่น้อย
เพียงแค่คอยนับวันเวลาให้ผันผ่าน
ไม่เคยสนใจเรื่องเวลา แม้ฉันท้อ-ทรมาน
ฉันเป็นแบบนี้ แบบนี้มานาน นานจนไม่จำ
ฉันเป็นเพื่อนกับสิ่งนี้
สิ่งที่ตรึงฉันไว้กับช่วงเวลาที่น่าขำ
อีกไม่นานคงได้อยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้าผู้เพ้อพร่ำ
ได้โปรดรีบทำอย่ารีรอให้ฉันช้ำใจ
ไม่มีสมบัติอะไรดีไปกว่านี้
ไม่มีสิ่งที่ดีในโลกนี้ให้ฉันฝันใฝ่
จะให้ลมหายใจของฉันยืนยาวกว่านี้ไปเพียงไร
ฉันรู้ว่ามันใกล้จะขาดห้วงมานาน
ฉันท้อฉันรอ
เฝ้าแต่ฝันวอนขอให้ท่านกล้าหาญ
ขอแค่พาฉันไป โปรดจงกางปีกรับวิญญาณ
ฉันทรมาน...ทรมานมานาน....มานานเกินพอ
เสียงกระซิบ
หัวใจเจ้าจะไม่กระพริบตามที่ขอ
เจ้าพร้อมแล้วใช่มั้ยข้าให้โอกาสทำใจรอ
มันนานเกินพอที่ฉันรอวันตาย
อย่ารั้งรอฉันขอร้อง
อย่าให้ฉันต้องลงมือทำร้าย
อย่ายั้งความเมตตาแม้ต้องทำให้ฉันตาย
เพราะสุดท้าย...........อีกไม่กี่คืน
14 มิถุนายน 2546 22:03 น.
ปากกาเวทมนตร์
ฉันไม่เคยต้องมานั่งคิดเสียใจแม้แต่น้อย
เพียงแค่คอยนับวันเวลาให้ผันผ่าน
ไม่เคยสนใจเรื่องเวลา แม้ฉันท้อ-ทรมาน
ฉันเป็นแบบนี้ แบบนี้มานาน นานจนไม่จำ
ฉันเป็นเพื่อนกับสิ่งนี้
สิ่งที่ตรึงฉันไว้กับช่วงเวลาที่น่าขำ
อีกไม่นานคงได้อยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้าผู้เพ้อพร่ำ
ได้โปรดรีบทำอย่ารีรอให้ฉันช้ำใจ
30 พฤษภาคม 2546 02:19 น.
ปากกาเวทมนตร์
มีใครเคยอย่างฉันบ้างไหม
ที่ละล่องไปในห้วง สรวงสวรรค์
คราใดที่หลับตา ก้อเห็นภาพมายานับร้อยนับพัน
แต่หนึ่งเดียวในความฝันนั่น คือที่แห่งหนนั้นในจิตใจ
เงียบ..........ไร้สำเนียง
เงียบจนได้ยินเสียงของความเงียบว่าช่างสดใส
สายลมพัดผ่าน หอมหวานกลิ่นอุ่นไอ
แว่วยินเสียงหรีดหรี่งเรไร ยามเช้าทำไมเจ้ายังเสียงดี
ภาพแม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ ทะเล ใบหญ้า
ราวกับเห็นนางฟ้า เทพธิดาออกมาเริงระบำแต่งแต้มแสงสี
งดงามเกินคำขาน รสหวานของลำนำคำกวี
พระเจ้าองค์ใดกัน ทรงปั้นที่นี่
มิอาจมีวจีกล่าวคำพรรณนา
ที่นี่ที่ไหนราวกับว่าเคยได้เห็น
ยะเยียบเย็น หนาวสะท้านให้โหยหา
กี่ร้อยปีแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้กลับมา
หรือต้องคำสัญญา ว่าจะมารอพบใคร
จึงได้มาที่นี่บ่อยครั้ง
จนวันหนึ่งได้พบเธอ แต่เธอกลับหันหลังให้
หันมาทางนี้สักนิด เธอจะมีโทษผิดหรือไร
ฉันอยู่ทางนี้โปรดจงได้ หันกลับมา
เธอคงมีใจดวงเดียวกับฉัน
รู้สึกได้โดยพลัน เพราะผูกพันห่วงหา
ได้ยินเสียงหัวใจของฉันแล้วใช่ไหมจึงได้หันกลับมา
เหมือนต้องมนต์สะกดฉันเห็นหยดน้ำตา
ภาพของเธอกลับเลือนพร่า................
จากม่านน้ำตาของฉันเอง