31 กรกฎาคม 2550 00:35 น.
ปักษาสวรรค์
เธอจ๋าเธอ เธอดีนัก รักแล้วนะ
แล้วเธอหละ รักมั่น กับฉันไหม
ระยะทาง ห่างหลายร้อย กิโลไมล์
แต่หัวใจ สองดวงชิด สนิทกัน
จะรักเธอ ทุกระยะ ขณะจิต
มีแต่คิด- ถึงเธอแน่ แม้ในฝัน
แม้ยากแค้น ทุกข์ท่วม ร่วมฝ่าฟัน
พร้อมด้นดั้น จนกว่าเห็น ถึงเส้นชัย
จะกี่วัน กี่เดือน ที่เคลื่อนผ่าน
ก็ไม่หาญ มาแยกเงา ของเราได้
บนเส้นทาง ของนักฝัน มุ่งมั่นไป
จูงมือไว้ ผลัดกันช่วย ไปด้วยกัน
หากเธอเปลี่ยน ด้วยเวลา พาเธอจาก
หากเธอพราก หนีไกล ไปจากฉัน
ฉันจะไม่ โศกา หรือจาบัลย์
เพราะรักฉัน รักแท้ มอบแด่เธอ.
31 กรกฎาคม 2550 00:21 น.
ปักษาสวรรค์
แสงสีทอง แห่งธรรม งดงามนัก
แสงแห่งรัก ชูเชิด งามเพริศพริ้ง
แสงศรัทธา แห่งมุ่งมั่น นั้นงามจริง
งามสูงยิ่ง แสงแกร่งกล้า ศรัทธาธรรม
พงษ์เผ่าพี่ โดดเด่น เป็นสง่า
เผ่าน้องยา ขอหลอมรวม ไม่เกรงขาม
หลอมดวงใจ สองตระกูล ผุดผ่องงาม
ให้ลือนาม งามทั่วหล้า ฟ้าสีทอง
นานแค่ไหน ใจดวงนี้ ไม่มีหวั่น
กี่กัปป์กัลป์ หนึ่งดวงนี้ ไม่มีสอง
กี่ภพชาติ แสงแห่งรัก ยังเรืองรอง
ฉาบสีทอง ด้วยแรงกล้า ศรัทธาเดียว.
21 กรกฎาคม 2550 12:12 น.
ปักษาสวรรค์
ไม่มีถ้อย ภาษาใด ที่ในโลก
บรรยายโศก แทนใจ ได้แม้นเหมือน
รู้ว่าเจ้า โฉมตรู อยู่ห่างเรือน
มองดูเดือน เคลื่อนยามดึก แสนเดียวดาย
ดาวกระพริบ เคยมองงาม เมื่อมีเจ้า
อิงแอบเอา ปรางค์นวล เกษสยาย
ซบแอบอิง สองแขนกอด สนิทกาย
ไหล่ขวาซ้าย เจ้าเคยหนุน เขนยนอน
แม้ไม้พฤกษ์ เคยพริ้วไหว ยามลมต้อง
เสียงเรไร หริ่งร้อง ลั่นสิงขร
หมู่นกไพร เคยขานขับ ลำนำกลอน
ให้เจ้านอน อิงอกอุ่น แอบพี่ยา
ไฉนหนอ ใยจึงเงียบ สงัดนัก
ฤารู้จิต ฉันจักสั่น ขวัญผวา
ด้วยข้างกาย ไม่เห็นเจ้า แม่กานดา
จึงโศกา ไปกับฉัน นั้นหรือไร
เจ้าขวัญพี่ เจ้าคนดี เจ้ายอดรัก
เจ้าประจักษ์ เจ้าแสนรัก เจ้ารู้ไหม
เจ้าจ๋าเจ้า เจ้าคือชีพ เจ้าคือใจ
สุดหทัย สุดคนึง คิดถึงเจ้า...จัง.
19 กรกฎาคม 2550 01:12 น.
ปักษาสวรรค์
กว่าจะได้ ครอบครอง ของสิ่งนี้
เสียสิ่งที่ สุดรัก สุดหวงแหน
เสียทุกสิ่ง ทิ้งทุกอย่าง มาต่างแดน
เพื่อเป็นแฟน ร่วมคู่ อยู่กับคุณ
ทิ้งพ่อแม่ ทิ้งบ้าน ตำนานเก่า
ทิ้งยุ้งข้าว วัวควาย ที่ใต้ถุน
ทิ้งความดี เป็นเสเพล เนรคุณ
ลืมใบบุญ ร่มโพธิ์ ที่โตมา
หันหลังให้ ประเพณี ที่สืบเนื่อง
มาฝันเฟื่อง กับความรัก ในดงป่า
สลัดคราบ ความเป็นคน ดั้นด้นมา
เป็นทาสข้า รับใช้ ให้สามี
เทิดทูนรัก มัวเมา ตาเราบอด
กินเกลือทอด น้ำกระบวย กล้วยเป็นหวี
กว่ารู้สึก สำนึกได้ ก็หลายปี
ลูกสามสี่ ล้อมหน้าหลัง นั่งพุงโร
คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ แต่เก่าก่อน
คอยสั่งสอน แนะนำ ทำโมโห
ประชดประ- ชันวางท่า ว่าข้าโต
พอพ้นโผล่ เหนือน้ำ ก็ย่ามใจ
แม่ว่านิด พ่อว่าหน่อย คอยแต่โกรธ
โมเมโทษ พ่อแม่กัก- ขังตัวไว้
พอได้ท่า หอบผ่อนผ้า มาเสียไกล
กระหยิ่มใจ ว่าได้ดี สามีตน
ใส่เสื้อโหล น้อยค่า นุ่งผ้าถุง
แบกกระบุง หาบดิน กินน้ำฝน
มือไม้ด้าน ส้นแตกดำ ต้องจำทน
จะร้องบ่น ร่ำไห้ ให้ใครฟัง
อยากพาหลาน ไปกราบ ตายายนัก
กลัวถูกผลัก พ่อแม่เมิน เดินหันหลัง
อยากไปขอ ขะมา ยายตาจัง
กลัวไม่ฟัง ไม่ให้ อภัยตน
ลูกสำนึก บุญคุณ ทูลกระหม่อม
แม่ถนอม ลูกอย่างไร ไม่เคยสน
รู้สึกได้ เมื่อลูกมี สามสี่คน
ว่าน้ำมนต์ ที่ขลังแท้...(คือ)...พ่อแม่เอย.
19 กรกฎาคม 2550 00:41 น.
ปักษาสวรรค์
เสี้ยวนาที ห่างเสียง สำเนียงพี่
เสี้ยวนาที ห่างเสียง สำเนียงหวาน
เสี้ยวนาที ที่เราสอง ต้องห่างกัน
เพียงเสี้ยววัน วิปโยค โศกอาดูร
เสี้ยวเวลา นาที ที่ไกลห่าง
แสนอ้างว้าง สุขคลาย มลายสูญ
คิดถึงพี่ ทุกนาที ทวีคูณ
รักเพิ่มพูน ขึ้นทุกเมื่อ มากเหลือเกิน.