22 กุมภาพันธ์ 2556 22:08 น.
ปักษาสวssค์
รอร้อรอวจีที่แสนหวาน มาขับขานเว้าวอนก่อนใครเขา
หนึ่งสองสามผ่านไปก็ไร้เงา สายที่เข้าคือใครที่ไม่คอย
ใครใครรู้คงโกรธและโทษฉัน สู้ประชันส่งใจไม่ให้หงอย
กลับหลงเชื่อรอใครไร้ร่องรอย เป็นการคอยไร้ค่าช่างน่าอาย
เสียงหัวเราะหยอกหยันว่าฉันโง่ แสร้งตาโตยิ้มแต้แต่ใจหาย
หาเหตุผลโด้แย้งตั้งมากมาย หวังเพียงหมายใจนี้ดีกลับคืน
ห้ามความโกรธความเกลียดมาเฉียดใกล้ ห้ามหัวใจระทมห้ามข่มฝืน
ห้ามร้องไห้ชอกช้ำห้ามกล้ำกลืน ห้ามสะอื้นโวยวายอายฟ้าดิน
หากลิขิตขีดเส้นชะตาชี้ ก็พร้อมที่ไม่ให้ใครติฉิน
พร้อมยอมรับหากหวังจะพังพินท์ พร้อมยอมสิ้นปล่อยโซ่ความโง่งม
ลืมตาตื่นจากฝันเสียวันนี้ ก่อนวิถีทุกข์เศร้าเข้าทับถม
เหมือนเด็กไร้เดียงสาหลงคารม หวังขนมลองลิ้นก่อนสิ้นใจ
ไม่ได้โทษโกรธขึงมึนตึงพี่ เวลามีไม่พอหลีกปลีกมาให้
ทั้งเรียนฝึกเหนื่อยนักคงหนักใจ ไม่เป็นไรน้องรู้ดีแค่พี่"ลืม".
** แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็กลายเป็นเรื่อง คนต้นเหตุยังไม่รู้เรื่อง คนทำเรื่องกลายเป็นเรา เวลาผ่านไปก็นึกขำน่าอายนัก ทำไปได้..นึกว่าตัวเองเพิ่งเอ๊าะๆอยู่เรื่อย..ทำให้จิตตกไปตั้งหลายวัน...วันนี้ใจดีแล้วค่ะ ดีกันแล้วด้วย อิอิ..
18 กุมภาพันธ์ 2556 16:53 น.
ปักษาสวssค์
แสงสีทองทาบทาขอบฟ้ากว้าง
มองเลือนลางผ่านม่านน้ำตาไหล
โชคชะตาฟ้าลิขิตผิดอันใด
ดวงหทัยหมองหม่นอับจนทาง
แสงสีทองกลายเป็นสีเทาหม่น
หยดน้ำฝนเป็นกรดรดเรือนร่าง
หวานตาลสดพลันเจื่อนจนเจือจาง
ไร้หนทางก้าวย่ำน้ำตาคลอ
หน้าซบหมอนสะอื้นกลืนความทุกข์
คลำหาสุขซุกซ่อนอยู่ไหนหนอ
คนสิ้นหวังโหยหาตั้งตารอ
เฝ้าวอนขอสุขเพียงเสี้ยวเยียวยาใจ
ขอเพียงพบสุดที่รักสักครั้งหนึ่ง
ขอเพี้ยงครึ่งเสี้ยวนาทีที่สดใส
ขอเพียงหลับตาปิดสนิทใน
ขอเพียงใจได้ทำตามสัญญา
ขอเพียงมีลมหายใจจนได้พบ
ขอเพียงจบด้วยสมมาตรปรารถนา
ขอเพียงได้สวมกอดยอดชีวา
ขอเมตตาฟ้าดินก่อนสิ้นลม.
30 มกราคม 2553 16:42 น.
ปักษาสวssค์
สายลมหนาวเคล้ากลิ่นบุปผากรุ่น
หอมละมุนทั่วแดนแคว้นพฤกษา
น้ำค้างพรหมพร่างพรายไพรพนา
ม่านเมฆาปุยขาวทั่วราวไพร
เห็นไผ่โบกโยกกอล้อลมเล่น
ทิวสนเอนลมริ้วยอดพริ้วไหว
ทั่วไพรพงลมรัดสะบัดใบ
มวลพฤกษ์ไพรไหวเอนล้อเล่นลม
เอกเขนกสบายยามบ่ายคล้อย
เมฆเคลื่อนลอยไล้ผาพาสุขสม
ธรรมชาติสะอาดตาพารื่นรมณ์
น่าชื่นชมธรรมชาติสะอาดใจ
หนุ่มภูผาเย้าหยอกไอหมอกสาว
ปุยเมฆขาวเง้างอนช่างอ่อนไหว
สายลมร่ายเริงร่ามาแต่ไกล
ปักษาไพรกล่อมดงส่งสำเนียง
ตะวันรอนอ่อนแรงแสงเริ่มล้า
ทั่วพนานิ่งรับสดับเสียง
แล้วขับขานประสานกันพร้อมเพรียง
เป็นสำเนียงส่งค่ำคืนสู่ผืนพง.
30 มกราคม 2553 14:04 น.
ปักษาสวssค์
0--0 เพียงประโยคสั้นสั้นเมื่อวันก่อน<
มาสั่นคลอนหลักรักที่ร่วมสร้าง
สองเราฝ่าฝันใฝ่ใกล้ปลายทาง
กลับเลือนลางฟ้าฟาดแทบขาดใจ
0--0 จากเกินร้อยเหลือน้อยกว่าหลักหน่วย
รักไม่ช่วยให้จิตพินิจได้
เพียงถ้อยคำพล่อยพล่อยพาลน้อยใจ
ซึ่งทำให้ศรัทธาเริ่มพร่าเลือน
0--0 เจ็บในอกร้าวระบมแทบล้มทรุด
คมคำพูดเหมือนมีดมากรีดเฉือน
แรงถ้อยคำทำให้ใจสะเทือน
ดวงใจเหมือนถูกเถือเจ็บเหลือเกิน
0--0 เอื้อมมือคว้าดาวรายที่ปลายนิ้ว
พลันลอยลิ่วสูงเยี่ยมเทียมหงษ์เหิร
ความทดท้อดาหน้ามาเผชิญ
ใจยับเยินฝันร้างแทบวางวาย
0--0 ความหวังส่องสว่างกลางใจนี้
พลันริบหรี่เลือนลับจนดับหาย
เวลาผ่านนานเนาช่างเปล่าดาย
ใจสลายเคว้งคว้างไห้ครางครวญ
0--0 เพียงประโยคบางตอนวันก่อนนั้น
ทลายฝันพังยับยากกลับหวน
แม้นย้อนคืนวันวารหวานรัญจวน
จะทบทวน"หลงหัวปักหรือรักเอย".
27 มกราคม 2553 20:57 น.
ปักษาสวssค์
~٥ตีสองผ่านน้องจึงมาถึงบ้าน
เวลาผ่านนานเนิ่นเพลินงานอยู่
พี่ยังรอเวลากลับน้องรับรู้
ใจหดหู่เห็นพี่นอนสะท้อนใจ~
~٥ทีวีเปิดพัดลมเป่านอนเข่าคู้
น้องอดสูใจสั่นกลั้นร้องไห้
ที่รักจ๋าขอโทษโปรดเข้าใจ
ใช่เฉไฉไม่ทำตามสัญญา~
~٥นับไม่ถ้วนจำนวนครั้งที่พลั้งผิด
พี่ไม่คิดใส่ใจไม่ถือสา
พี่ยิ่งดีน้องยิ่งด้อยน้อยราคา
ไม่สมค่าเคียงคู่อยู่ร่วมเคียง~
~٥บรรจงจรดริมฝีปากหน้าผากพี่
ปิดทีวีห่มผ้าให้ไม่ส่งเสียง
ผ่อนพัดลมทรุดร่างข้างขอบเตียง
ถวิลเพียงเสียงขานรับการกลับมา~
~٥กระซิบบอกพี่จ๋าน้องมาแล้ว
เสียงรับแผ่วหวานล้ำคำว่า"จ๋า"
จับมือนุ่มกุมมือแนบแอบอุรา
หลับเถิดหนาดวงใจให้ฝันดี~
~٥น้องขอขับกล่อมพี่ที่ในฝัน
ถักแสงจันทร์ทอสายลมห่มให้พี่
รินน้ำค้างกลางไพรใสรุจี
รอให้พี่จิบดื่มตอนลืมตา~
~٥มีเพียงรักปั่นกรอทอเป็นมุ้ง
กันเหลือบยุงริ้นไรไต่เข้าหา
มีเพียงใจเชื่อมั่นคำสัญญา
เป็นศาสตราคุ้มครองป้องกันภัย.~