3 กรกฎาคม 2549 18:52 น.
ปักษาวายุ
...
เคยมีใครคนหนึ่ง ถามกับตัวผม ว่า "เวลาเศร้า กับ เวลาสุข ชอบฟังเพลงอะไร" เออแฮะ...เข้าใจถาม ตอนนั้นไม่ได้ตอบไป เพราะว่าไม่เคยมานั่งสังเกตุตัวเองซักที ว่าเวลาเศร้าชอบฟังเพลงไหน เวลาสุขชอบฟังเพลงไหน^ ^
อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่เคยเศร้าพร้อมกับสุข ในเวลาเดียวกันมั้งครับ หรือใครเคย?
พอลองมาสังเกตุตัวเองจริงๆ ก็ได้ข้อสรุปออกมาแบบนี้ครับ ( ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ไม่ได้อ้างอิงมาจาก ตำราเล่มไหน อิอิ)
..... อารมณ์ มีความสุข เนี่ย ฟังเพลงไหนมันก็เพราะไปหมดเลยครับ ขนาดเพลงเศร้าคร่ำครวญแทบขาดใจ ยังมีอารมณ์กระดิกนิ้ว(เท้า) ตามไปด้วยเลย
..... อารมณ์ ทุกข์ เศร้า เหงา เนี่ย ฟังเพลงสนุกจังหวะเร็วๆ ยังพอเฉยๆแต่มันกลับไม่เพราะเหมือนที่เคยฟังแฮะ ? แล้วยิ่งถ้าฟังเพลงเศร้าๆ เหงาๆ ด้วยแล้วหล่ะก็ โอย...ทำไมมันบีบหัวใจอย่างนี้ ฟังแล้วแทบจะดิ้นตายอยู่ตรงนั้น ( ใครไม่เป็นอย่างผม อย่าหาว่าผมบ้านะครับ ฮ่าๆ )
แต่เชื่อไหมครับ สำหรับผม มีเพลงอยู่ 2 เพลง ที่อยู่นอกเหนือ อารมณ์ เหล่านี้ ฟังอารมณ์ ไหน ก็เพราะอารมณ์นั้นครับ เพลงแรกก็นี้เลยครับ ..... ฤดูที่แตกต่าง .....ของ บอยด์ โกสิยพงศ์
...ฤดูที่แตกต่าง...
หากเปรียบกับชีวิตของคน
เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่
ก็คงเปรียบได้กับฤดู
คงเป็นฤดูที่แสนสดใส
*** (และ/แต่) ถ้าวันหนึ่งวันไหน
ที่ใจเจ็บทนทุกข์ ดังพายุที่โหมเข้าใส่
บอกกับตัวเองเอาไว้
ความเจ็บต้องมีวันหาย
ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู
อดทนเวลาที่ฝนพรำ
อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง
ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ
ว่ามันคุ้มค่า(แค่ไหนที่เฝ้ารอ)
เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ
จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่น
กับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป ***
อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ
อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย
หากไม่รู้จักเจ็บปวดก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ
..... ไม่รู้ว่าตรงใจใครกันบ้างรึเปล่านะครับ เพลงๆนี้ และ อีกเพลงหนึ่ง ที่ฟังกี่ที ก็...เยส !( ฮ่าๆ ไม่รู้จะหาคำไหน ได้ตรงใจกว่าคำนี้อีกแล้ว ) นั่นคือ เพลง .....ก่อน..... ของ พี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก
...ก่อน...
ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด
ก่อนดอกไม้จะผลิบาน ก่อนความฝันอันแสนหวาน
***ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด
จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน
ก่อนดวงดาวจะเต็มฟ้า ก่อนชีวิตจะรู้คุณค่า
ก่อนสิ้นศรัทธาจากหัวใจ ก่อนที่คนอย่างฉันจะหมดไฟ ***
ทั้งวิญญาณและหัวใจ ให้เธอครอบครอง
ทั้งชีวิตให้สัญญา จะอยู่ จะสู้เพื่อเธอ
ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด
จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน ...
..... แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ มีบ้างรึเปล่าเพลงในดวงใจที่ไม่ว่าฟังอารมณ์ไหน ก็เพราะไม่เปลี่ยนแปลง ^ ^
14 ธันวาคม 2548 18:32 น.
ปักษาวายุ
ทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบผู้ชายดี ๆ
คำถามนี้ไม่ใช่คำถามที่แปลกเมื่อได้ยินได้ฟังหรอก
ผู้ชายหลายคนมักจะตั้งคำถามแบบนี้เสมอ ๆ
ยิ่งเมื่อเห็นผู้หญิงที่ตัวเองชอบไปเลือกคบกับไอ้หนุ่มที่ท่าทางเจ้าชู้
และไม่น่าไว้วางใจสักนิดเดียว แทนที่จะเลือกคบกับตัวเขา..
ถึงแม้ว่าผู้ชายทั้งหลายละทิ้งอคติ..
ที่มองว่าตัวเองดีกว่าชาวบ้านเสมอไป แล้วก็ตาม
แต่คำถามนี้ก็ยังคงไม่หายไปจากโลกง่ายๆ..
เพราะว่าความเข้าใจในความ "ดี"
ที่ผู้หญิงและผู้ชายมองนั้นแตกต่างกันไป...
ผู้ชายมักจะมองว่าผู้ชายที่ดี ที่ผู้หญิงควรจะเลือกคือ
ผู้ชายที่เรียบร้อย ไม่เจ้าชู้ ไม่ยุ่งกับอบายมุข
เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้หญิงพอใจที่จะเลือกเป็นคู่ครอง
ทว่า.. ผู้ชายมองอะไรที่ตื้นเขินเกินไป ในความเป็นจริงแล้ว
ผู้หญิงทุกคนจะให้คำจำกัดความของคำว่า "ดี" คือ
ผู้ชายที่รักเธอจริง และแสดงออกว่าเธอเป็นคนสำคัญ
มีความเป็นผู้นำ รวมทั้งฉลาดพอที่จะต่อกรกับเธอได้
จะเห็นได้ว่าคำว่า "ดี" ที่ผู้หญิงกับผู้ชายคิดนั้น
แทบจะหาความเกี่ยวข้องกันไม่ได้เลย..
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมผู้ชายหลายคน
ถึงไม่อาจยอมรับการตัดสินใจเลือกคบกับใครสักคนของผู้หญิงได้
เพราะว่าเธอเลือกผู้ชายที่ไม่ดีในสายตาเขา
แต่เป็นผู้ชายที่ดีในสายตาของเธอ..
ในอีกกรณีหนึ่ง..
ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมทุกประการก็เจอกับปัญหานี้เช่นกัน
แต่ไม่ใช่เพราะว่าคำว่า "ดี"
หากแต่เป็นเพราะความสมบูรณ์แบบของเขาต่างหาก
ที่ทำให้ผู้หญิงไม่กล้าเลือกผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ครอง...
ผู้ชายที่เป็นคนดีเกินไปนั้น..
อาจจะทำให้ผู้หญิงอึดอัดทั้งกายและใจในการที่จะอยู่ด้วย
มากกว่าผู้ชายที่มีข้อบกพร่องบ้าง
เพราะว่าผู้หญิงก็รู้ตัวดีอยู่ว่าตัวเองนั้นไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบเท่าไหรนัก
ถ้าผู้ชายที่เธอคบด้วยเป็นคนสมบูรณ์แบบเกินไป
ก็จะทำให้เธอขาดความมั่นใจ
และไม่สามารถแสดงตัวตนที่แท้จริงที่มีข้อบกพร่องต่อหน้าเขาได้
เพราะว่าเขาสมบูรณ์แบบเสียจนเธอไม่คิดว่าเขาจะเข้าใจเรื่องบกพร่อง
ในบางครั้งเขายังทำลายความมั่นใจในตัวผู้หญิงได้อย่างไม่รู้ตัว
และสุดท้ายคือ ผู้หญิงกลัวที่จะสูญเสียเขาไปเมื่อเขารู้จักเธอมากพอ...
เมื่อรู้ว่าเธอไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่เขาอยากได้
ดังนั้นผู้หญิงเลยเลือกที่จะไม่สนใจผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ต้นเสียดีกว่า
โดยเนื้อแท้แล้วไม่มีใครอยากได้คู่ครองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนเลวหรอก..
ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย
เราทุกคนต่างก็เสาะหาคนดีๆ กันทั้งนั้น
ดังนั้นสิ่งที่จะสามารถผูกมัดอีกฝ่ายหนึ่งไว้ได้คือ..
จงทำตัวเหมือนหนังสือที่มองภายนอกแล้วน่าสนใจ..
เปิดมาอ่านภายในแล้ววางไม่ลง..
แต่อ่านเท่าไรก็ไม่สามารถหาตอนจบได้พบ
..................................................................
ผู้ชายดีๆ (ทำงานเก่ง เรียนเก่ง ขยัน ไม่กินเหล้า
ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวอบายมุข ไม่เจ้าชู้ Perfect !!!
มักจะเป็นคนดีจริงๆ
แบบว่าดีในเรื่องที่เค้าสนใจ
แต่มักจะด้อยในเรื่องที่เพศตรงข้ามสนใจ
จนอาจจะละเลยหรือหลงลืมการกระทำบางอย่าง...
ที่ควรจะทำกับเพศตรงข้ามไปโดยไม่รู้ตัว
ผู้ชายที่ไม่ค่อยจะดี (กินเหล้า สูบบุหรี่ เจ้าชู้
เรียนพอเอาตัวรอดได้ ทำงานไปวันๆ เจ้าชู้นิดๆ เพลย์บอยหน่อย ๆ )
ส่วนมากมักจะรู้ในสิ่งที่ผู้หญิงต้องการ และดูน่าค้นหาน่าเปิดอ่าน
ถ้าเปรียบเป็นปกหนังสือ
ผู้ชายดีๆ ก็จะเหมือนหนังสือดีๆ ทั่วๆ ไป เช่น หนังสือให้ความรู้
เชิงวิชาการ หรืออะไรเทือกๆ นี้ ออกแบบปกได้ไม่น่าสนใจ
แต่เนื้อหาข้างในแน่นปึ้กเหมาะที่จะไว้ใช้อ้างอิงได้ตลอดเวลา
ไม่ค่อยน่าหยิบมาอ่าน อยากอ่านก็ต่อเมื่อมีเรื่องเดือดร้อน
หรือมีความจำเป็นที่จะต้องอ่านเท่านั้น
ผู้ชายที่ไม่ค่อยจะดีก็เหมือนปกหนังสือ
ที่ออกแบบได้โดดเด่น แปลกแหวกแนว
น่าหยิบมาอ่านจากแผงหนังสือที่มีทั้งหนังสือปกสวยๆ
และไม่สวยเบียดๆกันอยู
ออกแบบปกได้สวย แต่หาสาระอะไรไม่ค่อยจะได้ อ่านเอาสนุก
อ่านเพื่อความบันเทิง แต่เมื่ออ่านจบแล้ว
ก็ยังอยากที่จะหยิบมาอ่านซ้ำอีก
แต่...ผู้ชายที่เลวสุดๆ (อบายมุขทุกอย่าง เอาหมด ค้ายาเสพติด
เจ้าชู้มาก งานการไม่ทำ ขี้เกียจ เรียนไม่ จบซักที่ ฯลฯ)
อย่างนี้ก็คงไม่มีใครเอาเหมือนกัน...
จริงอ๊ะป่าวคับเนี่ย ใครรู้ช่วยบอกผมที หลงทำตัวเป็นคนดีมาตั้งนาน อิอิอิอิอิอิอิ
23 พฤศจิกายน 2548 08:20 น.
ปักษาวายุ
หวัดดีคร้าบ ทุกๆท่าน วันนี้ผมมีเรื่องสงสัยใคร่รู้อีกแย้วค้าบ หัวข้อก็คือ นามปากกาของแต่ละท่านนั้น ได้มาจากไหนกันหนอ บางคนก็พอจะเดาได้นิดหน่อยคับ แต่บางชื่อนี่ อะโห คิดได้งายเนี่ย เก๊าะเรยอยากรู้ที่มาที่ไปของแต่ละท่านน่ะเองคับ อิอิอิ
สำหรับ ปักษาวายุเนี่ย ถ้าใครชอบดูหนังไทยก็คงจะเคยได้ยินผ่านหูบ้างละมั้งครั้บ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เผ่าพันธ์นกยักษ์รูปร่างเหมือนคน ที่กินสิ่งมีชีวิตด้วยกันเป็นอาหารแหละคับ อะไรประมาณนั้น ผมไม่ได้ชอบเรื่องราวของตัวหนังหรอกคับ แต่ชอบนกอะคับ มันเท่ดี แล้วชื่อ ปักษาวายุ มันก็ฟังดูเท่ๆ อีกตะหากคับ ไม่ใช่แค่นี้นะคับ ปักษา+วายุ ก็มีความหมายในตัวของมันเองอยู่นะคับ
ปักษา ก็ คือ นกนั่นเองคับ อันที่จริงผมไม่ได้ชอบนกเป็นพิเศษหรอกคับ แต่ผมชอบปีกนกคับ ยิ่งเป็นปีกแบบขาวๆยาวๆ แบบปีกนางฟ้ายิ่งชอบคับ มันให้ความรู้สึก พลิ้วไหว เป็นอิสระ อย่างแท้จริงครับ
วายุ ก็ คือ ลม คับ เช่นเดียวกันคับ ลมให้ความรู้สึก พลิ้วไหว รวดเร็ว อิสระ
สรุปก็คือ ปักษาวายุ แทนความเป็นตัวผมได้เป็นอย่างดีคับ อิอิอิ
แล้วทุกท่านล่ะครับ นามกรนั้นท่านได้แต่ใดมา?
13 พฤศจิกายน 2548 13:32 น.
ปักษาวายุ
นี่เป็นแบบทดสอบที่บริษัทหนึ่งทำขึ้นโดยทำให้กับสนง.ส่วนมาก มันช่วยให้เขาเข้าใจพนักงานของเขามากขึ้น มีเพียง10คำถาม พร้อมแล้วใช่ไหม เริ่มกันเลย...
1. เวลาช่วงไหนที่คุณรู้สึกดีที่สุด
a) ตอนเช้า
b) ตอนกลางวันและตอนเย็นๆค่ำๆ
c) ตอนดึกๆ
2. ปกติคุณจะมีท่าทางการเดินแบบไหน
a) เดินเร็ว ก้าวยาวๆ
b) เดินเร็ว แต่ก้าวสั้นๆ
c) เดินไม่ค่อยเร็ว หน้าตรง ตามองไปรอบๆ
d) เดินไม่ค่อยเร็ว ก้มหน้า
e) เดินค่อนข้างช้า
3. เวลาคุยกับใครคุณทำท่า
a) ยืนกอดอก
b) ยืนประสานมือ
c) ท้าวสะเอว
d) แตะคนที่คุยด้วย
e) เล่นกับหู / ต้องแตะคาง /เล่นผม
4. ท่านั่งสบายๆของคุณเป็นยังไง
a) เอาขาพับเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
b) นั่งไขว่ห้าง
c) ยืดขาตรง
d) นั่งทับขาตัวเองข้างหนึ่ง
5. ถ้ารู้สึกร่าเริง ดีใจ แสดงออกยังไง
a) หัวเราะดังๆอย่างพอใจ
b) หัวเราะ แต่ไม่ดังมาก
c) หัวเราะ หึๆ
d) ยิ้มแบบอายๆ
6. เมื่อไปงานเลี้ยง
a) เข้าไปอย่างเป็นที่สนใจทุกคนต้องรู้ว่าคุณมาแล้ว
b) เข้าไปเงียบๆมองหาคนที่รู้จัก
c) เข้าไปอย่างเงียบที่สุดพยายามไม่เป็นที่สนใจ
7. คุณกำลังคร่ำเคร่งทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทมากๆ
แต่ถูกขัดจังหวะ คุณ
a) รู้สึกเฉยๆ+ยินดี
b) รู้สึกฉุนเฉียว กวนประสาท
c) รู้สึกก้ำกึ่ง2ข้อข้างบน
8. ชอบสีอะไรมากที่สุดต่อไปนี้
a) Red or orange
b) black
c) yellow or light blue
d) green
e) dark blue or purple
f) white
g) brown or gray
9.ก่อนที่จะหลับ มักจะอยู่ในท่านอนแบบไหน
a) ยืดตัวตรง
b) ยืดตัว หน้ามองที่ท้อง
c) เอียงข้าง นอนขด
d) นอนเอาหัวทับแขนข้างหนึ่ง
e) คลุมโปง
10. ฝันแบบไหนบ่อยๆบ้าง
a) ฝันไม่ค่อยดีเหมือนกำลังดิ่งลงไปเรื่อยๆ
b) กำลังต่อสู้
c) กำลังค้นหาใครหรือสิ่งใด
d) บินหรือกำลังลอยอยู่
e) ไม่ค่อยฝัน
f) ฝันแต่สิ่งที่ดี
POINTS:
1. (a) 2 (b) 4 (c) 6
2. (a) 6 (b) 4 (c) 7 (d) 2 (e) 1
3. (a) 4 (b) 2 (c) 5 (d) 7 (e) 6
4. (a) 4 (b) 6 (c) 2 (d) 1
5. (a) 6 (b) 4 (c) 3 (d) 5 (e) 2
6. (a) 6 (b) 4 c) 2
7. (a) 6 (b) 2 (c) 4
8. (a) 6 (b) 7 (c) 5 (d) 4 (e) 3 (f) 2 (g) 1
9. (a) 7 (b) 6 (c) 4 (d) 2 (e) 1
10. (a) 4 (b) 2 (c) 3 (d) 5 (e) 6 (f) 1
OVER 60 POINTS:
คนอื่นๆมองว่าการอยู่กับคุณ
เขาต้องระวังตัวเองอยู่เสมอ
เห็นว่าคุณเป็นที่มีทิฐิ เห็นแก่ตัว
แล้วก็แปลก แตกแยก เด่นออกมา เขาอาจจะชื่นชมคุณ
อยากเป็นเหมือนคุณแต่ไม่ทุกครั้งไปที่เขาจะไว้ใจคุณ
และลังเลใจที่จะเข้ามาเป็นเพื่อนกับคุณ
51 TO 60 POINTS:
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนที่น่าตื่นเต้น
แต่อารมณ์แปรปรวน
และไม่ค่อยไตร่ตรองอะไร
เป็นผู้นำโดยธรรมชาติ
ตัดสินใจเร็วแต่มันไม่ถูกเสมอไป
เขาเห็นว่าคุณเป็นกล้าหาญ
คนที่ลองทำอะไรเพียงครั้งเดียว
คนที่กล้าเสี่ยงคว้าเอาโอกาสและสนุกกับการผจญภัย
เขารู้สึกสนุกที่ได้อยู่กับคุณเพราะความน่าตื่นเต้นที่คุณสื่อออกมา
41 TO 50 POINTS:
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนร่าเริง
สดใส มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์และน่าสนใจ
เป็นคนที่มักจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจ
แต่มีความสมดุลรู้ว่าต้องทำตัวยังไง
และยังมองว่าคุณเป็นคนใจดี
เกรงใจคน และมีความเข้าใจ
คนที่จะคอยให้กำลังใจและช่วยเหลือเขาตลอดเวลา
31 TO 40 POINTS:
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนอ่อนไหว คิดมากและรอบคอบ
มองว่าคุณฉลาด มีพรสวรรค์ แต่เรียบง่าย ดูดี
ไม่ใช่คนที่จะมีเพื่อนได้ง่ายๆ
แต่จะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน
และคาดหวังว่าเพื่อนก็ต้องเป็นเช่นนั้นกับคุณ
คนที่รู้จักคุณจริงๆจะรู้ว่า ใช้หลายต่อหลายสิ่งและนานมากกว่าคุณจะรับใครเป็นเพื่อน
แต่ในทางกลับกันมันก็จะใช้เวลานานมากๆ
ที่จะทำให้คุณลืมความสัมพันธ์นั้นๆถ้ามันล้มเหลว
21 TO 30 POINTS:
เพื่อนๆมองว่าคุณเป็นคนที่มีความมานะบากบั่นและจุกจิก
มองว่าคุณค่อนข้างขี้ระแวงระมัดระวัง
เชื่องช้าและมีความพยายามมากๆ
มันจะทำให้เขาแปลกใจถ้าพบว่าคุณทำอะไรซักอย่าง
โดยขาดการยั้งคิด
หรือทำไปเพราะมีแรงกระตุ้นเพียงชั่วครู่
เขาจะคาดหวังว่าคุณต้องทดลองทุกอย่างในทุกๆแง่มุมของอะไรก็ตาม
แล้วจากนั้นโดยปกติก็จะไม่เห็นด้วยกับอะไรทั้งสิ้น
เขาคิดว่าที่เป็นอย่างนี้ก็มาจากส่วนหนึ่งจากความขี้ระแวงโดยธรรมชาติของคุณ นั่น เอง
UNDER 21 POINTS:
คนอื่นๆมองว่าคุณขี้อาย ขี้กลัว
และไม่กล้าตัดสินใจ
คนที่ต้องการการดูแล
คนที่ต้องการให้คนอื่นตัดสินใจแทน
และคนที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับใครหรืออะไรทั้งนั้น
และยังรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เห็นปัญหาที่มันไม่เคยมี
บางคนถึงขนาดบอกว่าคุณน่าเบื่อ
มีแต่คนที่รู้จักคุณดีเท่านั้นจึงจะรู้ว่าคุณไม่ใช่
เป็นไงคับ ตรงมากน้อยแค่ไหน ตัวผมได้ 44 คะแนนคับ อิอิอิ
8 พฤศจิกายน 2548 10:58 น.
ปักษาวายุ
สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้กันครับ และผมขอเหมาเอาว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่าน คงจะเป็นคนที่ชอบการแต่งกลอนกันทุกคนนะคับ ( แน่สิไม่ง้านคงไม่เข้ามา thaipoem หรอกเนอะ) ทุกท่านเคยหมดมุขเวลาจะแต่งกลอนกันบ้างไหมครับ ยกตัวอย่างตามประสบการณ์ของผมละกาน ผมเป็นคนที่ชอบการแต่งกลอนพอสมควรครับ แต่จะให้อยู่ๆหยิบปากกากระดาษขึ้นมาเขียนเรยเนี่ย ยากครับ ยังไงๆ มันก็เขียนไม่ออกอะแต่วันดีคืนดีเวลาที่มีอารมณ์ หรือ เหตุการณ์อะไรซักอย่างที่มันสะดุดความรู้สักมากๆ มันก็จะปิ๊งไอเดียขึ้นมาเป็นฉากๆเรยคับ ว่า เฮ้ย ต้องกลอนชื่อนี้นะเว้ย ขึ้นต้นแบบนี้ๆ แล้วจบ ประมาณนั้น ประมาณนี้ ก็เรยอยากจะถามเพื่อนๆชาวกวีทุกท่านซ้าหน่อยว่า เวลาท่านจะแต่งกลอนกันเนี่ย มีแรงบันดาลใจ ในการเลือกเขียนบทกลอนกันบ้างหรือเปล่า หรือว่า จับปากกาปุ๊บเขียนได้ปั๊บเหมือนสั่งได้กันละคับ ช่วยโพสต์ตอบคำถามกันหน่อยละกันนะคับ คือ อยากรู้ว่าคนอื่นเขาแต่งกันยังไง ทำไม แต่งเพราะกันจังคับ อิอิอิอิ / ปักษาวายุ