5 พฤษภาคม 2550 21:20 น.
ปักปลายฝัน
เสียงประหลาด ขับก้อง ร้องสำเนียง
แทรกสอดเสียง พิณฟ้า ขับประสาน
เสียงใดหนอ ฟังแล้ว ช่างเบิกบาน
ท่านขับขาน ท่วงทำนอง คล้องดวงใจ
ราตรีนี้ ข้าเห็นดาว ประดับฟ้า
ดื่นดาษดา แดดวง ดั่งเจ้าไหม
คิดถึงเจ้า เจ้าหญิง ที่อยู่ไกล
เคล้าคลอไป ท่วงทำนอง ของดนตรี
เสียงไพเราะ ฟังเสนาะ นั่นเสียงใคร
เจ้าใช่ไหม ที่คลอเสียง เคียงคืนนี้
ผ่านฟากฟ้า นภากาศ ช่างสุนทรีย์
กล่อมราตรี ให้หลับใหล ในอ้อมดาว
ลมหวิว พลิ้วพัด ผ่านอากาศ
ช่างประหลาด เหตุใด ใยไม่หนาว
คงเป็นเจ้า ให้คิดถึง ทุกคราคราว
แล้วเจ้าสาว คิดถึงใคร ใยลืมกัน
เสียงสวรรค์ ขับก้อง ร้องสำเนียง
คงเป็นเพียง เสียงหัวใจ ให้ผูกพัน
เสียงหัวใจ ให้เพียง เจ้าเท่านั้น
ไม่แปรผัน ตราบจน นิรันดร์กาล
4 พฤษภาคม 2550 13:44 น.
ปักปลายฝัน
หลายชีวิต หลายทาง กลางสายฝน
ต้องผจญ หลายปัญหา พาฉงน
อุปสรรค ขวากหนาม ทิ่มแทงคน
เราต้องทน ทรมาน นานเพียงใด
กำลังใจ หายไปไหน ใครรู้บ้าง
แสงสว่าง เฉิดฉาย เป็นไฉน
มืดมน หม่นหมอง ตรอมดวงใจ
จะมีใคร ที่ไหน เห็นใจกัน
เปลวเทียน ที่ขีดเขียน ในอากาศ
พัดพลิ้ว ปลิวเหมือนวาด ในภาพฝัน
ลมพายุ พัดผ่าน พันละวัน
เทียนน้อยนั้น อ่อนแรง แสงดับลง
นานเพียงใด แค่ไหน ใจจะสู้
ดูสิดู โลกกว้าง ที่มั่นคง
หมุนเวียน เปลี่ยนไป อย่างบรรจง
ไม่หยุดลง ง่ายดาย เหมือนใจคน
เพียงแค่ก้าว เหยียบย่ำ ไปข้างหน้า
ในแววตา ไม่ถดถอย ฤาหมองหม่น
ในเส้นทาง หลายทาง ต้องผจญ
ไม่มีวัน สับสน ดิ้นรนไป
เทียนเล่มนี้ ของเรา เคล้าคลอแสง
เปลวสีแดง โชติช่วง ไม่หวั่นไหว
แม้ลมพัด พายุโหม โลมเพียงใด
จะต้องนำ เราไป ถึงปลายทาง