29 ธันวาคม 2551 23:26 น.

เมื่อปู.....จะข้ามถนน

ปะการังสีฟ้า

เสียงฟ้าคำรามมาตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนฝนจะเทลงมาและหยุดขาดเม็ดในช่วงฟ้าสาง   เม็ดฝนยังเกาะพราวอยู่บนยอดหญ้ามองเห็นเป็นสีรุ้งยามต้องแสงตะวัน
"ตั้มตื่นได้แล้วลูก" เสียงแม่ตะโกนออกมาจากในครัว
"ครับ" ผมขานรับแล้วนอนนิ่งก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำ กลิ่นข้าวต้มที่แม่ทำหอมฉุยมาแตะจมูก ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวมาทานข้าวต้มฝีมือแม่ 
"วันนี้เปิดเรียนวันแรก ต้องทำตัวให้สดชื่นหน่อย" แม่พูดพลางเอามือโยกหัวผมเบาๆ 
"จริงสิ วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอมในภาคเรียนที่ 2  ผมมีเรื่องเยอะแยะจะเล่าให้เพื่อนฟัง" ผมรีบกินข้าวก่อนแม่จะไปส่งผมที่ปากทางซึ่งเชื่อมต่อกับถนนใหญ่  
  บ้านผมอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ  10 กิโลเมตร แม่ฝึกให้ผมนั่งรถสองแถวไปโรงเรียนตั้งแต่ผมอยู่ชั้น ป.3  แรกๆผมก็กลัวเหมือนกัน แต่ตอนนี้กลับสนุกเพราะได้เจอเพื่อนหลายคนและมีเรื่องคุยกันตลอดจนถึงโรงเรียน  วันนี้รถสองแถวมีที่ว่างหลายที่ อาจจะเป็นเพราะวันนี้ไม่มีตลาดนัด  ผมจึงสามารถเลือกที่นั่งได้อย่างสบาย ผมเลือกที่จะนั่งข้างนอกสุด  ข้างในมีเพื่อนของผมสองคนนั่งอยู่ด้วย เราต่างหันมายิ้มและยักคิ้วทักทายกัน  วันนี้อากาศดี สายลมเย็นๆพัดปะทะหน้า  สองข้างทางเต็มไปด้วยผืนนาที่ทอดตัวยาวขนานไปกับถนน เว้นช่วงบ้างที่มีบ้านคน และลำคลองไหลผ่าน   นอกจากจะแกล้งพัดเอาความเย็นมาปะทะหน้าผมแล้วสายลมยังพัดไปแกล้งยั่วต้นข้าวให้ไล่จับไปทั่วท้องทุ่งนา เคลื่อนไหวเหมือนภาพที่มีชีวิต  
"วันนี้เราชวนเพื่อนวิ่งไล่จับดีกว่า" ผมคิดอยู่ในใจ
  ขณะนั้น มีเสียงผู้หญิงตะโกนโหวกเหวกโบกมือโบกไม้อยู่ข้างหน้า ทำให้คนขับรถชะลอความเร็วและจอดนิ่งเมื่อผู้หญิงคนนั้นบอกให้รถจอดรอ  ผมหันไปมองเพื่อนอีกครั้งพร้อมสำรวจผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่ก็คุ้นหน้าคุ้นตา พี่สาวที่เป็นคนอีสานสองคนนั่งอยู่ในสุด ถัดมาก็เป็นคุณลุงที่ทำงานในอำเภอ แล้วก็ผม  ส่วนฟากโน้นก็เป็นเพื่อนผมสองคนและคุณลุงที่ผมจำได้ว่าเห็นแกเคินเตร่อยู่ที่ตลาดบ่อยๆ  ผมส่งยิ้มให้แก แต่แกกลับจ้องหน้าผมทำให้ผมต้องเบือนหน้าออกไปมองทางท้ายรถอย่างอายๆ   ผมหลบสายตาของแกแล้วหันมาดูรถที่กำลังวิ่งสวนกันไปมา  ระหว่างนั้นสายตาของผมก็มาสะดุดกับของบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ริมขอบถนน
"  ปู   ตัวใหญ่ซะด้วย"  ผมบอกตัวเองแล้วหันหน้าไปบุ้ยใบ้กับเพื่อน  ท่าทางของผมทำให้คนในรถหันมาสนใจ ปูตัวนี้
  ตอนนี้มันเดินขึ้นมาบนถนนแล้ว แถมชูก้ามเดินส่ายไปส่ายมา
 "มันจะทำอะไร" โจ้เพื่อนร่วมชั้นตั้งแต่ ป.1 จนเดี๋ยวนี้ ป.4 เรายังอยู่ห้องเดียวกันหันมาถามผม    ผมส่ายหน้ายิกๆ แล้วนั่งดูปูตัวนั้นเดินไปเดินมา
  รถยังจอดอยู่ที่เดิมผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ขึ้นรถ  คนขับบีบแตรเร่ง ผู้โดยสารในรถเริ่มหงุดหงิด
 "พี่ว่ามันจะไปไหน" หญิงสาวที่อยู่ในสุดหันมาถามผู้หญิงที่นั่งข้าง
"คงจะหนีตายละมั้ง นาทางนี้คงไม่มีอะไรให้กิน มันก็เลยจะหนีมาตายดาบหน้า เหมือนแกไง"  
"ฉันถามดีๆทำไมต้องมาว่ากัน" หญิงสาวที่ถูกกล่าวถึงค้อนเสียวงใหญ่ "แต่ก็จริงอย่างที่พี่พูดถ้าฉันไม่ดิ้นรนออกมาทำงานป่านนี้คงได้อดตายจริงๆ"
 เสียงรถยนต์แว่วมาแต่ไกล ปูยังเดินวนอยู่ที่เส้นขาวบนถนน
"รถมาแล้ว เดินมาเร็วๆ" ผมส่งเสียงเชียร์เบาๆ  มันคงไม่ได้ยินเสียงผมและเสียงรถที่กำลังแล่นมา  เลยเดินชูก้ามส่ายไปส่ายมาเหมือนเดิม ผมรู้สึกเป็นห่วงมันขึ้นมา  และโล่งอกเมื่อเห็นมันยังเดินอยู่บนถนนเมื่อรถแล่นผ่านไป
 "ถ้าเป็นคนทำแบบนี้ไม่ได้ เดินทางอย่างไร้จุดหมายก็ไม่ถึงที่หมายซักที เราต้องวางแผนรู้ไหม" ลุงที่ทำงานอำเภอหันมาพูดกับผม
"แล้วจะดิ้นรนไปเพื่ออะไร ถ้ามันข้ามไปฝั่งโน้นได้ คิดหรือว่าจะดีกว่าฝั่งนี้ อยู่ให้สบายเอาตัวรอดไปวันๆดีกว่าไม่ต้องเหนื่อย"  ลุงที่ผมเห็นที่ตลาดพูดแทรกขึ้นมาบ้าง
"ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือว่ามันดีไม่ดี"  เสียงพี่ผู้หญิงที่นั่งในสุดออกความคิดเห็น
"จะลองก็ต้องวางแผน ลองตะพึดตะพือได้ที่ไหน" ลุงที่ทำงานอำเภอพูดแล้วหันหน้าไปที่ต้นเสียง
  เวทีแห่งการแสดงความคิดเห็นกำลังเปิดฉากขึ้น โดยมีผมและเพื่อนเป็นผู้ฟัง และมีเจ้าปูเป็นหัวข้อสนทนา   แล้วค่อยๆปิดฉากลงเมื่อผู้โดยสารที่ให้รถจอดรอขึ้นมานั่งบนรถ  รถแล่นออกไปอย่างช้าๆ จนเห็นตัวปูเป็นจุดเล็กๆ สีดำๆ
     ผมไม่รู้หรอกนะว่าปูมันคิดอย่างไรที่ขึ้นมาเดินอยู่บนถนน  แต่สำหรับผมแล้วผมเห็นฝั่งโน้นมีแอ่งน้ำและผมเดาว่าต้องมีปลาอาศัยอยู่แน่ๆ สักวันหนึ่งผมจะไปจับปลาที่แอ่งน้ำนั้น   แต่ว่า....จะวางแผนอย่างไรดีไม่ให้แม่รู้.......				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปะการังสีฟ้า
Lovings  ปะการังสีฟ้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปะการังสีฟ้า
Lovings  ปะการังสีฟ้า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปะการังสีฟ้า
Lovings  ปะการังสีฟ้า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปะการังสีฟ้า