29 กันยายน 2547 14:39 น.
ปลายภู
**-**-**-**
หนาวเอ๋ย.หนาว
น้ำค้างพร่างพราวราวฟ้าสลัว
เย็นยะเยือกไหวสั่นระริกรัว
เกลือกกลั้วใต้ผ้าห่มซบอุ่นไอ..
คิด.เอย.คิดถึง
มิตรภาพตราตรึง คงมั่น
หมักบ่มความรักในคืนวัน
มีความฝัน มีวิญญาณอันลึกซึ้ง
**-**-**
ความเป็นไป..ในชีวิต
กับความรัก..ความผูกพัน
คือขุมพลัง.อำนาจเหนือสิ่งอื่นใด
ที่หลาย ๆ ใฝ่ฝัน..แสวงหา ไขว่คว้า
มาครอบครอง.
หลายสิ่ง หลายอารมณ์ เกิดขึ้น
มากมาย.
ทุกข์บ้าง..สุขบ้าง..ตามจังหวะกาล
ณ.ที่แห่งนี้.
มีชีวิต..ที่แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณ.
ด้วยความรัก..ความผูกพัน จริง..จริง
**-**-*-
27 กันยายน 2547 12:04 น.
ปลายภู
หลังจากสะสางงานจนเสร็จสิ้น..ข้าฯ นั่งเก้าอี้ทอดยาวหลังจากเหนื่อยล้ามา
ตั้งแต่เช้า. น้อง? พี่ขอซักประเดี๋ยวนะ วันนี้ค่อนข้างเหนื่อย
ตามสบายเลยครับ. แล้วน้องก็ผละจากไปทำงาน
?? มารับยาจ้า..
ในความรู้สึกหลับบ้างตื่นบ้าง..ก็ยังนึกว่าไม่ใช่อยู่ดี
?? มารับยาจ้า..
ยา..เยอ อะไรหละยาย ทำไมเพิ่งมาหละเค้ากลับบ้านหมดแล้วนี่?
ยายค่อนข้างอึ้ง..อย่างพูดไม่ออก นิ่งซักพัก มองหน้า
เอางี้แล้วกันยาย พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะ..เก็บของหมดแล้ว
แล้วยายก็หันหลังเดินกลับไปโดยไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว
ข้าฯ..เหลียวมองตาม แล้วกลับไปเอนพักที่เก้าอี้ตัวเดิม..
ในความรู้สึกที่ผิดอยู่ในใจ..ผิดต่อผองเพื่อนมนุษย์อยู่ในใจ
ทำไม? เพราะอะไร? เราถึงทำอะไรที่ขลาดเขลาเช่นนี้ลงไปได้
หากเราเจอยายพรุ่งนี้เราจะพูดกับยายว่าอย่างไร..คือ สิ่งที่คิดอยู่ในขณะนี้
เราคงบาป..บาปเกินกว่ายายจะให้อภัย.
และวันนี้..เราคงไปพบยายให้ได้..
และขอโทษท่านก่อนที่ท่านจะเป็นไรไป..
27 กันยายน 2547 11:43 น.
ปลายภู
ทำไม? ทำไม?
ใจข้าพเจ้าหวั่นไหวเพียงนี้
ในรำพึงอบอวนปริ่มล้นฤดี
หอบหามใจดวงนี้ให้ล่องลอย
::ยิ่งคิด..ยิ่งดิ่งลึก::
ตอกย้ำความรู้สึกหวั่นไหว
ดุจน้ำทิพย์ชโลมรดห้วงใจ
เอ่ออาบลูบไล้จินตนาการ..
******
ภายใต้แสงแห่ง..เงาจันทร์
ของค่ำคืน.
ก่อเกิดความรู้สึก..อารมณ์
ที่ยากยิ่งเหลือเกินกว่า..
จะอธิบายได้..
ความสุข
ความทุกข์
เดียวดาย
อะไรหลาย ..หลายสิ่งเกิดขึ้นในค่ำคืน
ขอบคุณจริง ๆ จันทร์เจ้าขา..
ที่ถักทอแสงเปล่งประกายในคืนนี้..
22 กันยายน 2547 11:51 น.
ปลายภู
แผ่นฟ้า..ผืนโลกกว้างใหญ่
ฤาจะเท่าจิตใจของมนุษย์
ไขว่คว้าโหยหาไม่สิ้นสุด
หยั่งยากหลุดบ่วงห้วงกรรม
คือความจริงสัจธรรมค้ำจุน
ฤดูกาลเปลี่ยนหมุนเวียนผ่าน
มีบาป-กรรม ดี-ชั่วในห้วงกาล
ชีวิตมีเปรี้ยว มีหวาน ให้ลิ้มลอง.
มีจิตนาการเป็นพลังคอยขับเคลื่อน
มีผองเพื่อนคอยดูแลไม่ห่างหาย
เป็นไออุ่นเคียงข้างยามเปล่าดาย
เป็นสหายคอยปลอบปลุกย้ำเตือน
ถึงเป็นเพียงแสง..เงา..ภาพฝัน
ปิดกั้นตัวตนนามเคลือบแฝง
มีวิญญาณอุดมการณ์อันร้อนแรง
มีตะวันคอยสาดแสงส่องนำทาง.
**
21 กันยายน 2547 13:58 น.
ปลายภู
ระริกไหวเอนอ่อนพลิ้ว
หล่นร่วงปลิดปลิวลอยห่าง
ไร้สิ้นในจุดหมายปลายทาง
จางหายล่องไปตามสายลม
คาดหวังเพียงว่า จะเติบใหญ่
ดงแดนถิ่นใหม่ให้เติบกล้า
เคียงคู่ฟ้าดินทุกคราวครา
แตกกอหน่อกล้าสืบเผ่าพันธุ์
คือรากเหล่ากอ..คือชีวิต
คือรอยลิขิต ขีดวาดฝัน
คือดวงใจผูกเกี่ยว สัมพันธ์
เป็นไปเฉกนั้น..จริง ..จริง
ซ่อนวิญญาณ.แฝงไว้ในเงาฝัน
โยงใยสัมพันธ์ฉันท์ น้องพี่
มีความรัก อาทร ความหวังดี.
บนถนนสายนี้.ที่พักพิง.
********************************