14 กันยายน 2547 11:53 น.
ปลายภู
ปลายฝน
****
ปลายฝน ย่างสู่ต้นหนาว
ลมหวนพัดผ่าวปลิวไหว
เย็นยะเยือกจับขั้วดวงใจ
ผันชีวิตเป็นไปในห้วงกาล
โปรยปรายสายฝนโรยอ่อน
เคล้าตะวันรอนสาดแสง
ม่านเม็ดฝนปิดกั้นพรมแดน
ขอบเขตแคว้น..ฝั่งฝันทอ
ขับชีวิตเป็นไป..เฉกนี้
มีทุกข์-สุข-เศร้าเคล้าวิถี
จิตนาการโอบซับมากมี
อุดมการณ์นั่นบ่งชี้..ตัวตน
มีรัก..มีฝันอันยิ่งใหญ่
โอบอุ้มกำลังใจเติมวาดฝัน
ห่วงใยในสองเราเกี่ยวพัน
แม้เธอนั้นจะไกลห่าง ร้างตัวตน.
ปลูกประดับเก็บไว้ในห้วงลึก
ปลอบปลุกจิตสำนึกคราคิดถึง
สายใยแห่งริ้วรอยยามรำพึง
ตราตรึงบานเบ่งทุกคราวครา.
*****
9 กันยายน 2547 15:03 น.
ปลายภู
ดื่มด่ำแสงเงาเคล้าความมืด
ดึกดื่นกับความคิดกลบความฝัน
ใต้ราวฟ้าคืนนี้อับแสงจันทร์
ม่านหมู่เมฆมาปิดกั้นแสงหมู่ดาว
ในห้วงใจมิวายยังคิด
ถึงคนใกล้ชิดใจใฝ่เสน่ห์หา
แม้เงามืดแห่งแสงของจันทรา
มิอาจห้ามจิตใจข้าฯ.ยามรำพึง
ในใจตราตรึงเสมอมั่น
เหนี่ยวยึดความสัมพันธ์แห่งเราสอง
เพียงเงาฝันสองเราเฝ้าหมายปอง
แต่ความจริงสอดคล้อง..ผูกบ่วงใจ
ให้ดอกไม้แห่งสองเรา ชูไสว
แม้ลมต้องแกว่งไกวอย่าไหวสั่น
โลกกว้างใหญ่ยากหยั่งก้าวตามทัน
เพียงเธอ-ฉันเข้าใจกันเท่านั้นพอ
9 กันยายน 2547 11:33 น.
ปลายภู
***********
เอื่อย เอื่อย เรื่อย เรื่อยสายลมผ่าน
ภายในสะทกท้าน สั่นไหว
เย็นยะเยือกกรุ่นไอฝนจากแดนไกล
แต่ภายในกลับผ่าวร้อน ยิ่งนัก.
ยังคิดถึงห่วงใย เพื่อนพ้อง
เคยอยู่เหย้าตามครรลองเฝ้าถามไถ่
แต่ฟ้าฝนภัยพิบัติให้ห่างแรมร้างไกล
ขีดเส้นให้ทางเราปิด เพียงคิดไป..
แต่วันนี้ท้องฟ้าเปิดทางกั้น
ให้ทอถักสรรสร้างวิมานฝัน
มีอารมณ์แทนกายสายสัมพันธ์
จินตภาพมโนฝัน อันงดงาม
ความรู้สึกนึกคิด..อิงแอบฝัน
ให้เธอ-ฉันพบพานหว่านอักษร
ด้วยสำเนียงเสนาะกาพย์กลอน
อีกทั้งคติและคำสอนไว้เตือนใจ
********