12 มิถุนายน 2550 05:01 น.
ปลายตะวัน
จะเด็ดเดี่ยว เขี่ยวเข็ญ บำเพ็ญจิต
จะลืมผิด รักหลง ปลงใจเหงา
จะเคี่ยวคำ ล้ำค่า ทาแผลเอา
จะลืมเศร้า เหงาทรวง ที่หน่วงนาน
จะเด็ดเดี่ยว เคี่ยวย้ำ คำตัดพ้อ
จะเพียงพอ แค่ใจ ได้สุขสันต์
จะลืมรัก จากใจ ชั่วนิรันดร์
จะลืมวัน แสนเศร้า ที่เหงาทรวง
12 มิถุนายน 2550 02:17 น.
ปลายตะวัน
จะดื่มใจ ให้หมดร้าว รักคราวนี้
คราวรักที่ หมดใจ ให้หมองหมาง
ดื่มรักสิ้น หมดใน ใจน้องนาง
ดื่มรักร้าง เลือนหาย จากใจตน
แล้วร่างต่อ ก่อแรง อันแข็งขัน
เป็นแรงอัน สืบสาน งานโภคผล
มิให้รัก มืให้ไร้ ใจของตน
จะเป็นคน ของงาน เพื่อการดี
จะแปรร้าว เป็นแรง อันแฝงฝัน
จะฝ่าฟัน วันหวาม ไม่คร้ามหนี
จะหยุดรัก หยุดใจ ในฤดี
จะหลีกลี้ หนีห่าง ทุกนางเอย
12 มิถุนายน 2550 01:52 น.
ปลายตะวัน
เคยร่ำรอ พะนอ พ้อเสียงเจ้า
เคยหวนเฝ้า อาลัย ชวนใจหาย
เคยมอบรัก หนักหน่วง ดวงใจชาย
เป็นมั่นหมาย สลักไว้ ในอารมณ์
ต่อแต่นี้ จะไม่รอ พะนอเสียง
สิ้นสำเนียง ไปกับรัก จักเหมาะสม
สิ้นเสียงเจ้า สิ้นเงา รักจ่อมจม
ไม่ภิรมย์ ชมเชย เขนยเคียง
ให้รักจบ ยามพลบค่ำ ดังค่ำนี้
ยามค่ำที่ รักหยุด สิ้นสุดเสียง
ให้คำพลอด มอดวาย ปลายสำเนียง
เหลือก็เพียง ใจเรา ที่เปล่าเปลือย
12 มิถุนายน 2550 01:25 น.
ปลายตะวัน
ว่างเปล่า ใต้เงาจันทร์
คลายสัมพันธ์ อันหวั่นหวาม
จิตตรึง จึงผ่อนตาม
เงาวาบวาม ตามรู้ตน
วูบหนึ่ง ซึ่งรักเจ้า
จนโศกเศร้า เขลาสับสน
ด้วยรัก เจือใจปน
จึงหมองหม่น ร้อนรนทรวง
อารมณ์ เป็นเช่นเงา
คอยทาบเทา เศร้าหม่นสรวง
จึงวาง ว่างทั้งปวง
คลายหนักหน่วง จากบ่วงใจ
แต่นี้ จะหยุดนิ่ง
วางทุกสิ่ง สิ้นหวั่นไหว
รักพราก หมดจากใจ
หมดสิ้นใน ใครบางคน
รักได้ ก็ร้างได้
รู้วางใจ ไม่สับสน
ว่างไว้ ในใจตน
ไม่หมองหม่น ร้อนรนทรวง
11 มิถุนายน 2550 21:10 น.
ปลายตะวัน
ที่รักจ๋า รู้ไหม ใจมันเหงา
ใจมันเศร้า กับเงา ชวนเหงาหงอย
รักหรือลวง หลอกใจ ให้หลงคอย
ตะวันคล้อย ลาลับ กับใจนาง
ที่รักจ๋า ใจพี่ นี้คิดถึง
เฝ้าคำนึง หาเจ้า จวบเช้าสาง
เฝ้าละเมอ เพ้อหา เจียนวายวาง
ฤาเจ้าร้าง ลืมได้ แม้ใจคน