18 มิถุนายน 2550 01:53 น.
ปลายตะวัน
จงรู้จัก ตัวเอง คำนี้หมาย
มีดีร้าย เท่าไร เร่งไขขาน
ข้างฝ่ายดี มีไว้ ในดวงมาน
ข้างฝ่ายชั่ว รีบประหาร ให้หมดไป
จงรู้จัก ตัวเก่ง คำนี้หมาย
ว่าในกาย กิเลส เป็นเหตุใหญ่
จึงสาระแน แต่จะทำ บาปกรรมไกล
ต้องควบคุม มันไว้ ให้รักบุญ
จงรู้จัก ตัวเอง คำนี้หมาย
สังขารไร้ ตนตัว มัวแต่หมุน
ไปตามเหตุ ปัจจัย ที่ใสขุ่น
พ้นบาปบุญ ชั่วดี มีนิพพานฯ
***เขียนโดยคุณทรายกะทะเล
17 มิถุนายน 2550 21:24 น.
ปลายตะวัน
ก็แค่เหงา เปล่าเปลี่ยว เดียวดายนัก
ใช่เพ้อรัก หนักห้วง ดวงจิตหนอ
มิใช่เพ้อ ละเมอหา รักที่รอ
อยากใคร่ขอ แค่เพื่อน มาเยือนใจ
ในคืนเหงา ดาวลา ดับฟ้าหมอง
เหมือนถูกจอง จำหลัก ปักตรุไหน
ใช่รักร้าง อ้างว้าง อยู่ข้างใน
แปลกหัวใจ ไยเหงา เศร้าอุรา
16 มิถุนายน 2550 23:21 น.
ปลายตะวัน
อันน้ำไหล ไหวว่าย สู่ปลายน้ำ
สายลมฉ่ำ ย้ำยาม ตามวิถี
รุ้งเลื่อมลาย ปลายตะวัน พลันราตรี
ดาวพาที เฝ้าพ้อ ต่อฝันตาม
ให้มันเป็น เช่นนั้น ไม่หวั่นไหว
ปล่อยหัวใจ เรียบง่าย ไม่หวั่นหวาม
ให้รักเป็น เช่นนั้น ไม่พรั่นตาม
ให้เงียบงาม ความรู้ว่าง อยู่ข้างใน
ให้วันวาร ผ่านพ้นไป ไม่เร่งรีบ
ไม่คั้นบีบ หัวใจ ให้ผันผาย
ไม่บังคับ จับวาง ให้ว่างวาย
กำหนดหมาย ใจเป็น เช่นนั้นเอง
16 มิถุนายน 2550 02:25 น.
ปลายตะวัน
อันแสง สุรีย์ฉาย
นภคลาย ละเมฆหมอง
ยามแจ้ง มโนตรอง
สติส่อง สะท้อนใจ
เคยเปื้อน ณ อารมณ์
บ่มิสม ประดีหมาย
มืดมน บ่มีคลาย
สิก็ร้าย จะวายวาง
แท้จริง บ่จริงนั้น
สติมั่น สิคลายหมาง
รู้แจ้ง ณ ท่ามกลาง
มนพลาง มโนใน
อันรัก ฤาลุ่มหลง
อุระจง พินิจหมาย
วางว่าง ณ อาลัย
หฤทัย จะชัดเจน
14 มิถุนายน 2550 00:34 น.
ปลายตะวัน
ลมปราณ ระริกร่าว
ระดะด้าว ระด่าวแสน
วิญญาณ ระร่านแดน
ก็จะแหน จะหวงไทย
ผีเมืองจะคุ้มเมือง
จะมะเรือง มลายคลาย
ทุกข์โศก จะโบกหาย
จะสลาย มลายลา
วอนเทวราชคุ้ม
สิประชุมประสิทธิ์หนา
ดลผี ณ พารา
และก็พาก็พัดภัย
บุญญา ณ ข้านี้
ณ ฤดี สมัยไหน
นบน้อม ถวายไป
มนใคร่จะเซ่นเอย
*ขอให้เรื่องราวร้ายๆทั้งหลายในบ้านเมืองจงสงบโดยเร็วด้วยเถิด