17 พฤษภาคม 2550 23:56 น.
ปลายตะวัน
แม่เอ๋ย แม่จ๋า
คืนนี้ ฟ้าหม่น
หวังแม่ สุขล้น
ที่บน ฟ้าไกล
ลูกนี้ คิดถึง
หมดซึ่ง หัวใจ
หมายแม่ รู้ได้
ทรวงใน ลูกยา
น้ำตา หลั่งไหล
หัวใจ โหยหา
สุดคืน เวลา
โรยล้า อาวรณ์
กุหลาบ หินขาว
เมื่อคราว แม่สอน
ปลูกไว้ ก่อนนอน
อนุสรณ์ ถึงกัน
คืนแรม แกมดาว
วับวาว สุขสันต์
ขอรัก จากจันทร์
กล่อมขวัญ แม่เอย
***หวังว่ากลอนบทนี้ จะดลใจให้ลูกๆทุกคนได้ใช้เวลากับแม่มากๆ
17 พฤษภาคม 2550 22:50 น.
ปลายตะวัน
เกี่ยวรัก สักเพียงก้อย
มิให้ลอย ลับล่องหาย
เกี้ยวรัก สักมากมาย
มาห่มให้ ในแดดวง
รักเกี่ยว ใจเลี้ยวลด
มันจารจด จรดทรวง
รักจริง ฤาเล่ห์ลวง
ให้เหน็บหน่วง ทั้งดวงใจ
แผ่วแผ่ว เพียงปลายปราณ
ด้วยรักร่าน ซ่านฤทัย
พลิ้วพลิ้ว เพียงริ้วใจ
เป็นพลิ้วพราย พร่างพธู
17 พฤษภาคม 2550 06:02 น.
ปลายตะวัน
สูรย์แรก สุรีย์ฉาย
ค่อยค่อยปราย พราวพรายแสง
กอบร่าง ก่อเรี่ยวแรง
ให้ขันแข็ง แข่งใจตน
วันนี้ ยังต้องสู้
ต้องเรียนรู้ ความสับสน
รู้ว่าง กลางหมู่คน
ที่วกวน ด้วยกลลวง
แสงแรก ตะวันฉาย
ทอทาบกาย อาบไอสรวง
โลมไล้ ลึกในทรวง
เติมเต็มห้วง มโนธรรม
16 พฤษภาคม 2550 23:51 น.
ปลายตะวัน
น้อมรัก ใจภักดิ์มั่น
ในเพียรอัน สะอาดใส
จะโถม โหมกายใจ
แม้นวางวาย จะสู้ทน
แม้นมั่น มโนแล้ว
บ่คลาดแคล้ว บ่สับสน
กอร์ปกรรม ในการตน
ให้เทียมท้น ทั้งกายใจ
โถมถั่ง ดั่งสายฝน
พ้องเหตุผล จึงหลั่งไหล
เมฆก่อ กำเนิดกลาย
จีงค่อยปราย สายฝนพรำ
พากเพียร รู้ควรชอบ
ให้รู้กอร์ป กำเนิดกรรม
การควร ไม่ควรทำ
รู้ลึกล้ำ บำเพ็ญตน
16 พฤษภาคม 2550 18:06 น.
ปลายตะวัน
สูรย์ร่าย ปลายตะวัน
ทิวาผัน ผ่านอีกหน
แหวกว่าย วันวกวน
ใจสับสน หมองหม่นทรวง
ทุกข์ใด ได้คลายบ้าง
เมื่อโรยร่าง กลางแสงสรวง
ห่มห้อม ดอมเดือนดวง
อาบหาวห้วง ดาราราย
ล้านัก มามากแล้ว
ใจแผ่วแผ่ว พลิ้วสยาย
ขอพัก วิญญาณ์คลาย
ทุกข์เลือนหาย ใต้แสงจันทร์