4 กรกฎาคม 2550 00:38 น.
ปลายตะวัน
วิญญาณร่าย ฟ่ายฟ้อน ฟ่อนฟุ้งฝัน
คืนแรมจันทร์ พลันพร่า ผวาไหว
หนาวชีวัน อันล้า ปร่าอกวาย
สายลมกราย ผายผ่าน ปราณรวยริน
ห้วงนที ที่แหวกว่าย ดังหมายมาด
แม้นพลั้งพลาด อาจจม ถมถ่วงสิ้น
หมู่มัจฉา ย่อมว่ายหวน ทวนวาริน
ยังชีวิน ให้ยั้งอยู่ ด้วยสู้ทน
ยามยั้งหยุด ฤๅยุดโลก อันโศกได้
ยามร้างไร้ แรงล้า อย่าหมองหม่น
ยามมีภัย ไม่ผายผัน มั่นกมล
เกิดเป็นคน ฤๅยอมพ่าย ให้อายใคร
แม้นเหนื่อยเนือง เรื่องร้าย ให้หน่ายนัก
เพียงหลบพัก สักหนึ่งฝัน พลันร้ายหาย
รอวันพรุ่ง รุ่งทิวา มาเยี่ยมกราย
อันสิ่งร้าย ย่อมสลาย มลายเลือน
3 กรกฎาคม 2550 05:17 น.
ปลายตะวัน
อันอักษร ซ้อนนัยน์ มาร่ายลักษณ์
แลพิมพ์พักตร์ สักเล่ห์ สิเน่หา
จุติร่าย กลายคำ พร่ำมนตรา
ดลอุรา มาสร้าง สล้างแล
อันความจริง สิ่งใด ใคร่ครวญคิด
พึงพินิจ พิศไฉน ไยแยแส
เล่ห์อักษร ซ่อนกล ปนปรวนแปร
อย่าชะแง้ ชะเง้อเฝ้า ในเงาคำ
อันอักษร ฟ้อนร่าย กลายสวาท
อาจพลั้งพลาด บาดใจ ให้ถลำ
แลสุนทร อ้อนเอื้อน เรือนลำนำ
อย่าเบือนคำ เป็นความ จนหวามไป
อันรูปงาม นามสวย สำรวยยิ่ง
ฤาแท้จริง สิ่งสมมุติ หยุดหวั่นไหว
เพียงแสดง แฝงเร้น เล่นตามไป
ควรหรือไร ไยจึงหวาม ตามเล่ห์คำ
1 กรกฎาคม 2550 23:03 น.
ปลายตะวัน
(๑)แด่ผืนทราย
คลื่นครืนซัด พัดพา อุราไหว
ซบซัดทราย วายผวา ว้าวุ่นหมอง
เพียงสัมพันธ์ ฉันท์เพื่อน อย่าเบือนปอง
จนเราสอง หมองหมาง ร้างเลือนลา
ณ ที่ปลาย สายรุ้ง ของพรุ่งนี้
เพียงฤดี ยังดำรง คงรักหนา
อันเจ็ดสี ที่สายรุ้ง พุ่งพาดมา
ใคร่สานฟ้า มามอบ ไว้ปลอบใจ
(๒)แด่กานดา
อันคลื่นแรง แซงซัด จนหวาดหวั่น
จนสัมพันธ์ เพื่อนผัน เป็นผ่านหาย
อันรักเอย เคยไล้ รูปใจกาย
เป็นพิมพ์คล้าย กานดา มาลูบชม
ฝากลมพ้อ ง้องอน อ้อนใจเจ้า
ร้าวใจเร่า เผาพร่า พาขื่นขม
เพียงเข้าใจ คล้ายผิด จิตโศกตรม
ฝากเจ้าชม คมคำ ใจย้ำตรอง
28 มิถุนายน 2550 22:42 น.
ปลายตะวัน
นิตยสาร National geographic ประจำเดือนตุลาคม ค.ศ.1982 ได้เทิดทูนในหลวง
โดยลงบทความเรื่อง Thailand's Working Royalty หมายถึง "พระราชกรณียกิจใหญ่หลวงนัก"
ท้ายสุดได้อัญเชิญพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เรื่อง "เดินตามรอยเท้าพ่อ" โดยถ่ายทอด
เป็นภาษาอังกฤษ แสดงถึงพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการประกอบพระราชณียกิจ
ซึ่งคนไทยทุกคนสมควรที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้
The Footsep of My Father
Through the dark jungle, very dense,
Which stretches out interminably , somber and immense
I follow without stopping the footstep of my Father.
Oh Father, I am dying of hunger and I am tired.
Look! The blood is running from my two wounded feet
Father! Will we arrive at our destination?
-Child! On the earth there exists no place
Full of pleasure and comfort for you.
Our road is not covered with pretty flowers.
Go! Always,even if it breaks your heart.
I see the thornes prick your tender skin.
Your blood: rubies on the grass, near the water.
On the green shruberry, your tears dropped.
Diamonds on emerald, show their beauty.
For all the human race does not lose its courage
In the face of pain. Be tenacious and wise.
And be happy to have and ideal so dear.
Go! If you want to walk in the Footstep of your Father.
เดินตามรอยเท้าพ่อ
ฉันเดินตามรอยเท้าอันรวดเร็วของพ่อโดยไม่หยุด
ผ่านเข้าไปในป่าใหญ่ น่ากลัว ทึบ
แผ่ไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด มืดและกว้าง
มีต้นไม้ใหญ่เหมือนหอคอยที่แข้มแข็ง
พ่อจ๋า
ลูกหิวจะตายอยู่แล้วและเหนื่อยด้วย
ดูซิจ๊ะ
เลือดไหลออกมาจากเท้าทั้งสองที่บาดเจ็บของลูก
ลูกกลัวงู เสือ และหมาป่า
พ่อจ๋า
เราจะถึงจุดหมายปลายทางไหม?
ลูกเอ๋ย
ในโลกนี้ไม่มีที่ไหนดอกที่มีความรื่นรมย์
และความสบายสำหรับเจ้า
ทางของเรามิได้ปูด้วยดอกไม้สวยสวย
จงไปเถิด แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่บีบคั้นหัวใจเจ้า
พ่อเห็นแล้วว่า หนามตำเนื้ออ่อนอ่อนของเจ้า
เลือดของเจ้า เปรียบดั่งทับทิมบนใบหญ้าใกล้น้ำ
น้ำตาของเจ้าที่ไหลต้องพุ่มไม้สีเขียว
เปรียบดั่งเพชรบนมรกตที่แสดงความงดงามเต็มที่
เพื่อมนุษยชาติ จงอย่าละความกล้า
เมื่อเผชิญกับความทุกข์ให้อดทนและสุขุม
และจงมีความสุขที่ได้ยึดอุดมการณ์ที่มีค่า
ไปเถิด
ถ้าเจ้าต้องการเดินตามรอยเท้าพ่อ.
................................................................................................
รอยเท้าพ่อ
รอยเท้าพ่อ ต่อก้าว สืบเท้าย่ำ
เนื้อทิ่มตำ ช้ำหนาม มิคร้ามไหว
พ่อยังก้าว สาวต่อ มิท้อใจ
ปลิงเร้นไล้ ไต่แต้ม แกมเนื้อทน
รอยพ่อย่ำ ย้ำใจ ไว้หนักแน่น
ดังผืนแผ่น ภูผา ท้าเวหน
แม้นหวามไหว ใจล้า คราอับจน
รู้ว่ายวน หว่างฟ้า พารอดไป
แล้ววันนี้ พ่อ(เรา)ล้า แล้วหนาเจ้า
อย่าหลงเยาว์ เขลาคร่า พาหวั่นไหว
จงรู้ตน ท้นตัว ทั่วกายใจ
รู้สิ่งใด อันควร มิควรเอย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
28 มิถุนายน 2550 03:34 น.
ปลายตะวัน
อันหนามเหน็บ เจ็บเนื้อ เข้าเถือบ่ง
ยังเจ็บตรง เนื้อยาม หนามเหน็บหนอง
ใช้หนามบ่ง ตรงเนื้อเจ็บ เหน็บเนื้อรอง
จึงบ่งถอง หนองปลั่ง ที่คลั่งคา
ยามอารมณ์ ตรมตรอม มาห้อมหุ้ม
ร้าวมารุม สุมส่อง หมองหนักหนา
กลับมิพบ สบทาง สางปัญญา
จึงปวดปร่า พร่าเลือน ฟั่นเฟือนใจ
จะบ่งถอง หนองคลั่ง ที่ปลั่งจิต
จะสัมฤทธิ์ ด้วยปํญญา พาผ่องใส
ด้วยสงบ พบทาง รู้วางใจ
บ่งเนื้อใน ให้รู้คลาย วายอารมณ์