21 กรกฎาคม 2550 17:22 น.

มนุษย์เปล่า

ปลายตะวัน

scr_23683.jpg

มนุษย์เปล่า เหมาจ่าย เท่าไรหนอ
เท่าไรพอ เพียงค่า วิญญาณ์สถุล
ถูกซื้อจอง ครองผิด  ในสิทธิ์คุณ
ฤๅสกุล มาสูญสิ้น แล้วถิ่นไทย

เหลือร่างเปล่า เท่าเพียงซาก เขาลากถือ
ในเงื้อมมือ อมนุษย์ สุดหวั่นไหว
ไร้วิญญาณ พารานร้าว คราวสิ้นไท
สสดใจ ไหม้หมอง พึงตรองเอา

เมื่อสุดท้าย ปลายชีวา นั้นมาถึง
จะคำนึง สิ่งใด ไว้ไล่เหงา
ถึงเวลา คราซื้อคืน ตื่นมัวเมา
เหลือเพียงเงา มืดชั่ว  ที่ตัวทำ

ร่างมนุษย์ ที่สุดนั้น  พลันสลาย
ย่อมมลาย เกินรุด ยุดถลำ
เมื่อสิ้นเรา เหลือเงาจิต ไว้พิศจำ
เจ้าเหลือคำ ใดไว้เล่า ผู้เปล่าเปลือย				
17 กรกฎาคม 2550 23:07 น.

รักวาย

ปลายตะวัน

jaonoi.gifภาพเจ้าน้อย ศุขเกษม(เจ้าชายแห่งล้านนา)


อันความรัก มักไม่สม ภิรมย์หมาย
แม้นหญิงชาย พิศวาส ก็อาจหมอง
ยามรักรอน ร้อนเร่า แผดเผากอง
เกินใจปอง ป้องปราศ สวาทวาย

รักมิห้าม ปรามชั้น อันชนไหน
ย่อมโลมไล้  หฤทัย ไม่เลือนหาย
อันรักขื่น คืนชม จนตรมตาย
แม้นเสียดาย ก็จำคลาด นิราศลา

รักเอยรัก สลักมั่น ไม่หวั่นไหว
เกษมวาย วางสุข ผิทุกข์หนา
มิอาจปอง ครองรัก พักตร์สุดา
จึงรอถ้า ที่ปลายสรวง เคียงดวงดาว

รักหนอรัก ภักดิ์มั่น ไม่หวั่นหวาม
คอยติดตาม เป็นความเจ็บ เหน็บใจหนาว
มิอาจอยู่ ชมชู้ชื่น ให้ยืนยาว
รักหนุ่มสาว คราวสะบั้น ดังบั่นทรวง

อันความรัก มักขื่นขม ไม่สมหมาย
ด้วยมากมาย ปัจจัย แสนใหญ่หลวง
อาจบำราศ พลาดพลัดเมิน เกินถามทวง
แลลับล่วง ติดบาศบ่วง แห่งห่วงมาร

อุทาหรณ์ สอนใจ เรื่องเจ้าน้อย
ไม่คลาดคล้อย ลอยลับ ดังขับขาน
เรื่องมะเมียะ สอนใจ ทุกวันวาร
เป็นเฉกกานท์ คอยรานลบ ทบทิวา




*** เรื่องราวระหว่างเจ้าน้อยกับมะเมียะ คลิ๊ก! อ่านที่นี่				
14 กรกฎาคม 2550 01:46 น.

อ่อนแรง

ปลายตะวัน

2547-5-22-062152-22612.jpg


ตะวันรอน อ่อนแสง เมื่อแลงหาย
จวบใจวาย ไหวหวั่น ดั่งจันทร์เหงา
แม้นดวงดาว พราวพราย รายล้อมเงา
ดั่งรากเหง้า เปล่าเปลือย เอื่อยลมริน

ด้วยเหง้ากอ ฝ่อหาย ปรายลมหวน
อารมณ์รวน-เรผาย คล้ายจบสิ้น
ดั่งพ่ายพับ ทับท่าว เพียงราวดิน
ไร้คนยิน ยลเฝ้า ผ่องร้าวรอน
แต่งโดยปลายตะวัน(thaipoem.com)
เหง้าวิญญาณ อันร่านร้อน อ่อนแรงแล้ว
ดั่งวอดแวว วาวชีวิต ใครปลิดสอน
โอ้หัวใจ คล้ายพราก ลงจากจร
อกสะท้อน อ่อนล้า ระอาองค์

จึงโรยร่าง เคว้งคว้าง หว่างจันทร์ฉาย
อาบพระพาย   พลิ้วพร่อง ใจล่องหลง  
ลมปราณแผ่ว แล้วคาย ปลายฝันปลง
เหลือร่างคง ลงนอนเคียง เพียงแค่ดิน


(*แลง เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ตอนเย็น )				
10 กรกฎาคม 2550 00:12 น.

วันวาน...ของพรุ่งนี้

ปลายตะวัน

ispc069054.jpg
อันวารวัน มิผันคล้อย ถอยวิถี
เปรียบวารี รินไหล ไม่คืนหลัง
อันอดีต กรีดกราย หมายเบือนบัง
มิอาจฝัง สิ่งพลั้งพลาด บำราศลืม
แต่งโดยปลายตะวัน(thaipoem.com)
แม้นเคยเอื้อน เคลื่อนคาย แค่ปลายถ้อย
พลันถ่วงถอย   เป็นรอยหลัง เพียงครั้งปลื้ม
ฤๅร้าวราน     ฝานเฝื่อน  ยากเลือนลืม
มิอาจยืม เวลาทด มาปดบัง

อันกรรมลอบ กอร์ปไว้ ไม่อาจแก้
ดีชั่วแท้ ปรากฎ กำหนดฝัง
เกินย้อนยอก หลอกเลื่อน เคลื่อนคืนรัง
แล้วยุดยั้ง ความหลังร้าง ลบลางเลือน

อันเรื่องเก่า  ร้าวหรือรื่น มิคืนหาย
ย่อมผ่องผาย  ปรายอารมณ์ บ่มเสมือน
มโนธรรม เฝ้าย้ำความ คอยตามเตือน
ลืมฤๅเลือน เหมือนตายทั้ง แต่ยังเป็น

ก่อนทิวา ผวาหวาม เป็นยามพรุ่ง
ก่อนจะปรุง อารมณ์ บ่มรูปเห็น
พึงพิศถ่อง ผ่องถ้อย ค่อยคล้อยเป็น
พึงบำเพ็ญ เห็นธรรม เฝ้าย้ำเตือน
				
5 กรกฎาคม 2550 17:53 น.

ความหวัง

ปลายตะวัน

y1poFZ3dbDKxfP7vCv2I66TNPoN2q63j5cqOUNO7
เมื่อแสงทอง รองรับ ระยับหล้า
ฝนจะซา ฟ้าจะสาง ร้าวจางหาย
ทุกข์ถมทับ อันพ่ายพับ ก็กลับกลาย
สู่สุดท้าย ปลายฝัน  เป็นมั่นคง

อันแม้นหวัง ตั้งมั่น อย่าหวั่นไหว
จงย่ำไป ไม่ถอย คล้อยลืมหลง
แม้นสุขทุกข์ คลุกเคล้า  สั่นท่าวองค์
จะดำรง คงมั่น ไม่พรั่นพรึง

ด้วยสมอง สองเท้า จึงก้าวมั่น
ทุกวารวัน พลันทุกข์กลบ จนทบถึง
จะถมทาง ถางถาก ตรากตรำตรึง
จะสานซึ่ง  สิ่งนั้น ไม่สั่นคลาย 

แม้นโลกล่วง ดวงดับ ลงทับท่าว
ฤๅอกร้าว  รานแยก แหลกสลาย
สู่สวรรค์ อันดาว  พราวพร่างพราย
วิญญาณร่าย  ยังว่ายว่อน บ่ห่อนจาง


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลายตะวัน
Lovings  ปลายตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปลายตะวัน