15 พฤษภาคม 2550 17:53 น.
ปลายตะวัน
ยามที่ มโนร้าว
จงเป็นดาว อันพราวแสง
ยามล้า อย่าโรยแรง
จงอย่าแล้ง ร้างแรงใจ
ที่ใน มโนนั้น
เคยวาดฝัน อันสดใส
จงกล้า เดินก้าวไป
จงก้าวไกล ดั่งใจปอง
15 พฤษภาคม 2550 14:11 น.
ปลายตะวัน
คำตัดพ้อ ต่อว่า ฉันบ้าบิ่น
หาว่าสิ้น ความรู้สึก นึกหน่ายหนี
หาว่าใจ ข้างใน ไร้ไมตรี
ไร้ซึ่งที่ จะรู้สึก นึกรักลง
ก็ตอนนั้น ฉันนี้ แค่สิบสี่
ไม่เคยมี ซึ่งรัก และลุ่มหลง
ใจก็เลย เฉยเฉย คล้ายงงงง
จะให้ปลง ใจง่าย ได้อย่างไร
จนเมื่อครั้น วันวาน นั้นผ่านผัน
สองเรานั้น แรมร้าง จนห่างหาย
ใจหวิวหวิว คล้ายคล้าย จะวางวาย
โอ้ใจชาย เผลอรัก จนหนักทรวง
จนเมื่อครั้น วันนี้ ก็นานแล้ว
โอ้น้องแก้ว อยู่ไหน ใจห่วงหวง
รู้บ้างไหม ใจพี่ หมดทั้งดวง
มอบให้พวง มาลี นี้มานาน
15 พฤษภาคม 2550 02:49 น.
ปลายตะวัน
เหลืองอร่าม งามแผ่นพื้น พสุธา
ดุจธารา น้ำพระทัย ของในหลวง
รักเพียงหนึ่ง ซาบซึ้งใน ใจทุกดวง
รักทั้งปวง ถวายองค์ พระทรงธรรม
15 พฤษภาคม 2550 02:09 น.
ปลายตะวัน
คืนนี้ ไม่มีเหงา
เพราะมีเงา เป็นเพื่อนเหงา
คืนนี้ ไม่มีเรา
แต่มีเหงา เป็นเพื่อนใจ
15 พฤษภาคม 2550 01:11 น.
ปลายตะวัน
ที่ที่ใด ที่ใจ นั้นมีรัก
ที่ที่มัก มีทุกข์ มีหม่นหมอง
ที่ที่นั้น ก็มีสุข ตามครรลอง
ที่ที่ต้อง กำหนดรู้ อยู่เท่าทัน
ที่ที่ใจ ดวงนี้ นั้นพลาดรัก
ที่ที่มัก หม่นหมอง ครองโศกศัลย์
ที่ที่ใด เคยสุข อยู่ทุกวัน
ที่ที่นั้น กลับมีทุกข์ อยู่ทุกคืน