24 พฤษภาคม 2553 01:32 น.
ปลาทูสามเข่ง
ฉันหิวคำเอ่ยลา
วันหนึ่งฉันถามตัวเองว่า
ความรู้สึกเศร้ามันจะให้ความรู้สึกเจ็บปวดมากได้สูงสุดสักเพียงไหน
ฉันจะแสดงอาการอย่างไร
ความเศร้าที่ครอบครองฉัน จะระบายออกไปทุกอณูของผิวกายฉันหรือไม่
รสชาติของมันจะขม หรืออาจแทบกลืนน้ำลายไม่ไหว
อาการกัดกร่อนลึกเข้าไปในหัวใจ มันจะช่วยให้ตัวฉันรู้สึกเบาหวิว
จนกลายเป็นฉันเสพมันโดยขาดไม่ได้หรือเปล่า
ฉันหิวการลาจาก
มันคงเจ็บปวดแต่มันคงบาดลึกจนรู้สึกตายด้านอย่างสบายใจอีกแบบ
หากวันใดที่ฉันแทบก้าวลุกจากเตียงไม่ไหว
มันคงเป็นขออ้างให้ฉันจมตัวนอนลงต่อ และหันมาใส่ใจลมหายใจตัวเอง
ฉันหิวและฉันต้องการ
อยากรู้ว่าความเศร้าจะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นการทรงตัวมั้ย
เจ็บในใจมันคงเป็นรสหวานฝืดจนนึกแล้วอยากเอาลิ้นเลียปาก
หากความเจ็บปวดคือฉันและเธอพลัดพลาก
ฉันก็คงยินดีต้อนรับมันอย่างแข่งขัน
เพื่อสนุกในการแกะสะเกตแผลเป็นที่เหลือทิ้งไว้เป็นร่องรอย
18 พฤศจิกายน 2545 18:43 น.
ปลาทูสามเข่ง
---- หลังเที่ยงคืน ของคืน ๆ หนึ่ง ---
" เอียด ...!! ------------ " เสียงรถบรรทุกได้ดังขึ้นมา ราวกับเหมือนเป็นเสียงเตือนเหตุร้ายอย่างใดอย่างหนึ่ง ...มันช่างปวดร้าว และน่าตกใจจริงๆ ...
" นั่น !! เร็วๆหาคนมาช่วย !! ตอนนี้เลย ก่อนเธอจะตาย !!" เสียงชายร่างท้วมตระโกนลั่น หลังจากที่เค้าลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เค้าตระโกนรีบหาคนมาช่วยหญิงสาวที่นอนจมกองเลือด รถได้ติดเป็นแนวยาว และเจ้าของรถหลายคันก็ลงจากรถ มาดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
หวิ้วววววววว ------------
.... ลมที่มาจากไหนก็ไม่รู้พัด ..อยู่แนวๆ ข้างร่างหญิงสาวที่สลบอยู่ ...
" มาแล้ว !! เร็วเลยครับ รีบนำส่ง !!!!! " ชายร่างท้วมคนนั่นตระโกนบอกให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรีบนำเธอไปรักษาโดยเร็ว
หญิงสาวคนนั่นมีท่าทีรู้สึกตัว เธอสลืมๆ และพยายามลืมตาว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กระนั่นดวงตาทั้งสองข้างก็จะดูเหมือนว่มีเทปใสปิดอยู่ไม่สามารถให้เธอลืมได้ และเธอก็หลับไป
" ฉัน ..................... ---- " เธอปวดหัวและพยายามลืมตาขึ้น ..
" เออ --- หลับตาซะนะ คุณยังเพลียอยู่คะ" เสียงนางพยาบาลข้างๆเตียงเอ่ยขึ้นมา ตอนนี้เธอได้นอนอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
" มีใคร ..มาเยี่ยมชั้นบ้าง ---- ไหม ..มคะ ..!! " เธอพยายามพูดขึ้น ..แต่นางพยาบาลก็ตอบกลับมาว่า .." เมื่อเช้า --- มีคนมาเยี่ยมคุณคะ ฝากช่อดอกไม้มาให้ด้วย อืมม ..มีการ์ดบอกว่า หายเร็วๆนะ " นางพยาบาลตอบกลับ และเดินออกจากห้องแต่ก่อนเธอออกจากห้องเธอพูดว่า " เค้าเป็นผู้ชายคะ " และนางพยาบาลก็เดินออกไป
หญิงสาวได้แต่ยิ้ม และพยายามนำมือ ลูบๆ หาช่อดอกไม้ เพื่อมาเชยชม
-------- คืนนั่น --------
" ดาเป็นยังไงบ้าง !!!!!" ชายคนหนึ่ง หน้าตาดี รีบเข้ามาในห้องผู้ป่วยของหญิงสาวที่ชื่อว่า ดา ชายคนนั่น รีบพวดเข้ามาและตรงไปเตียงเธอ และกุมมือเธอ มาไว้ที่หน้าอกหญิงสาวรู้สึกตัว และค่อยๆลืมตาขึ้น ....เธอยิ้มให้ชายคนนั่น
" คุณเป็นยังไงบ้างคะ ชั้น --------- ไม่ ...เป็นไรคะ !! ...สบาย ..ย ดี .."เธอพูดขึ้นอย่างลำบาก
" รู้ไหม !!?? มีคนเค้าเป็นห่วงคุณมาก !!" ชายคนนั่นพูดกับเธอพลางปลอบเธอ โดยการนำมือไปลูบศีรษะ
" คุณอย่าโกหกฉัน ....------------- เลยนะ !! ทั้งๆที่ ร ...รู้ !! อยู่แล้วว่า พ่อ ..แม่ ตัดเยื่อใยกัน แล้วว ---------" ดาพูดขึ้นอย่างลำบากพลางหลับตาและพูดต่อ .." ฉันไม่อยาก ...ล ...ลืมตา --- ทั้งๆที่ -----------"
" เงียบเถอะดา .." ชายคนนั่นส่งยิ้มให้เธอ " ผมจะไปถามอาการคุณนะ ว่าคุณเป็นยังไง รอแป๊บนึง ไปหาหมอก่อน ..." ชายคนนั่น ..ยิ้มให้ดาอีกครั้งและเค้าก็เดินจากห้อง
" อย่าเลยฟาก ...คุณถามหมอไปก็ไม่มีประโยชน์ทำให้ฉันหายจากการป่วยได้หรอก ..." เธอพูดลอยๆ คนเดียว...ยังไม่ลืมตา .................
"...........หลังจากนี้ มานับถอยหลังเวลาที่ชั้นยังอยู่บนโลกนี้ดีกว่านะ ..."
12 ตุลาคม 2545 18:52 น.
ปลาทูสามเข่ง
สื่อจากเรื่องจริง ..
อาร์ร้องไห้ ..เพราะเธอพึ่งผิดหวังในชีวิต เธอทรุดกายนอนราบกับพื้น .. มันเป็นเรื่องผิดหวังที่ไม่เข้าท่า คนนับร้อยไม่เข้าใจเธอ ..กับแค่เธอพยายามจะทำดี แต่สิ่งที่เธอพยายามทุกครั้ง คว้าน้ำเหลวตลอด เธอ ..ช่วยชีวิตเด็กชายคนหนึ่ง ใช่ .!!..แล้วเด็กคนนั่น มันก็ดันเข้าใจผิดนึกว่าเธอผลักเค้าตกน้ำ ..เหอะ .. เธอก็ยังยิ้ม ..แต่เธอไม่ใช่คนดีหนักหรอกนะ
"..เพียงแต่คุณมองเธอผ่าน ๆ ..และก็ฟังเรื่องของเธอมาจากคนอื่น ...โดย โดย ..โดยไม่เห็นภาพขึ้นจริง ก็เหมือนที่ครูสอนนั่นแหละ ..อย่ามองคนแค่เดินผ่าน อย่ารู้เรื่องเค้าจากปากมารของคนอื่น ..ดูด้วยตา คิดด้วยใจ.."
..และนี้มันก็ทำให้เธอ ..ต้องไปคนเดียว เดินคนเดียว ยิ้มคนเดียวหัวเราะคนเดียว ฟังคนเดียว ..คุยคนเดียว เหมือน ' คนบ้า ' ก็น่าจะใช่ แล้วแต่คุณจะคิด ...เรื่องเล่าเธอ ยังไม่จบนะ ...ยังมีอีกหลายแบบหลายสไตส์ ให้ขำกันเล่น .. มีเรื่องหนึ่งที่เธอ ...อยากจะเปรียบเทียบและถ่ายทอดด้วยใจว่า
" คนเราที่ดังๆ ..มีละคร ดีเด่น แสดงดี ..ได้รับบทดี กับคนหนึ่งนะ ..ที่เค้าก็แสดงได้ดีมากๆมีผลงานละคร ..ที่ดีๆ แต่เธอได้รับบทเป็นตัวไม่เด่น แต่ก็เป็นตัวสำคัญ ที่ให้กำเนิดเรื่องขึ้น ...เปรียบกับคนสองคนที่แสดงมีคนนึง เค้าหน้าตาดี และเด่น ดัง ...แต่การแสดงแย่ ..แต่ไม่ถึงกับแย่มากๆ..ถ้ามีสี่ระดับ ดีมาก ดีพอใช้ แก้ไข เค้าอยู่ในขั้น ดี ..แต่ถ้าเทียบอีกคนแล้วเค้าแสดงได้สุดยอด..!! ทำทุกอย่าง ดีมากๆ หน้าตาไม่ดี ไม่เด่น"
..................แต่พวกเราก็ยังจะเลือกคนที่หน้าตาดีเสมอ..........................
และนิยม คนที่ดังคนที่มีละครหลายเรื่อง เป็นที่ยิยมกันมาก คำให้เรานิยมตาม....
..............................เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง...................................
......" แม้คนสติที่ไม่ดี ต้องอยู่โรงพยาบาลบ้า ...ก็ยังมีน้ำใจมากกว่าคนสติดี ....."
...."ซึ่งเรื่องราวนี้ มันทำให้ใครหลายคนที่เค้าพยายาม ต้องน้อยใจเหมือนอาร์"
" ...ไม่มีใครเข้าใจเธอเลย ....ไม่มีเลย...."
......"เข้าใจผิด ไม่ยอมคิด ....ไม่เอาเหตุผลมาเป็นใหญ่ แม้แต่น้อย ......."
...." ไม่ยอมรับตัวเอง เห็นสิ่งไหนนิยม ก็นิยมตาม ตามกัน ....ทั้งที่มีอีกหลายคน"
++++++ ที่เค้าพยายาม ++++++
**** ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกเดือน ก็จะดี ...
10 ตุลาคม 2545 17:51 น.
ปลาทูสามเข่ง
มิตรภาพ #6 ตอน เหล่าขุนพล กับเหล่าเทพ
หลังจากนั่นไม่นาน เทพสีแดงก็ล่องหายไป เพื่อไปดักรอพร้อมเหล่าเทพทั้งหลาย หวังให้ขุนพลทั้ง 5หลงมาติดกับ .. ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ ....ร้ายมาก ..
ทางด้าน ฟางกับ ต้นหญ้า ..
"ฟางครับ ดูแผนที่หน่อยสิ ว่าต่อไปจะเลี้ยวไปทางไหน" ต้นหญ้าพูดขึ้น เพราะทั้งสองกำลังยืนอยู่หน้าทางแยกสองทาง .. "อะ..เออ..เดี๋ยวนะจ๊ะ.." ฟางพูดขึ้น ขณะเธอกำลังคว้านหาแอ็ปเปิ้ลสีทอง ..." เดี๋ยว...จ๊ะ ...แป๊บนึง" เธอกำลังคว้านหาจะหนักขึ้น เพราะเธอหาแอ็ปเปิ้ลสีทองไม่เจอ "ตายละ...ฉันลืม ...แอ็ปเปิ้ลสีทองไว้..!!!" ฟางตระโกนขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่เธอหาทั่วกระเป๋าแล้ว ปรากฎว่า ไม่มี..!! ทางต้นหญ้าเมื่อได้ยินแล้วก็ตกใจเช่นกัน "หะ..!! บ้าน่ะ...คุณพกมันติดกระเป๋าตลอดนิ !!" ต้นหญ้าพูดคล้าย ว่า+ตระโกนใส่ฟางก็ว่าได้ "อะ..เออ...ต้นจ๊ะ..ใจเย็นๆ..คือเรา ..ขอโทษนะ.." ฟางพูดปลอบต้นหญ้า แต่ใจของฟางก็ชักกลัวต้นหญ้า ..ต้นหญ้าเพิ่งรู้สึกตัว เค้าลืมตัวไป และก็หันกลับขอโทษฟาง และทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะไป ที่เดิม ...
ทางด้านปราสาท ของชายในผ้าคลุม
ชายผ้าคลุมรู้สึกตัว เค้าใจเต้นแรง และรัวมาก ...อาจเป็นว่าเค้ากำลังวิตกกังวลกับเรื่องเทพ กับขุนพลอยู่ เค้ารู้สึกเหนื่อยและอยากนอนมากๆๆ แต่ใจของเค้ามันดันบังคับไม่ให้เค้านอนซะนี่ ... ชายในผ้าคลุม เค้าเดินไปที่หน้ากระจก ..และถอดผ้าคลุมออก ...ภาพในกระจก ..เป็นภาพชายหนุ่มประมาณ วัย 18 หัวเราะเริงร่า ยิ้ม มีหญิงน้อยๆ อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเดินข้างๆกาย เธอสวยมากเลย ...เป็นหน้าตาที่ชายต่างหมายปองก็ว่าได้ ...ทั้งสอง เดินด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ยิ้มให้กัน.....------------ "บัดซบ...!!!!!!!" ชายในผ้าคลุมตระโกนลั่นพร้อมหยิบรูปปั้นขนาดเล็กปาใส่กระจก .. เค้าก้มหน้าพร้อม ค่อยๆนำมือทั้งสอง มาจับบนใบหน้า ไล่ตั้งแต่นิ้วชี้ รู้สึกว่า น้ำตาได้เอ่อหยดลงมาไหลแอบแก้มเค้าแล้ว เค้ารู้ตัวอีกที ก็ทรุดลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง ..ยังมีเรื่องลึกลับอีกมากมาย ที่เข้ามาพัวพันกับชายหนุ่มน้อยในผ้าคลุม ...ทั้งที่ภาพในกระจก มันแต่งเติมด้วยรอยยิ้ม แต่ในความจริงมันช่างแตกต่างกันจริงๆ .... เค้านอนราบกับพื้น ไม่คิดจะลุกขึ้น ไม่คิดจะเดินหน้า ...กว่าจะมีใครมาฉุดเค้าให้ลุกขึ้นอีกครั้ง.....
ทางด้านฟาง และต้นหญ้า ซึ่งเดินทางกลับไปที่พักที่เดิม เพราะทั้งสองลืมแอ็ปเปิ้ลสีทอง
"ไอ ..ทางนั่นมันไปทางไหนนะ..!!" ต้นหญ้าบ่นพร้อมกับเดินหาไปเรื่อยๆ..
"เรา..หลงทาง" ฟางซึ่งไม่เคยให้กำลังใจต้นหญ้าเลย และกลับมาซ้ำเติมอีก ซึ่งทำให้ต้นหญ้ากดดันยิ่งขึ้น "...เรา..หลงทางแน่ๆๆ.."ฟางซ้ำเติมขึ้นอีกครั้ง "ฟาง...คุณน่ะ..ไม่รู้อะไร อย่าพูดเลยครับ อย่าตรอกย้ำผม อย่าทำให้ผมกดดันไปกว่านี้!!" ต้นหญ้าตระหวาดใส่ ...ฟางซึ่งพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดไปก็ขอโทษต้นหญ้า ..อาจจะเป็นเพราะเธอกลัว กับการเดินทางที่เธอไปเคยไปไหนคนเดียว ใจเธอเลยอ่อนแอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งรอบๆตัวก็ว่าได้.. "ในตอนนี้เราอาจจะไม่มีประโยชน์สำหรับต้นหญ้าเลย ในการเดินทางนี้เราอาจจะเป็นตัวถ่วง" ฟางคิด เธอยังคงเดินตามต้นหญ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไปเจอแอ็ปเปิ้ลสีทอง "หยุด..!!!!" ต้นหญ้าหยุดกะทันหันเค้าตระโกน เพราะดูเหมือนจะมีกลุ่มคนยืนอยู่ข้างหน้า ..."ใครฮะ..." ต้นหญ้าตระโกนไปทางที่ชายพวกนั่นยืนอยู่ "เออ..เราว่านะจ๊ะ เดินไปหาเค้าเลยดีไหม ?" ฟางถามต้นหญ้า ต้นหญ้าเมื่อได้ยินคำคิดเห็นของฟาง ก็คิดหนัก สักพักเค้าก็ตอบฟางว่า "ผมว่าอย่าเดินครับ มันอันตราย" แต่ดูท่าทางฟางจะไม่เชื่อ เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงใคร เธอวิ่งไปทางชายพวกนั่น มันทำให้ต้นหญ้าตกใจ และตระโกนเรียกฟางให้กลับมาพร้อมวิ่งตาม "ฟางฮะ...! รอก่อน..ๆ..แค่กๆ.." ต้นหญ้าตระโกนเรียก แต่ไม่ทันซะแล้วละ ฟางไปหยุดยืนตรงหน้ากลุ่มชายพวกนั่น ดูเหมือนจะมีด้วยกัน 5 คนสวมผ้าคลุมทั้งหมด เป็นสีๆ สีต่างๆของแอ็ปเปิ้ล ...พวกเค้าทั้ง 5 เดินมาใกล้ฟางและต้นหญ้ามากขึ้น...มากขึ้น.. "ช้าก่อน ขุนพล..!!" ดูเหมือนมีใครคนหนึ่ง พูดขึ้น ...ฟางหันหน้าไปทางเสียงนั่น ..เค้าคือเทพพิทักษ์อีก 2 คนที่เดินทางมาถึงแล้ว ...เทพสีดำ...เทพสีเงิน ...ซึ่งคนที่พูดคือเทพสีดำ น้ำเสียงเค้าอ่อนหวานละมุนมาก..ชุดที่เค้าใส่สีดำมืดมิด แต่แววตาไม่ได้มืดไปด้วย แววตาเค้าเปงประกายแวววาว เค้าใส่เสื้อเกราะสีดำ ..มีหินเล็ก ...ล้อมตัวเค้า ..ใช่นั่นมันรัศมี ..ซึ่งมันทำให้คนอยู่ข้างกายเค้า..เคลิ้มตามเลย ...เทพสีเงิน ...ผิวพรรณสีเงินทั่งร่าง ใส่ชุด..สีเงินประกาย ...มีดาวดวง น้อยๆ..ลอยเคียงข้างอยู่หนึ่งดวง และนั่นมันคู่หูของเค้าเอง ..รัศมีของเค้าคนนี้ไม่เหมือนใครมันเป็นรัศมีที่อ่อนโยนก็จริง แต่ก็แฝงความเชื่อมั่น ...ใครได้อยู่ใกล้เค้าแล้วละก็ ....จะรู้สึกเยี่ยมเลย..!! ซึ่งฟางผู้อยู่ใกล้เทพทั้งสองนั่น เหมือนไม่ได้สติเลยละ เธอดูมีความสูขมาก...มากๆ ... "ขุนพล..อาร์ ..เด็กพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย ...เจ้าอย่าทำร้ายเค้าเลย" เทพสีดำเอ่ยขึ้น ...ซึ่งหนึ่งในขุนพลคนหนึ่งเดินออกมา ...ถอดผ้าคลุมสีดำออก ...เผยใบหน้าที่งดงาม ต้นหญ้าซึ่งยืนตกตะลึงอยู่นั่นคิดในใจว่า "พวกร้ายๆ นี่มีแต่หน้าตาดีกันแฮะ" และความคิดนั่นก็ต้องหายไปกะทันหัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อขุนพลสีดำหันหน้ามาทางต้นหญ้า เค้าสแหยะยิ้ม พร้อมกับกลืนอะไรบางอย่าง เค้ามองต้นหญ้าและพูดด้วยน้ำเสียงยินดีและขอบใจว่า "ความคิดเจ้า....อร่อยมาก.."
ติดตามชมตอนต่อไป ...
มิตรภาพ #7 ตอน ..ศึก ..5 เทพ
- จะรู้เรื่องลึกลับมากขึ้น เนื้อหาอาจจะเข้มข้นขึ้น ..
- ศึก ขุนพลทั้ง 5 VS เทพพิทักษ์ทั้ง 5
- ชายในผ้าคลุมได้เดินทางไปถึง ..ณ จุดหมายกำหนดของแผนที่เรียบร้อยแล้ว ...
9 ตุลาคม 2545 15:22 น.
ปลาทูสามเข่ง
มิตรภาพ #5 ตอน ชายในผ้าคลุม
เทพมองฟางเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูแล้วก็ยิ้ม...พร้อมพูดขึ้นว่า "เค้าคนนั่นก็คือคนที่จะมาเอาแอ็ปเปิ้ลสีต่างๆไปครอบครอง..ใครได้ครอบครองแอ็ปเปิ้ลทั้งห้า คนผู้นั่นก้จะยิ่งใหญ่มากเลยละ...ถ้าถามว่าเค้าคนนั่นคือใครฉันก็ตอบได้เลยว่า..เค้าคนนั่นก็ชื่อ "ชายในผ้าคลุม"
หลังจากที่เทพบอกลาฟางแล้ว ฟางก็ได้ไปปลุกต้นหญ้าซึ่งนอนหลับไม่ยอมลุกซักที..ฟางทั้งเรียก ทั้งตี แต่เจ้าหนูน้อยก็ไม่ยอมตื่น ฟางจึงไปทานอาหารที่หามาเมื่อคืน..และคิดไปเรื่อยว่า .."เราจะรอดไหมเราจะกลับบ้านได้รึเปล่า เราจะสู้ได้ต่อไปไหม เราจะต้องเจ็บช้ำรึเปล่า " นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจเด็กหญิงน้อยที่ต้องการคำตอบ อย่างมีเหตุผล เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ได้แต่เดินตามแผนที่..แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนสนิท ที่พร้อมจะร่วมเป็นร่วมตายกับเธอ ...ฟางคิดขึ้นพร้อมมองไปทางต้นหญ้า ซึ่งนอนละเมอ..ฟางยิ้มและก็ทานข้าวต่อไป
และในวันนั่นหลังฟางทานข้าวเสร็จต้นหญ้าก็ตื่นขึ้นมาพอดี...อละก็โกรธฟางที่ไม่ยอมปลุกเค้า ฟางได้แต่หัวเราะ และเล่าว่าปลุกแล้วแต่ไม่ตื่นเองนิ ... ทั้งสองได้เล่นและหัวเราะกัน จนสาย และก็เตรียมการที่จะเดินทางต่อไป...
...ทางด้านปราสาท ของชายในผ้าคลุม...
" มัน...มัน..ไอ้เทพพิทักษ์..!! " ชายในผ้าคลุมตระโกนลั่น ดังทั่วปราสาท ซึ่งทำให้ทหารของเค้าต่างหวาดกลัว "ไอเทพ...!! มันขัดขวางข้า..พวกทหาร !!!" ชายในผ้าคลุมตระโกนต่อ พร้อมเรียกทหารมา ซึ่งทหารพวกนี้ก็ไม่ค่อยจะกล้าเข้าใกล้เค้าเลย แต่เป็นลูกน้องนิ ต้องทำใจ " มีอะไร..ครับท่านชาย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น ท่าทีเค้าพูดออกไปไม่เต็มปาก..หรือเพราะว่ากลัว..? " ไปเรียกไอขุนพลมาสิ " ชายในผ้าคลุมพูดกับทหาร "ท่านเล่น ขุนพลเลยรึ มันมากไปรึปล่าครับ ท่าน..!!" ทหารในแถวคนหนึ่งตระโกนขึ้นถามชายในผ้าคลุมชายในผ้าคลุมส่งสายตา และก็ตระหวาดพร้อมยกมือ ไปชี้ที่ทหารคนที่พูดขึ้น "พูดมาก...!!!" ไม่นานทหารคนนั่นก็เป็นเศษผง ...ทหารที่อยู่ข้างตัวสั่นกันเป็นแถวๆ ชายในผ้าคลุมเห็นและยิ้มเยอะเย้ย และพูดขึ้นว่า"พวกเจ้า เป็นถึงมารที่เกิดมาจากความเกลียดชัง แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงกลัวได้ละ หะ..!! ข้าบอกให้พวกแกไปเรียกไอขุนพลมา..!!!! ยังมาย้อนข้าอีก พวกนี้ต้องเจอดี ...." ชายในผ้าคลุมพูดและ ตระหวาดให้ทหารไปเรียกทหารทุกคนที่ฟังคำพูดของชายในผ้าคลุม ต่างกล้าขึ้น "จริงสิ พวกเราเป็นมาร ไม่ใช่เหรอ ? น่าสมเพศที่พวกเรากลัวตัวสั่นขนาดนี้ ... ได้เลยท่าน เดี๋ยวข้าไปเรียกมาเอง" ทหารคนหนึ่งรู้สึกตัว และพูดขึ้น พร้อมเดินไปเรียกขุนพล ชายในผ้าคลุมยิ้มเหยอะ อย่างภูมิใจ และจึงไล่ทหารที่เหลือออกไป...สักพักได้มีชายรูปร่างผอม 5 คน สวมผ้าคลุมเหมือนกัน แต่เป็นผ้าคลุมสีแดงสด สีดำ สีทอง สีเงินและสีเขียว เดินเข้ามา ..มุ่งมาหาชายในผ้าคลุม และคุกเขาพูดว่า "ท่าน...จะให้พวกข้าไปแห่งใดอีกละ..?" หนึ่งในขุนพลพูดขึ้น ชายในผ้าคลุมยิ้มและพูดว่า "ข้าอยากให้พวกแก ไปขัดขวางไอเด็กสองตัว ซึ่งมันจะเดินตามแผนที่ไปหาสิ่งหนึ่ง ซึ่งสิ่งนั่นข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ข้าอยากให้พวกเจ้าเดินทางไปขัดขวาง ชะลอการเดินทาง ส่วนข้าจะไปจุดที่สิ่งนั่นอยู่ ข้าจะได้ครอบครอง" ชายในผ้าคลุมพูดขึ้น ขุนพลทั้งห้า ตอบรับและเดินจากไปทำหน้าที่ ส่วนชายในผ้าคลุมก็พูดขึ้นว่า.." อีกไม่นานเกินรอ ลูกแก้วในตำนาน...ก็คงไม่ไกล 55-----------" "ใครว่าละ..." รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมาขัดจังหวะการหัวเราะของชายในผ้าคลุม คนคนนั่นก็คือ เทพพิทักษ์แอ็ปเปิ้ลสีแดง ลักษณะของเค้า จะมีดาบไว้เคียงกาย และมีรัศมี สีแดงล้อมรอบอยู่ เค้าสง่ามากเลยทีเดียว ชายในผ้าคลุมเห็นดังนั่นจึงพูดด้วยความตกใจว่า "เจ้า...เจ้าออกมาได้ไง ข้าให้ทหาร ส่งวิญญาณกักขังในกล่องมืด แล้วนิ.!!" เทพสีแดง ยิ้ม และพูดว่า " ของแค่นั่น...มันไม่ได้ทำให้ข้า กำลังน้อยลงเลย ..เจ้ารู้ไหม ? ตอนนี้เพื่อนๆ เหล่าเทพของพวกข้า ต่างไปสกัดเหล่าขุนพลของเจ้าแล้ว ห้าขุนพล กับห้าเหล่าเทพ ...สีต่อสี กำลังต่อกำลัง ใครกันจะพิชิตได้" เทพสีแดงยิ้ม รอยยิ้มนั่นมันทำให้ ชายในผ้าคลุมกลัวนิดๆ ไม่มีใครรู้หรอก ว่าจิตใจของชายในผ้าคลุมอ่อนแอแค่ไหน... ไม่มีใครรู้เลย มีแต่ต่างกันหวาดกลัว ทั้งๆที่ชายคนนี้..เค้าเคยทำความดีไว้มาก พอสมควร แต่ว่ากลับไม่มีใครสนใจ ...ไม่มีใครจะพูดด้วย...แม้แต่น้อย ชายในผ้าคลุม เริ่มตัวสั่น เค้ารู้ตัวดีว่าเค้าแพ้รัศมีอ่อนโยน ของเหล่าเทพแอ็ปเปิ้ล เค้าจะซุดทุกครั้งเมื่อเทพทั้ง 5 เค้าใกล้ เทพสีแดงมองเห็น แล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู และพูดกับชายในผ้าคลุมว่า " เจ้าน่ะ...ยังมีเวลานะ ในการกลับตัว รู้ไหม ยังมีเทพธิดาองศ์น้อยๆ รอเจ้าอยู่เสมอ ...เธอห่วงและรักเจ้ามากนะ เทพวา..--------------" "หยุดพูด..!!!! " ชายในผ้าคลุมตระหวาดใส่ พร้อมทรุดตัวเข้าไปดิ้นกับพื้น เหมือนครั้งที่เจอเทพสีทอง "เจ้า..ไม่รู้หรอก ว...ว่า..ความเจ็บปวดมัน มันมากแค่ไหน ข้าตองทนกับมัน ข้า...-----" รู้สึกเหมือนเทพสีแดงจะ ทำให้ชายในผ้าคลุมสงบ ..เค้านั่งลงเคียงข้างร่างของชายในผ้าคลุมและพูดขึ้นว่า ...เจ้าน่ะ..ไม่รู้หรอกนะ ..ว่ายังมีเธอคอยเจ้าอยู่ ...เฝ้ารอเจ้า ...จนเธอต้องสิ้นลมหายใจ.. ซึ่งเธอ..ก็เป็นส่วนหนึ่ง...ที่ทำให้เจ้าเป็นอย่างนี้ .....เจ้าน่าจะกลับตัวนะ ... เพราะยังมีเทพธิดาอีกคน ..ที่รักและห่วงหาเจ้ามาตลอด ...นะเทพวารี .....
ติดตามชมตอนต่อไป
ตอนต่อไปคือ ...เหล่าขุนพล กับเหล่าเทพ