20 เมษายน 2550 02:23 น.

เพื่อพ่อแม่(อยากให้ผู้ที่ศึกษาอยู่กรุณาอ่าน)

ปรียาวาท

พรุ่งนี้ต้องทำรายงานนะแม่  คงใช้เงินค่าอุปกรณ์ในการทำรายงานสองพัน  อาทิตย์หน้านี้มีกิจกรรม ต้องจ่ายค่ากิจกรรมพันนึง  เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลย  ต้องเรียนพิเศษ ขอเงินไปเรียนพิเศษห้าพันนะแม่  แล้วยังต้องลงซัมเมอร์ด้วยนะเนี่ย  มันเป็นวิชานอกคอร์ส  พ่อคงไม่เข้าใจหรอก  วันๆ เอาแต่ทำนาเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย  และถ้าสอบไม่ผ่านก็ต้องลงทะเบียนเรียนซ่อม  ถ้าซ่อมไม่ผ่านก็ต้องเรียนใหม่หมด  เสียเงินตกหมื่นนะแม่  นี่แค่ลงซ่อมแค่ห้าพันอย่าบ่นเลย
	สารพัดคำพูดขอเงินของลูกที่ตนอุ้มท้องและเลี้ยงดูมากกว่า สิบแปดปี ป้อนข้าวป้อนน้ำสารพัด  ส่งเรียนในโรงเรียนดังๆ  ด้วยหวังจะไม่ให้ลำบากเหมือนพ่อกับแม่  ถึงเงินที่ขอมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังต้องให้เพื่ออนาคตของลูก  วันนี้ก็มาขอเงินไปซื้อวัสดุการเรียนอีกสามพัน  เมื่อได้เงินแล้ว เจ้าลูกชายตัวดีก็หายลับไปกว่าจะกลับคงค่ำๆ
	พี่แสน  ฉันว่าเดี๋ยวนี้ลูกเราใช้เงินสำหรับค่าเรียนแปลกๆนะ สร้อยพูดกับผู้เป็นสามี
	สมัยนี้การเรียนต้องใช้เงินเยอะมากผิดกับสมัยที่พวกเราเรียน แต่มันก็ชักจะแลกเกินแล้วจริงๆ เอาเถอะพี่จะลองหาโอกาสคุยกับมันดู
	วันว่างจากการทำนาวันหนึ่ง  แสนเรียกลูกชายมาคุย
	ใหญ่  ไปเดินเล่นดูนากับพ่อหน่อย
	นานแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ชวนเขาไปดูนาตั้งแต่เขาเข้าเรียนมหาลัย  ใหญ่รู้สึกแปลกใจแต่ก็รับคำพร้อมเดินตามพ่อของเขาไปติดๆ
	International  Standard  System  Organization มันคืออะไรหรือลูก แสนถามลูกชายลอยๆ ใหญ่นิ่งเมื่อได้ยินคำถามของพ่อ  International  คือ โดยทั่วไป  Standard  คือมาตรฐาน  System คือ ระบบ  Organization  คือการรวบรวมจัดตั้งเป็นองค์กร  รวมแล้วเรียกกันว่า ISO  แสนพูดขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเงียบ
	พ่อรู้ได้อย่างไร  ใหญ่ถามพ่อแบบงงๆ
 	พ่ออ่านในหนังสือของลูกน่ะ  เห็นว่าน่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับการทำนาได้ดี  มันมีการวางแผนหลายๆอย่างและทำเป็นขั้นตอนด้วย  อย่างอะไรน้า  5W+1H  มี  Who  What  Where  When   Why  และ  How  ใช่มั้ยนะ
	คงอย่างนั้นแหละพ่อถ้าจำไม่ผิด
	พ่อว่าพ่อจำไม่ผิดหรอกนะ   พ่ออ่านและพยายามจำสิ่งเหล่านี้ทั้งๆที่พ่อไม่เคยเรียนแต่การศึกษาทำให้คนเรากว้างมากขึ้นทั้งมุมมองและสังคมด้วย  พ่อเองอยากจะเรียนรู้ให้มากๆ เหมือนกัน  แต่เวลาของพ่อคงน้อยลงแล้ว  ไม่รู้จะได้อ่านหนังสือของใหญ่อีกสักกี่เล่ม
	แสนพูดพร้อมกับกระแอมเบาๆในลำคอ  ใหญ่ยังคงนิ่งเงียบ  พ่อของเขาไม่น่าจะอ่านภาษาอังกฤษได้นี่นา  เห็นแต่ทำนาอย่างเดียวที่เขาเกิด
	มีแฟนรึยังล่ะเนี่ย  ลูกพ่อก็หล่อใช่เบานะ  เหมือนพ่อตอนหนุ่มๆ
	ก็มีบ้างล่ะพ่อ
	น่ารักมั้ย
	ก็น่ารักนะ ใหญ่ตอบอายๆ
	ดีแล้วล่ะ  ตอนพ่อเจอแม่เอ็งนะ   แม่เอ็งเช้าก็ออกทำนาแต่เช้า  กลับก็เย็นๆ  เครื่องสำอางค์ไม่ต้องพูดถึงเลย  ไม่เคยแตะ  ตากแดด  ทำนาตัวดำเป็นเหนี่ยง
	แล้วพ่อชอบแม่ได้อย่างไรพ่อ  ถามด้วยความอยากรู้  เผื่อจะได้เล่าให้เพื่อนๆฟังนิยายรักสมัยซิกตี้นุ่งกางเกงขาบานๆ ใส่เสื้อลายดอก  ใหญ่คิด
	ที่พ่อชอบเพราะแม่เอ็งขยัน  ถึงจะไม่ค่อยมีก็ตาม  ไม่เคยบ่น  ไม่เคยแสวงหาอะไรที่เกินตัวเลย  ใช้สอยอย่างประหยัด  เวลาไปเที่ยวกันทีแทบไม่เคยซื้ออะไรเลย  พ่อต้องซื้อให้แทบทุกครั้ง  แถมโดนบ่นอีกว่าฟุ่มเฟือยซะอีก  แม่แกเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์  ทำให้ครอบครัวมีอย่างทุกวันนี้
	แสนเล่าจบก็ไอออกมาใบหน้าแดงก่ำ  แสดงว่าทรมานมาก   แสนก้าวเท้าลงไปในนาถอนหญ้าที่เป็นวัชพืชออก  ใหญ่ก็ลงไปช่วยอยู่ข้างๆ แสน  ถอนหญ้าไปสี่ห้าครั้งก็รู้สึกปวดหลัง
	ใหญ่รู้มั้ยว่าทำไมชาวนาถึงได้ชื่อว่ากระดูกสันหลังของชาติ
	ก็เพราะชาวนาปลูกข้าวเพื่อเลี้ยงคนทั้งประเทศนะสิพ่อ
	นอกจากจะทำนาปลูกข้าวเลี้ยงคนแล้ว  ยังเป็นอาชีพที่ต้องเอาใจใส่มากมายกว่าจะได้ข้าวมาแต่ละเม็ด  ข้าวที่ได้มาสามารถเลี่ยนเป็นเงินได้  เมื่อหักลบทุนแล้วกำไรก็จะเอามาใช้จ่ายในครอบครัว  สำหรับครอบครัวเรากำไรที่ได้จะถูกเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของใหญ่
	นี่แค่มาช่วยพ่อดึงหญ้า แค่นี้ยังรู้สึกปวดหลังแล้ว  เขาเคยมองดูพ่อกับแม่ดึงหญ้า  ไถนา  คราดนา  หว่านข้าว  ดำนา  ใส่ปุ๋ย  คอยวิดน้ำใส่นา  เกี่ยวข้าว  สีข้าว  พ่อกับแม่อยู่ในนาเป็นวันๆ จะเหนื่อยล้าขนาดไหน
	ภาพในความทรงจำบางอย่างผุดขึ้นมา   เป็นภาพที่เขาพาหญิงสาวสวยคนหนึ่งซื้อเสื้อผ้า  ซื้อเครื่องสำอาง  ซื้อของใช้ต่างๆที่ล้ำสมัย  ใช้ไม่กี่ครั้งก็เลิกใช้  บอกว่าล้าสมัยผุดขึ้นมา  เป็นภาพของกรรณิการ์แฟนของเขานั่นเอง
	แค่กๆ  เสียงไอของแสนดังขึ้นขัดจังหวะ  ภาพต่างๆ หายไป  แสนทรุดตัวลงนั่งที่คันนาบ้วนน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา  ใหญ่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก  เสียงของแสนทำให้เขามีสติกลับมา
	รีบไปบอกแม่ให้เอายามาให้พ่อที
	ใหญ่วิ่งกลับมาบ้านอย่างไม่คิดชีวิต อย่าเป็นอะไรนะพ่อ  วิ่งไปคิดไปตลอดทาง  กลับมาถึงบ้านเห็นแม่กำลังจักตอกเพื่อไว้สำหรับรัดกล้า  เพื่อใช้ในการดำนาอยู่  มือของแม่พันผ้าหลายนิ้วคงเนเพราะมีดบาด
	อ้าว  ไปนากับพ่อเอ็งทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาเสียล่ะ
	แม่  พ่อไอเป็นเลือด  พ่อให้มาเอายา
	ตายแล้วตาแสน  แม่ตะโกนลั่นพร้อมวิ่งขึ้นบ้านหายาโดยมีใหญ่ตามขึ้นติดๆ  แม่คว้ากระเป๋ายาลงมา  หยิบถุงยาที่เป็นชื่อพ่อเปิดออก  แต่มันไม่มียาเหลืออยู่เลย
	ตาแสนนะตาแสน  ยาหมดก็ไม่บอก  คงหมดมาหลายวันแล้วไม่ยอมบอก  หมดจนลืมไปเลยล่ะสิ  คงนึกว่ายังมีเหลืออยู่  แม่เปิดถุงนั้นถุงนี้ทั่วไปหมด  เมื่อไม่พบเลยปล่อยโฮออกมา  ฮือ ฮือ  ตาแสน  รีบวิ่งไปซื้อยามาให้แม่นะ   เอาตัวอย่างถุงยาไปเดี๋ยวหมอเขาจะจัดให้
	แม่ส่งถุงยาแล้วลุกไหยิบกระเป๋าเงินลงมาเปิด  แต่ในกระเป๋าเงินก็ว่างเปล่าเหมือนนึกอะไรได้
	อ๋อ  แม่เอาให้เอ็งซื้อวัสดุการเรียนเมื่อวานแล้วนี่นา  ไม่เป็นไรนะ  เอาเงินเก็บก็ได้
	แม่พูดพร้อมทั้งลุกขึ้นหยิบกระป๋องบนตู้เสื้อผ้า บ้านเขาถึงจะไม่ค่อยร่ำรวยนักแต่ก็พอมีกินมีใช้  พ่อกับแม่ของเขาเป็นคนรอบคอบเสมอกับเรื่องการกินอยู่  ในบ้านมีเงินเก็บเนเรื่องธรรมดา
	อารามรีบร้อนของแม่  ทำให้กระป๋องเงินร่วงลงพื้นฝาเปิดออก  แทนที่จะเป็นแบงก์กลับกลายเนเหรียญมากมายกลิ้งออกมา  แม่รีบไล่ตะครุบเหรียญเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
	ใหญ่  ช่วยแม่หน่อย  ช่วยแม่เก็บเอาไว้แล้วนับให้ได้สามพันนะลูก
	ใหญ่กับแม่ช่วยกันเก็บเงินและนับอย่างเร่งรีบ  ใหญ่เป็นห่วงพ่อ  ส่วนแม่คงเป็นห่วงพ่อไม่น้อยกว่าใหญ่เพราะนับเงินไร้องไห้ไป  มีภาพบางอย่างเกิดขึ้นในสมองของใหญ่อีกครั้ง  เป็นภาพที่เขาควักกระเป๋าจ่ายเงินค่าเที่ยว  ค่ากิน  ค่าซื้อของ  สัพเพเหระต่างๆ  ให้กรรณิการ์แฟนของเขา
	ใหญ่ๆ  เงินมีไม่พอ  ลูกออกไปดูพ่อก่อนนะ  เดี๋ยวแม่ตามออกไป
	ใหญ่มีสติขึ้นมาทันที  ภาพต่างๆ นั้นหายไปหมด
	ไปดูพ่อก่อน  เดี๋ยวแม่ไปบ้านพี่นิด
	พี่นิดที่แม่พูดถึงคือพี่สาวของพ่อที่อยู่บ้านตรงกันข้าม  ป้านิดแกเรียนสูงจบปริญญาตรีทำงานเป็นผู้จัดการอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง  ใหญ่วิ่งออกมาดูพ่อด้านนอกเห็นพ่อของเขากำลังกระย่องกระแย่งอยู่กับการถอนหญ้าในนาข้าว
	ทำไมพ่อไม่พัก  พ่อไม่สบายมากนี่นา
	ค่อยยังชั่วแล้วไม่เป็นไร  ถ้าพ่อไม่ทำแล้วใครจะทำเล่าลูก  ใกล้จะได้เวลาตกกล้าแล้ว  ถ้าไม่ทำจะลำบาก  เอ็งยิ่งใช้เงินเกี่ยวกับการเรียนมากอยู่ด้วยช่วงนี้  พ่อบอกพร้อมทั้งก้มหน้าก้มตาถอนหญ้าต่อไป
	ใหญ่น้ำตาคลอเบ้า  เขาเพิ่งรู้ถึงความลำบากของพ่อกับแม่วันนี้เอง
	อ้อ  แล้วยาพ่อล่ะ  เอามาหรือเปล่า  พ่อพูดเหมือนเพิ่งนึกได้
	เงินไม่พอพ่อ  แม่กำลังไปบ้านป้านิด
	หน้าพ่อถอดสีเมื่อได้ยินอย่างนั้น  รีบไปเร็ว  ไปบ้านป้านิดกับพ่อ  พ่อบอกพร้อมวิ่งนำหน้าใหญ่ไป  ใหญ่วิ่งตามติดๆ  
	อะไรกันสร้อย นี่เพิ่งเอาไปเมื่อวานจะมาเอาอีกหรือนี่  เสียงป้านิดแว่วออกมาจากบ้านเข้าหูใหญ่  นี่มันเรื่องอะไรกัน  เจ้าแสนก็ตัวดีเหมือนกัน  จบตั้งปริญญาโท  โรงงานเขามาตามตัวไม่รู้กี่รอบ แล้วไม่ยอมเนผู้จัดการให้เขา   บอกแต่ว่าอยากทำนาๆ ทำอย่างนี้สบายใจไงล่ะ  ไม่มีเงินก็มาหาแต่พี่มาหาแต่พี่  ไอ้ใหญ่มันหัวไม่ค่อยดียังอยากให้มันจบปริญญาใช้แต่เงินค่าวัสดุเรียนเสริม  ไม่เห็นมันได้ดีเลย
	ใหญ่อึ้งเมื่อได้ยินคำของป้านิด
	พี่นิด  ฉันเพิ่งให้ใหญ่ไปเมื่อวาน  วันนี้มันขาดจริงๆพี่  แล้วเกี่ยวข้าวเสร็จฉันจะคืนให้ทั้งหมดทันที  แม้อ้อนวอนแต่ป้านิดก็ยังไม่เห็นใจ
	ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้  ทำให้ใหญ่เข้าใจเรื่องทุกเรื่องที่พ่อบอก พ่อบอกให้ตั้งใจเรียน  อย่าเพิ่งมีความรัก  เลือกผู้ใหญ่ไม่ใช่หน้าตา   แต่ให้ดูถึงกิริยามารยาท  ความประหยัด  และสุดท้ายทำไมพ่อไม่เคยบ่นเรื่องเงินที่เขาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยในเรื่องที่เขาอ้างเกี่ยวกับการเรียน  ภาพของแม่ที่ทรุดลงร้องไห้กับบันไดของบ้านป้านิดทั้งๆที่ป้านิดเข้าบ้านไปแล้ว  พ่อเดินเข้าไปพยุงแม่ให้ลุกขึ้น
	ข้าไม่เป็นไรแล้ว  กลับบ้านกันเถอะนะ  ใครเขาไม่เห็นใจก็ช่างเขา  สักวันถ้าใหญ่มันเรียนจบแล้ว เราก็คงไม่ต้องพึ่งใครอีก  เราเอาของพี่นิดเขามามากแล้ว  พี่เขาก็มีครอบครัวต้องดูแลเหมือนกัน  แม่หันมามองหน้าพ่อแล้วยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นพ่อทุเลาลง แต่มีอาการหอบนิดๆ  เราทั้งสามคนเดินกลับบ้านมาด้วยกัน  สีหน้าพ่อเหมือนคิดอะไรอยู่
	ใหญ่  เมื่อจบแล้วอย่าทำนาเหมือนพ่อเลยนะ  มันลำบาก  ตั้งใจเรียนให้จบนะลูก  ดูพ่อกับแม่วันนี้ไว้เป็นตัวอย่าง
	ใหญ่เงียบ  เขาอัดอั้นใจพูดไม่ออก  เพราะถ้าพูดน้ำตามันต้องไหลออกมาแน่ๆ  
	ห้าสิบบาทพอแล้วแม่  แค่ค่ารถกับข้าวกลางวันพอ  ไม่เอาหรอกแม่  วันนี้ร่วมหุ้นกันซื้อวัสดุกับเพื่อนใช้เงินไม่มากเท่าไร  เทอมนี้ไม่มีซัมเมอร์แม่  ผ่านหมดทุกตัวแม่ ไม่ต้องลงเรียนซ่อม
	คำพูดของใหญ่ต่างจากที่แม่ของเขาได้ยิน  นับแต่วันนั้นมา  มันทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ยิ้มออกมาได้  ใหญ่ ไม่ได้ใช้เงินเกี่ยวกับการเรียนเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว  ขยันขันแข็ง  ช่วยแบ่งเบาภาระทุกอย่างในบ้าน ไม่ออกจากบ้านแต่เช้าแล้วกลับค่ำๆอีก
	
	
               บางครั้งการที่คนเราทำอะไรไม่ยั้งคิดยั้งทำ  ผลที่จะตามมามันอาจจะทำให้เราต้องมานั่งเสียใจภายหลัง  กรณีของนายใหญ่อาจจะโชคดีอยู่บ้าง  ที่อย่างน้อยๆ เค้าสามารถกลับตัวกลับใจคิดได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป   แล้วคุณล่ะ  เคยลองคิดย้อนดูการกระทำของตัวคุณเองบ้างหรือเปล่า  เพราะบางทีการกระทำของคุณอาจจะกำลังทำร้ายคนที่รักคุณที่สุดโดยที่คุณไม่รู้ตัว   คุณเองคงไม่อยากมารู้ตัวอีกทีเมื่อเรื่องทุกอย่างมันสายเกินไปหรอกนะ...  
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปรียาวาท
Lovings  ปรียาวาท เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปรียาวาท
Lovings  ปรียาวาท เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปรียาวาท
Lovings  ปรียาวาท เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปรียาวาท