23 กันยายน 2546 12:38 น.
ปรารถนา วราฤทธิ์
คนบนโลกทั้งใบมีหลายล้าน
แต่คนที่ต้องการกลับมีเพียงหนึ่ง
จะอ่อนไหวในใจให้ลึกซึ้ง
เธอก็เป็นที่หนึ่งไม่ใช่ใคร
คนอื่นๆหมื่นพันฉันไม่สน
แต่กับเธอหนึ่งคนยอมทนได้
ทนเพื่อรักทนอาทรไม่ถอนใจ
ให้รักใครไม่เท่าใจที่รักเธอ
22 กันยายน 2546 19:29 น.
ปรารถนา วราฤทธิ์
เมื่อมองดาวบนฟ้า
ช่างงามตาหาใดเหมือน
เปล่งแสงคู่ดวงเดือน
ระยิบยับนับร้อยพัน
แวววาวพราวนภา
ใครกันหนาช่างเสกสรร
ร้อยดาวเข้าด้วยกัน
ประดับฟ้าช่างน่าชม
ค่ำคืนนอนนับดาว
กลางลมหนาวใจขื่นขม
แสนเหงาเศร้าระทม
ต้องตรอมตรมอยู่เดียวดาย
22 กันยายน 2546 19:26 น.
ปรารถนา วราฤทธิ์
ฉันยืนอยู่เดียวดายภายใต้ฟ้า
มองดาราเจิดจ้าสว่างใส
ความเงียบเหงารุมเร้าในหัวใจ
ค่ำคืนนี้ฤทัยใยเศร้าตรม
ใบหน้าเธอเวียนวนในความคิด
พาให้จิตใจฉันนั้นขื่นขม
ความคิดถึงบีบให้ทุกข์ระทม
ยิ่งดิ่งจมสู่ความมืดในหัวใจ
หนาวแสนหนาวปวดร้าวในหัวอก
น้ำตาตกหัวใจสั่นหวั่นไหว
ทรมานคิดถึงคนห่างไกล
อยากบินไปอยู่ในอ้อมกอดเธอ
22 กันยายน 2546 19:14 น.
ปรารถนา วราฤทธิ์
มนุษย์คิดว่าตนฉลาดเลิศ
แสนประเสริฐในจิตคิดสร้างสรรค์
ทั้งประดิษฐ์สิ่งมากมายหลายร้อยพัน
ยังรังสรรค์สังคมเขาจนก้าวไกล
แต่มนุษย์นั้นจะรู้บ้างไหมเล่า
ว่าพวกเขาสร้างสังคมจนสดใส
แต่กลับลืมสิ่งสำคัญที่สุดไป
นั่นคือจิตสำนึกในใจเขาเอง
มนุษย์สร้างความเจริญในด้านวิทย์
แต่ว่าจิตใจเขากลับโหรงเหรง
มีแต่ความชั่วช้าน่ากลังเกรง
สุดวังเวงในดวงจิตลองคิดดู
มนุษย์เอ๋ยคิดว่าตัวฉลาดนัก
แต่ยิ่งมองยิ่งประจักษ์น่าอดสู
อันความจริงมนุษย์นั้นโง่น่าดู
เฝ้าเชิดชูแต่สิ่งที่ไม่จีรัง
22 กันยายน 2546 18:57 น.
ปรารถนา วราฤทธิ์
หัวใจลอยละล่องท่องฟากฟ้า
ส่งสายตาทอดยาวเคล้าหวั่นไหว
แอบแย้มยิ้มผู้เดียวอยู่เรื่อยไป
นี่คือรักใช่ไหมใจเจ้าเอย
อันความหมายลึกล้ำของคำนั้น
มีใครกันที่พลันพบจบเฉลย
ฉันไม่อาจเข้าใจสักนิดเลย
โอ้..รักเอยจริงแท้เป็นเช่นไร
แม้หัวใจกับความรักจักเคยคุ้น
รักละมุนแสนหวานยิ่งสิ่งไหน
แต่แก่นแท้ของรักคืออะไร
รักนิรันดร์มีจริงไหมหรือไม่เลย
เฝ้าค้นหาความหมายที่ซ่อนไว้
เพราะหัวใจวุ่นว้ามิอาจเฉย
อยากรับรู้ให้ซึ้งซึ่งรักเอย
สิ่งใดเลยคือรักแท้ที่แน่นอน