18 กันยายน 2550 15:52 น.
ปราณรวี
นั่งเหม่อมองท้องฟ้าคราเย็นย่ำ
ทุกข์กระหน่ำน้ำตาพารินไหล
ได้แต่ทอดถอนจิตคิดคราใด
โอ้ดวงใจไหวหวั่นแต่นั้นมา
คงลืมเราแล้วหนอที่รออยู่
ก้าวไปสู่ทางใหม่ไม่เหลียวหา
ปล่อยให้คอยน้อยใจในชะตา
กับบ้านนาว้าเหว่เตร่ตรอมตรม
ไหนเจ้าเคยสัญญาว่าจะกลับ
ไม่เลยลับลาไกลให้ขื่นขม
กี่เนิ่นนานเฝ้ารอทอระทม
เหมือนดิ่งจมห้วงทุกข์สุขลางเลือน
ยิ่งนับวันฝันจางจนห่างหาย
เดือนก็กลายหลายทีปีก็เคลื่อน
คือฝันร้ายเจ้าหายหน้าไม่มาเยือน
ดังถูกเฉือนหัวใจเลือดไหลริน
จากมีหวังหวังก็หมดรันทดนัก
จากเคยรักรักก็หายไปหมดสิ้น
จากเคยใกล้ก็ไกลห่างร้างดวงจินต์
จึงชาชินกับขยาด..เลิกหวาดกลัว
.....อีกไม่นานเลิกขยาดจากหวาดกลัว
ด้วยรู้ตัวทั้งชีวิตใกล้ปลิดปลง.....
.
10 กันยายน 2550 13:03 น.
ปราณรวี
เกิดเป็นคนบนวัฏสงสาร
ซมซานหนีหน้าหาได้ไม่
กรรมใหม่กรรมเก่าเฝ้าตามไป
รุกไล่ถาโถมเข้าโรมรัน
จากเกิดจนแกร่งทุกแห่งหน
ปะปนหลายหลากมากสีสัน
เดี๋ยวยิ้มดี๋ยวไห้ได้จาบัลย์
รุ่งวันเปลี่ยนไปให้แปลกนัก
ชีวิตมิใช่จะหวานฉ่ำ
หรือตกระกำจนช้ำหนัก
มีเกลียดชิงชังทั้งมีรัก
มีหนักมีเบาคลุกเคล้าไป
อาจร้อนผ่อนคลายแล้วหายร้อน
หรือนอนหนาวเหน็บเก็บพิษไข้
อาจโศกทุกข์ทนหม่นฤทัย
แล้วสุขมาใหม่ไม่จีรัง
ขอเพียงหัวใจไม่ย่อท้อ
อดทนสู้ต่อพอมีหวัง
มองสิ่งรอบข้างอย่างจริงจัง
แล้วตั้งจิตมั่นให้สัญญา
จะก้าวเท้าย่างอย่างมีสติ
รู้ดำริครวญใคร่ไม่กังขา
ก่อกรรมดีละเหตุเวทนา
ส่งชีวาข้ามห้วงบ่วงกรรมเวร
9 กันยายน 2550 00:25 น.
ปราณรวี
สับสนปนเปให้เหว่ว้า
ซ่อนหน้านานเนาเขาไม่เห็น
อยากลี้หลีกไกลคล้ายจำเป็น
ชาเย็นเร้นลวงกับบ่วงใจ
หรือลืมคำมั่นเคยสัญญา
หลุดร่วงโรยราหามั่นไม่
หนทางเพียงนี้มิใกล้ไกล
แต่ใยคล้ายห่างจืดจางลง
ยิ่งพิศยิ่งเห็นเป็นประจักษ์
เพราะใจจมปลักจึงลุ่มหลง
เมินมองข้ามไปไม่พะวง
จึ่งกรงรักขังยังทรมา
เป็นเพียงหนึ่งตัวสำรอง
เขาจองจับไว้ให้กังขา
หากคนโน้นไป..คนนี้มา
เปลี่ยนหน้าไม่เว้นแต่ละวัน
ถามตัวถามใจในครานี้
เวลามากมีที่โศกศัลย์
อดทนอยู่ได้อย่างไรกัน
ถูกบั่นผันแปรแพ้กลลวง
ดั่งคนไร้ค่าน่าสังเวช
อาเพศชักพามาติดบ่วง
หากตัดเยื่อใยทั้งหลายปวง
คงร่วงหลุดพ้น..คนพ่ายแพ้
6 กันยายน 2550 00:08 น.
ปราณรวี
อยู่แคว้นแดนใดไกลสุดหล้า
นับคณามากมายให้พบเห็น
เมืองใหญ่โตโก้หรูดูช่างเป็น
เฉกเช่นแดนสวรรค์ดั้นด้นไป
พัฒนาก้าวล้ำเกินคำกล่าว
หลากเรื่องราวดำเนินเกินขานไข
ทั้งผู้คนเชื้อชาติพิลาสพิไล
ดูเป็นใครที่ไม่คุ้นจะหนุนนำ
และท่ามกลางฝูงชนล้นหลากนี้
เรากลับมีความเหงาเฝ้ากลืนกล้ำ
มองทางไหนใจว้าเหว่เร่ระกำ
ทุกคืนค่ำคิดถึงบ้านจนซานซม
ที่พ่อแม่พี่น้องปองรักใคร่
ทุกดวงใจใครครามาห่อห่ม
ให้หมดทุกข์หมดภัยคลายระทม
ที่ช้ำตรมก็เต็มตื้นจนชื่นใจ
บ้านหลังนี้มีรักสลักจิต
ไม่เบือนบิดขัดข้องให้ร้องไห้
ไม่เคยลดถดถอยน้อยลงไป
ทุกห่วงใยมอบมาด้วยอาทร
บ้านหลังไม่ใหญ่โตจนโก้หรู
แต่เฟื่องฟูอยู่เย็นเป็นสิงขร
ช่วยปกป้องคุ้มภัยหายสั่นคลอน
จึ่งรอนรอนไหววับอยากกลับคืน