22 เมษายน 2551 01:39 น.
ปราณรวี
แว่วเสียงเพลงพลิ้วแผ่วแนวหวานรื่น
ยามค่ำคืนคราดาวพราวประดับ
นภาพร่างแพรวพรายประกายระยับ
ความมืดจับวับวาวด้วยดาวน้อย
ดอกราตรีคลี่บานรัตติกาลล่วง
ขาวเด่นดวงไกลตาเกินคว้าสอย
ครั้นต้องลมพรมรวงร่วงหลุดลอย
ดอกน้อยน้อยเกลื่อนตาบนหญ้างาม
หอมเจ้าเอยเคยคุ้นกรุ่นกลิ่นเจ้า
ท่ามแสงเงาดาราฟ้าอร่าม
หอมเอยยังฝังใจในทุกยาม
เกินหักห้ามคิดถึงหนึ่งคนนั้น
โอ้ยามนี้นิทราหรือว่าตื่น
ได้กลิ่นชื่นโชยไปหรือไม่นั่น
ดอกราตรีร่วงพื้นทุกคืนวัน
กลัวถูกปันรักขาดสวาสดิ์วาย
จนดึกดื่นดวงดาวยังพราวพร่าง
ดูกระจ่างเย็นตานภาฉาย
หอมรำเพยเคยชื่นมิคืนคลาย
ขอเจ้าชายคนนั้นหลับฝันดี
.
15 เมษายน 2551 20:43 น.
ปราณรวี
ดูละครย้อนยุค..สนุก-เศร้า
นิยายเก่าเก็บนำมาทำใหม่
ผูกเรื่องราวยอกย้อนสะท้อนใจ
ตั้งชื่อให้เกี่ยวพันถึงชั้นชน
เป็นนางทาสขาดสิ้นทั้งสินทรัพย์
ถูกจองจับรวบรัดขัดดอกผล
แทบไม่เหลือราคาค่าแห่งคน
อยากหลุดพ้นทำได้อย่างไรกัน
ด้วยรักหลงโกรธาคือสาเหตุ
เกิดสังเวชกายใจให้โศกศัลย์
ถูกข่มเหงน้ำใจไม่เว้นวัน
สะอื้นกลั้นน้ำตาอุราร้าว
บ้างบ่มเพาะริษยาผูกอาฆาต
เกิดบ่วงบาศผลกรรมทำร้อน-หนาว
จะกินนอนดั่งฟอนไฟไหม้ทุกคราว
สร้างเรื่องราวร้อยเล่ห์เพทุบาย
ถึงตอนจบของเรื่องความเคืองแค้น
ที่อัดแน่นนานมาพาเสียหาย
ใครอดทนเป็นคนดีทุกข์คลี่คลาย
ใครปองร้ายต้องรับกับโทษทัณฑ์
ดูละครย้อนคิดพิศให้ทั่ว
มองดูตัวกับละครทุกตอนนั่น
ว่าเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรกัน
ดีเลวนั้นสุดท้ายใครรับมา
แม้รู้ลึกตรึกตรองแต่มองข้าม
อาจลุกลามด้วยพิษริษยา
หากรุ่มร้อนเพียงใดไม่นำพา
คงโศกาเมื่อกรรมเก่าเจ้าตามทัน
6 เมษายน 2551 07:27 น.
ปราณรวี
**สองกรประณตน้อม....วันทนา
ก้มกราบบูรพกษัตรา.....ฉัตรรั้ง
บรมราชจักรีมหา.........วงศ์สวัสดิ์
ปกราษฎร์เวียนวารตั้ง...รัฐเรื้องนิกรเกษม
นวรัชทรงปกด้วย.........ทศธรรม
ทรงแผ่พระบารมีนำ....ชาติพร้อม
ผดุงศาสน์สฤษฏ์สำ-.....เร็จยิ่ง พระเอย
ปวงพสกสยามน้อม.....เกศก้มสดุดี**
ศรีวารเวียนบรรจบครบอีกรอบ
ประณตนอบกราบบังคมบรมศรี
บูรพกษัตราฟ้าจักรี
เทิดภูมีปกเกล้าผองชาวไทย
พระเกริกเกียรติก้องไกรไปทั่วทิศ
ทศพิธราชธรรมค้ำจุนให้
ประชาราษฎร์ทั่วเขตพ้นเภทภัย
คือศูนย์รวมจิตใจของไพร่ฟ้า
ได้อยู่ดีมีสุขพ้นทุกข์ร้อน
พระอาทรดั่งฝนหล่นพรมหล้า
ด้วยสำนึกระลึกถึงพระกรุณา
ชาวประชาต่างแซ่ซ้องสดุดี
.
1 เมษายน 2551 19:21 น.
ปราณรวี
อายุยังอ่อนเยาว์รอก้าวย่าง
บนหนทางมุ่งมาดปรารถนา
ค่อยฝึกฝนพากเพียรเรียนวิชา
การศึกษาพาจุดหมายสู่ปลายทาง
แต่สังคมรอบข้างถูกสร้างครอบ
คือคำตอบยับเยินเกินสะสาง
คล้ายชี้นำลำดับถูกจับวาง
เป็นแบบอย่างแด่พวกเขา..เยาวชน
ทั้งแฟชั่นสรรมา..ดาราแต่ง
การแสดงตบตีชี้สับสน
อีกเข่นฆ่าคับแค้นแน่นกมล
หลากเล่ห์กลค้นหามาดัดแปลง
ทั้งแย่งชิงหญิงชายไม่อายหน้า
เป็นข่าวคราวนำพามาแถลง
เรื่องเด่นดังแบบนี้ต้องชี้แจง
ให้แจ่มแจ้งรู้ทันกันทั่วไป
จากเรื่องน่าอดสูมาสู่สื่อ
ช่วยกระพือรับลูกผูกส่งให้
จึงบิดเบือนเลื่อนลากจากความนัย
สื่อถูกใช้ฟอกตัวเพียงชั่ววัน
ยุวชนคนดีจี้ตามติด
มิรู้คิดสิ่งใดไม่สร้างสรรค์
ลอกเลียนแบบพฤติกรรมซ้ำซ้ำกัน
อวดประชันฉาวโฉ่ ..โก้เหลือเกิน
เพราะอ่อนด้อยวิทยาจะท้าสู้
เลือกรับรู้ร้อยเรียงเพียงผิวเผิน
เมื่อรุ่มร้อนปัญหามิกล้าเผชิญ
กลับดุ่มเดินตามใครก็ไม่รู้
จึงมีข่าวมากมายหลายหลากเรื่อง
เกิดต่อเนื่องนานปีที่เห็นอยู่
ใครคือผู้เกี่ยวข้องโปรดมองดู
หากคุดคู้ทำนิ่งยิ่งลุกลาม
หาหนทางแก้ไขในวันนี้
อย่ารอรีตั้งรับกับคำถาม
ถึงเวลาเอาจริง..ใช่วิ่งตาม
ควบคุมความรุนแรงแห่งสื่อไทย
สิ่งสร้างสรรค์พัฒนาหามาเปิด
ให้ก่อเกิดความคิดวินิจฉัย
รู้ใคร่ครวญด้วยปัญญาว่าสิ่งใด
ควรนำไปเป็นต้นแบบอย่างแยบยล
21 มีนาคม 2551 03:33 น.
ปราณรวี
เสียงสุดท้ายวังเวงบรรเลงแผ่ว
เธอจะแว่วยินไหมให้กังขา
กับมุมมืดมิดชิดปิดหูตา
หมดเหนื่อยล้าอาทรทั้งร้อนเย็น
เหลือเพียงร่างทอดยาวราวหลับใหล
ละทิ้งไว้ปวงสุขและทุกข์เข็ญ
ไม่สนใจใยดีที่เคยเป็น
หยุดโลดเต้นวิ่งตามความต้องการ
พระรูปหนึ่งเยื้องย่างนั่งธรรมาสน์
หมู่มวลญาตินิ่งสดับรับธรรมสาร
ท่านเปรียบเปรยเอ่ยถึงซึ่งพรหมญาณ
ยกนิพพานสูงสุดดั่งพุทธองค์
บทส่งท้ายร่ายเรียงเพียงให้คิด
อย่ายึดติดสิ่งใดจนไหลหลง
ด้วยความตายหมายหัวทั่วเผ่าพงษ์
มิมั่นคงเลือกไพร่หรือใหญ่โต
อะนิจจา วะตะ สังขารา อุปาทะวะยะธัมมิโน
อุปัชชิตะวา นิรุชฌันติ เตสัง วูปสโม สุโข
ว่าสังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
ฤๅรั้งรอห่วงหวงด้วยบ่วงโซ่
มีแต่ร่วงโรยลาจนล้าโซ
จำอวดโอ้ใครใครได้ไม่นาน
ธรรมดาเกิดขึ้นแล้วเสื่อมถอย
ต่างรอคอยล่วงลับดับสังขาร
สุขสงบพบได้ที่ปลายกาล
มิเนิ่นนานเกินรอต่อมรณา
ลมหายใจหนึ่งวูบสูบเข้าออก
เป็นตัวบอกความนัยหายกังขา
สั้นเข้ามาทุกทีแล้วชีวา
อย่ารอช้าเร่งทำแต่กรรมดี
เพียรระลึกนึกไว้ไม่ประมาท
หากสิ้นชาติภพไปในวันนี้
เหลือสิ่งใดไว้ตอบแทนดินแดนที่
ให้ชีวีเติบใหญ่จวบวัยวาร
ที่ผ่านมาสิ่งใดได้สร้างสรรค์
จนถึงวันจากวัฏสงสาร
จงรีบตรองมองซึ้งถึงเหตุการณ์
ก่อนพ้นผ่านเลยไป..ไร้กำลัง