18 พฤษภาคม 2550 11:16 น.
ปราณรวี
มองฟากฟ้าคราใดใจเงียบเหงา
เพราะกั้นเราไกลห่างบนทางฝัน
จึงทุกข์ทนหม่นหมองร้องรำพัน
รักถูกบั่นจืดจางจนร้างลา
อยากฝากความคิดถึงซึ้งดวงจิต
ให้ตามติดเมฆน้อยลอยไปหา
ส่งความรักฝากไปในนภา
บอกเธอว่าเป็นห่วง..จากดวงใจ
อยากขีดเขียนสารส่งบรรจงถ้อย
แล้วเรียงร้อยลอยฟ้าส่งมาให้
แต่รู้สึกลึกล้ำเกินคำใด
จะเคียงใกล้ใจฉันบรรยายพอ
อยากจะพับแผ่นฟ้าเวลานี้
เมื่อยังมีพลังใจไว้สานต่อ
ย่นหนทางมาใกล้ได้ถักทอ
เลิกทุกข์ท้อทรมานที่นานมา
แต่ไม่อาจทำได้ดั่งใจฝัน
ด้วยฟ้านั้นกว้างใหญ่เกินไขว่คว้า
รักจึงล่มล้มหายจากสายตา
ทอดเวลาเงียบเหงา..ให้ยาวนาน
17 พฤษภาคม 2550 10:23 น.
ปราณรวี
เมื่อลมหนาวมาเยือนเหมือนบอกกล่าว
ถึงเรื่องราวรักร้างที่ห่างหาย
เจ็บระกำช้ำหนักรักมลาย
ชีพเกือบวายคล้ายปลิวพลิ้วตามลม
ครั้นหนาวลาครานี้มีแต่เศร้า
เหลือเป็นเงาตามติดจิตขื่นขม
ไม่ปลาบปลื้ม..ลืมไม่ได้ใจตรอมตรม
ดั่งโง่งมซมซานสะท้านใจ
แม้มองกรอบรอบกายดอกไม้สวย
กลิ่นระรวยหอมหวนยั่วยวนให้
แต่ทุกข์ขังฝังชิดติดเนื้อใน
เห็นสิ่งใดก็แฝงเศร้าทุกคราวครา
ไม่อาจหวังดวงใจจากใครแล้ว
เหลือแต่แววชอกช้ำร่ำเรียกหา
ถึงปลายหนาวร้าวรานที่ผ่านมา
โปรดช่วยพาช้ำไป..ไม่ย้อนคืน
เพลง: เหมันต์ที่ผ่านพ้นไป (สุชาติ ชวางกูร)
16 พฤษภาคม 2550 07:00 น.
ปราณรวี
ฟ้ามืดครึ้มเมฆลอยคล้อยลงต่ำ
สีเทาดำกำบังแสงแฝงรอยเศร้า
ลมพัดพลิ้วหวิววาบฉาบกับเงา
ความร้อนเร่าเบาบางจางหายไป
บนยอดกิ่งไม้ไหวใบละ..ร่วง
หลุดจากรวงควงหล่นบนน้ำใส
ทิ้งก้านเปลี่ยวเดียวดายไม่สนใจ
เหลือเอาไว้ใยเหงาเจ้าถักทอ
ยามฝนโปรยโรยรายคล้ายจะกล่าว
บอกเรื่องราวหนหลังครั้งรักก่อ
แต่อนาถบาดใจใยไม่พอ
ที่ถักทอจึงขาดผล็อยน่าน้อยใจ
มองฟ้าครึ้มอีกคราน้ำตารื่น
กลายเป็นอื่นแล้วรักถูกผลักใส
เหลือเพียงรอยเจ็บช้ำย้ำทรวงใน
ฝากเอาไว้ที่ปลายฟ้าคราเมฆพรม
รูป: h**p://photos5.flickr.com/
9142237_4c18adeae4.jpg
เพลง: ไม้เมือง
15 พฤษภาคม 2550 02:26 น.
ปราณรวี
เป็นเพียงไม้ก้านน้อยที่คอยซ่อน
แอบดูตอนตะวันแจ้งแล้วแฝงหลบ
โอ้ไม้งามคลี่บานเพื่อพานพบ
ยอมสยบใต้ระวีมิเปลี่ยนแปลง
เมื่อสีทองส่องมาข้าไหวหวั่น
ทานตะวันดอกงามยามต้องแสง
เจ้าเริงร่าท้าแดดที่แผดแรง
ดูกล้าแกร่งแกว่งไกวในสายลม
ไม้ขีดไฟใจเศร้าเฝ้าหลงรัก
ช่างหนาวเหน็บเจ็บหนักรักไม่สม
เจ้าไม่เหลียวมองมาพาระทม
อยากชื่นชมสบตาสักคราครั้ง
แต่ดูเหมือนยิ่งตรมสุดขมขื่น
เฝ้าทนฝืนดูนงคราญบานสะพรั่ง
หมุนตามติดสุริยาที่ข้าชัง
แล้วหันหลังให้มาน่าน้อยใจ
สุดอาวรณ์อ่อนจิตด้วยคิดหนัก
เพราะความรักล้นปรี่จนรี่ไหล
จุดตัวเองขึ้นมาไม่ช้าใย
ให้เกิดไฟส่องแสงแจ้งตระการ
ไม้ขีดน้อยใจสลายเดียวดายนัก
เพียงสักพักก็มอดไหม้ไปค่อนก้าน
ทานตะวันหันมาไม่ช้านาน
พบแต่เพียงเถ้าถ่านของก้านไม้
อนิจจาความรักใยหนักยิ่ง
ยอมทุกสิ่งทิ้งหมดรันทดไห้
แม้ชีพดับลับลาไม่อาลัย
ขอเพียงได้ปรารถนา..สบตาเธอ
รูป: h**p://2519me.com/NTOctober/
NTOctober/NTOsong&midi/NTOsongspic/
sunflower_fairylg%5B1%5D.jpg
เพลง: ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน (วิยะดา โกมารกุลฯ)
14 พฤษภาคม 2550 02:49 น.
ปราณรวี
คือผู้เฒ่าชราอายุมาก
ผู้เคยฝากผลงานมานานโข
ประสบการณ์ผ่านไปล้วนใหญ่โต
อาจคุยโวหรือไม่..ใช่ประเด็น
เมื่ออายุลุวัยไม้ใกล้ฝั่ง
ก็เสื่อมโทรมโหมประดังอย่างที่เห็น
เคยแคล่วคล่องว่องไวก็กลายเป็น
นั่งรถเข็นหรือเชื่องช้ากว่าก่อนกาล
เปรียบเด็กน้อยค่อยเติบใหญ่ในวันนี้
ทุกเรื่องราวมากมีที่สืบสาน
ต้องเรียนรู้คู่จับกับวันวาน
เพื่อสร้างสรรค์ผลงานเมื่อผ่านไป
ด้วยแรกรุ่นเริ่มเจริญจึงเหินห่าง
ความแตกต่างบนทางเดินเกินผลักไส
เกิดช่องว่างทั้งความคิดและจิตใจ
คนสองวัยจึงแปลกแยกจากจร
อันต่างวัยใช่แตกต่างทางความคิด
สิ่งใดถูกหรือผิดไม่ปิดซ่อน
เด็กตัวน้อยค่อยจำอาจพร่ำวอน
ผู้เฒ่าสอนสิ่งดีดีเคยมีมา
ด้วยเห็นโลกกว้างใหญ่ในอดีต
จึงเขียนขีดไว้เป็นทานการศึกษา
เด็กรุ่นใหม่ได้คิดพิจารณา
แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะควร
เป็นเด็กเล็กต้องอ่อนน้อมถ่อมตนไว้
ทำสิ่งใดตรองให้ดีจนถี่ถ้วน
มอบเคารพเชื่อฟัง..ทั้งทบทวน
จึงคู่ควรกับวิชามีค่าเอย
ภาพ: h**p://www.healthnet.in.th/
text/forum2/old/p5.htm