24 พฤษภาคม 2549 19:30 น.
ปราณรดี
เจ้าพระยามหานคร
อยากจะย้อนวันก่อนเก่า
อารยธรรมสืบลำเนา
หลากเรื่องเล่ารอยเงาคำ
ตำนานสานประวัติ
ย่อมแจ่มชัดทุกเช้าค่ำ
"สี่แผ่นดิน" แม่พลอย นำ
เล่าเรื่องสร้างงานแผ่นดิน
"สองฝั่งคลอง" ลองอ่านเรื่อง
นิยายเปรื่องเล่าเรื่องศิลป์
ชัดภาพระรวยริน
ใช้ดื่มกินน้ำพระยา
เจ้าพระยา ... ถิ่นเก่าก่อน
สุนทรภู่เคยอยู่ท่า
หลงใหลในมนตรา
เสน่ห์น้ำล้ำดวงใจ
เคยอยู่ เคยเรียนร่ำ
เคยเที่ยวลำน้ำเคยใส
กระทงเคยส่งไป
ในคืนเพ็ญเดือนสิบสอง
อาหารศิริราช
ก็สะอาดน่าลิ้มลอง
ข้ามเรือเพื่อเที่ยวมอง
เมียงหนุ่มสาวท่าพระจันทร์
ถนนวัฒนธรรม
ศิลปะล้ำน้ำใจปัน
วาดวางสื่อสร้างสรรค์
โรงละครวอนนั่งชม
เกี่ยวเก็บกับชีวิต
ได้ครุ่นคิดและรื่นรมย์
สนามหลวงยังสุขสม
กิจกรรมหลากมากเรื่องราว
หวนหาอดีตกลับ
อยากเก็บพับไว้ขานกล่าว
ที่นี่ ... ในหนึ่งคราว
ฉันเคยอยู่เคยกินนอน
วันหนึ่งจักไปเยือน
ไปย้ำเตือนสิ่งเก่าก่อน
เจ้าพระยามหานคร
ใจยังวอนคิดถึงจัง.
22 พฤษภาคม 2549 17:56 น.
ปราณรดี
สะพานสานฝันอันไกลลิบ
ราวทิพย์สรวงสรรค์สร้างจุดหมาย
ด้วยหวังข้างในได้พรั่งพราย
วางรายสิ่งงามความต้องการ
ปรารถนาถึงฝันอันไกลลิบ
ระยิบดาวดวงยังช่วยสาน
ให้ถึงที่หมายไต่สะพาน
แสนหวานเดินทางตามหวังงาม
หนามขวากถากง่ายไม่ใช่หนัก
อุปสรรคกลายเป็นเรื่องผ่านข้าม
ด้วยตั้งหวังไว้ใต้ฟ้าคราม
ไร้ซึ่งคำถามความกังวล
สะพานสานฝันอันไกลลิบ
อย่าหยิบสิ่งข้องมัวหมองหม่น
ขอให้เห็นพร่างสว่างบันดล
ทุกหนเส้นทางก็ง่ายดี
สำคัญระหว่างทางสู่ฝัน
มิใช่บุกบั่นเพื่อศักดิ์ศรี
จึงเดินเพลินสบายใจเปรมปรีดิ์
ถึงที่ผ่อนคลายไม่หนักเลย.
20 พฤษภาคม 2549 19:28 น.
ปราณรดี
แมวเอ๋ยแมวเหมียว
รูปร่างปราดเปรียวเป็นหนักหนา
พักผ่อนนอนหลับพริ้มดวงตา
ยืดแข้งเหยียดขาสบายใจ
พื้นที่อุ่นอุ่นแมวคุ้นนัก
ตัวเล็กไม่หนักสักเท่าไหร่
คงฝันถึงที่เล่นที่ไกลไกล
ถึงดอกไม้ถึงแผ่นดินถิ่นสีทอง
แมวเอ๋ยแมวเหมียว
รูปร่างปราดเปรียวอย่ามัวหมอง
พื้นไม้นอนเหยียดขาอย่าลำพอง
ตื่นแล้วก็อย่าร้องกวนใจใคร
จะเป็นแมวที่น่ารักของทุกคน
ไม่วุ่นวายก่อสับสนจนหวั่นไหว
จะย่องเดินเพลินเล่นให้เห็นใจ
อย่ากวนให้ใครรำคาญ นะ แมวเอย.
18 พฤษภาคม 2549 20:45 น.
ปราณรดี
เดียวดายกลางสายฝน
ฟ้ามืดหม่นทนเหน็บหนาว
คิดถึงซึ้งเรื่องราว
พริ้มพราวฝันวันพร่างพราย
คิดถึงดวงตะวัน
ยามฟ้าพรั่นฝนถั่งสาย
แสงทองส่องประกาย
ก็เลือนหายคล้ายไม่เห็น
คิดถึงดวงตะวัน
ในยามฝันยามเย็นเย็น
น้ำซ่านสาดกระเซ็น
หนาวแค่ไหนใครดับหนาว
คิดถึงดวงตะวัน
ในเช้านั้นน้ำค้างพราว
หม่นฟ้าน้ำตาดาว
ยังคงร้าวการรอคอย
คิดถึงดวงตะวัน
ยามเที่ยงนั้นแสงเร้นรอย
แดดหลบหลังเมฆดอย
น้ำฟ้าปรอยโปรยประพรม
คิดถึงดวงตะวัน
ในยามฉันนั่งปลักจม
น้ำฝนหล่นสั่งสม
ซ่านริ้วลมข่มขั้วใจ
คิดถึงดวงตะวัน
ใช่, ฝันลางกลางฟ้าใหม่
หมองเยือนเหมือนแทรกใน
อยากได้แสงสาดกลางทรวง
อยากอุ่น ... คุณคนดี
ที่ห่างเหินเกินห่วงหวง
ตะวันมาดับดวง
และคุณล่วงมาเลือนใจ
ภารกิจติดธุระ
ห่วงคุณนะ จะรู้ไหม
ฝนฟ้ากั้นเราไกล
และงานใดขวางเราเกิน
คิดถึงดวงตะวัน
ในใจฉันคุณห่างเหิน
หม่นฟ้าคราหมางเมิน
ตะวันเพลินกับฟ้าใด
เดียวดายกลางสายฝน
เพียงสวดมนต์สื่อดลใจ
รักษาตนอย่าหม่นใด
เบิกบานนะ ... ดวงตะวัน.
18 พฤษภาคม 2549 19:07 น.
ปราณรดี
หล่นโรยโปรยมนต์ภาคพื้น
ชุ่มชื่นชีวาไหนเหมือน
พราวดอกเก็จแก้วแพรวเยือน
ร่วงเกลื่อนเพชรน้ำฉ่ำใจ
เคยร้อนผ่อนคลายหายร้อน
เจ็บผ่อนประสานแผลใหม่
เศร้าโศกโลกร้าวเท่าใด
ฝนใสฝันฉ่ำฝุ่นจาง
ม่านฝนหล่นรายสายรัก
เชื่อมถักเลื่อมทอก่อพร่าง
สะท้อนแววรุ้งมุ่งวาง
อยากแหวกม่านกลางค้นฟ้า
หล่นโรยโปรยมนต์บนพื้น
ชุ่มชื่นดื่มด่ำล้ำค่า
ม่านเอย ... ม่านฝนถักมา
ทาบทาทอทางพร่างพริ้ม.